คำพิพากษาศาลฎีกา ปี 2523

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 168

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 168/2523

ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ม. 213

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ลงโทษฐานฆ่าคนและมีปืนเป็น 2 กระทงจำเลยฎีกา ศาลฎีกายกประโยชน์แห่งความสงสัยให้แก่จำเลย แม้ข้อหาฐานมีปืนต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริง เมื่อข้อสงสัยนั้นคือจำเลยใช้ปืนของกลางยิงผู้ตายหรือไม่ ศาลฎีกาพิพากษายกฟ้องฐานมีปืนด้วยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 185

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 167

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 167/2523

ประมวลกฎหมายอาญา ม. 83

จำเลยมาที่ร้านขายอาหารกับพวกเพราะมีเรื่องโต้เถียงกับ ก.พวกของจำเลยเข้าทำร้าย ก. จำเลยอยู่ในที่เกิดเหตุ และหนีไปกับพวกจำเลยเป็นตัวการตามมาตรา 288 ร่วมกับพวกด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 166

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 166/2523

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม. 113, 904, 916 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ม. 28 พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.2497 ม. 3

สัญญาที่คนเดินโพยต้องรวบรวมเงินที่ได้จากการขายสลากกินรวบไปมอบให้แก่เจ้ามือเป็นสัญญาที่มีวัตถุประสงค์เป็นการต้องห้ามชัดแจ้งโดยกฎหมายเป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 113เช็คพิพาทที่จำเลยคนเดินโพยออกให้เพื่อชำระหนี้ดังกล่าว จึงไม่มีมูลหนี้โจทก์รับเช็คไว้โดยทราบถึงมูลหนี้อันมิชอบด้วยกฎหมายดังกล่าว จึงไม่มีสิทธิฟ้องเรียกร้องขอบังคับการชำระหนี้ได้ โจทก์ไม่ใช่ผู้เสียหายจึงไม่มีอำนาจฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 165

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 165/2523

ประมวลกฎหมายอาญา ม. 225 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ม. 219

จำเลยจุดไฟเผาต้นไม้ที่โค่นไว้ในสวนของจำเลย จำเลยทำทางกันไฟไว้กว้าง 2 ศอก แต่แดดร้อนจัดและลมแรงไม่พอป้องกันมิให้ไฟลามไปไหม้สวนของผู้อื่นได้ เป็นประมาท แม้เป็นคดีที่ห้ามฎีกาในข้อเท็จจริง ศาลฎีการอการลงโทษได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 163

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 163/2523

ประมวลกฎหมายอาญา ม. 362, 365

การกระทำอันจะเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 362, 365 นั้น ต้องเป็นการรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์

โจทก์มิได้บรรยายฟ้องว่าทรัพย์ที่จำเลยรบกวนนั้นเป็นอสังหาริมทรัพย์การที่โจทก์กล่าวถึงทรัพย์นั้นว่าเป็นแผงลอย ไม่ทำให้เข้าใจได้ว่าเป็นอสังหาริมทรัพย์เพราะโดยสภาพของแผงลอยทั่ว ๆ ไปแล้ว ย่อมหมายความว่าเป็นอสังหาริมทรัพย์ เมื่อโจทก์มิได้กล่าวหาว่าจำเลยรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ แม้จำเลยจะกระทำการนั้นจริงก็ไม่ครบองค์ประกอบที่จะเป็นความผิดตามบทมาตราดังกล่าวข้างต้น จึงลงโทษจำเลยไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 162

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 162/2523

ประมวลกฎหมายอาญา ม. 377

สุนัขเป็นสัตว์เลี้ยง แต่ก็อาจเป็นสัตว์ที่ดุได้โดยธรรมชาติของสัตว์นั้นเอง ทั้งนี้ต้องดูพฤติการณ์เป็นเรื่อง ๆ ไป เฉพาะคดีนี้ ข้อเท็จจริงเป็นยุติว่า สุนัขของจำเลยเคยกัดเป็ดของผู้เสียหายมาก่อนแล้วหลายครั้ง และครั้งที่เกิดเหตุนี้สุนัขของจำเลยไปกัดเป็ดของ ผู้เสียหายตายและ บาดเจ็บหลายสิบตัว ถือได้ว่าเป็นสัตว์ดุตามความหมายของประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 377

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 145

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 145/2523

ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ม. 118

โจทก์ไม่ได้โต้แย้งคัดค้านให้ศาลจดคำถามและข้อคัดค้านไว้ในทันทีที่ศาลมิให้ถามติงพยาน ศาลจึงมิได้ชี้ขาดว่าควรให้ใช้คำถามนั้นหรือไม่ดังนี้ ไม่มีเหตุที่จะยกเป็นข้อฎีกาให้ยกคำพิพากษาและให้พิจารณาพิพากษาใหม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 161

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 161/2523

ประมวลกฎหมายอาญา ม. 364

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยร่วมกันเข้าไปในเคหสถานของ ก. ผู้เสียหายโดยไม่มีเหตุสมควร ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 364, 365(2)ข้อเท็จจริงได้ความว่าจำเลยเดินเข้าไปในที่ดินของผู้เสียหายตามคันบ่อเลี้ยงปลาอันเป็นทางเดินออกสู่ถนนหลวง ดังนี้ ย่อมถือไม่ได้ว่าจำเลยเข้าไปอยู่ในเคหสถานของผู้เสียหายโดยไม่มีเหตุสมควร อันจะเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 364 ดังโจทก์ฟ้อง พิพากษายกฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 157

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 156 - 157/2523

ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ม. 248

คดีฟ้องขับไล่ จำเลยมิได้กล่าวแก้เป็นข้อพิพาทด้วยกรรมสิทธิ์แม้ข้อเท็จจริงตามสำนวนจะไม่ปรากฏว่า ที่พิพาทอาจให้เช่าในขณะยื่นคำฟ้องเกินเดือนละห้าพันบาทหรือไม่ แต่มีชื่อตำบล อำเภอ และจังหวัดซึ่งที่พิพาทตั้งอยู่ทั้งมีเนื้อที่เพียง 15 ตารางวา และไม่ปรากฏว่าเป็นที่อยู่ในทำเลการค้าอันจะทำให้ค่าเช่าที่ดินสูงเป็นพิเศษแต่อย่างใด เห็นได้ว่าที่พิพาทอาจให้เช่าในขณะยื่นคำฟ้องได้ไม่เกินเดือนละห้าพันบาท จึงต้องห้ามมิให้ฎีกาในข้อเท็จจริง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 152

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 152/2523

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม. 420

การที่จำเลยร่วมกับพวกในการนัดหยุดงาน ปิดล้อมเครื่องบินและบีบบังคับให้สายการบินเลิกสัญญากับโจทก์ ถ้าไม่เลิกสัญญาก็จะไม่ยอมเลิกปิดล้อมและไม่ยอมให้เครื่องบินเดินทางต่อไปนั้น การบีบบังคับให้เลิกสัญญาดังกล่าวเป็นการกระทำโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ทำให้โจทก์เสียหาย จึงเป็นการละเมิดจำเลยต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อการละเมิดนั้น แม้โจทก์จะขาดทุนอยู่ก่อนก็ตาม

« »
ติดต่อเราทาง LINE