คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 168/2523
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ม. 213
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ลงโทษฐานฆ่าคนและมีปืนเป็น 2 กระทงจำเลยฎีกา ศาลฎีกายกประโยชน์แห่งความสงสัยให้แก่จำเลย แม้ข้อหาฐานมีปืนต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริง เมื่อข้อสงสัยนั้นคือจำเลยใช้ปืนของกลางยิงผู้ตายหรือไม่ ศาลฎีกาพิพากษายกฟ้องฐานมีปืนด้วยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 185
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาจำคุกจำเลย 1 ปี ตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ จำคุก 50 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า "พยานโจทก์ยังเป็นที่สงสัยควรยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้เป็นผลดีแก่จำเลย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 227 ส่วนข้อหาฐานมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้โดยไม่ได้รับใบอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่ซึ่งต้องห้ามมิให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงนั้น ศาลฎีกาก็มีอำนาจวินิจฉัยได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 185ประกอบด้วยมาตรา 225 ซึ่งศาลฎีกาเห็นว่า ข้อเท็จจริงยังเป็นที่สงสัยว่าจำเลยใช้อาวุธปืนของกลางยิงผู้ตาย และอาวุธปืนของกลางเป็นปืนที่ผู้อื่นนำไปจำนำไว้โดยจำเลยไม่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย ดังที่ได้วินิจฉัยไว้แล้ว จำเลยจึงไม่มีความผิดฐานมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนของกลางไว้โดยไม่ได้รับใบอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่ ที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำเลยนั้นศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย ฎีกาจำเลยฟังขึ้น ไม่จำต้องวินิจฉัยพยานจำเลย แต่ของกลางคืออาวุธปืนและกระสุนปืนเป็นทรัพย์ที่มีไว้เป็นความผิด ปลอกกระสุนปืนเป็นทรัพย์ที่ใช้ในการกระทำความผิดซึ่งต้องริบตามกฎหมาย
พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์ ริบของกลาง"
หมายเลขคดีดำศาลฎีกา nan
แหล่งที่มา เนติบัณฑิตยสภา
ชื่อคู่ความ โจทก์ - อัยการเชียงใหม่ จำเลย - นายมิ่ง หรือบุญมิ่ง เทพสิงห์
ชื่อองค์คณะ ไพบูลย์ เพียรรู้จบ วิถี ปานะบุตร อำนัคฆ์ คล้ายสังข์
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ตัดสิน nan