คำพิพากษาศาลฎีกา ปี 2531

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6328

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6328/2531

ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ม. 2 (4), 28, 5 (3)

จำเลยที่ 1 เป็นลูกจ้างของบริษัทตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายขายมีหน้าที่จำหน่ายสินค้าและเก็บรวบรวมเงินค่าสินค้าจากลูกค้าส่งให้บริษัทตำแหน่งหน้าที่ของจำเลยที่ 1 จึงเป็นเพียงตำแหน่งหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายจากผู้มีอำนาจของบริษัทให้กระทำการได้เพียงเท่าที่ได้รับมอบหมายเท่านั้น หามีอำนาจกระทำกิจการอื่นใดนอกเหนือจากนี้ไม่ จำเลยที่ 1 จึงมิใช่ผู้จัดการหรือผู้แทนของนิติบุคคลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 5(3) การที่จำเลยที่ 1 โดยลำพังหรือร่วมกับจำเลยที่ 2 ยักยอกทรัพย์ของบริษัทบริษัทย่อมเป็นผู้เสียหาย โจทก์ซึ่งเป็นเพียงผู้ถือหุ้นของบริษัทจึงมิใช่ผู้เสียหายตามความในมาตรา 2(4) อันจะมีอำนาจฟ้องคดีอาญาได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 28(2)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6330

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6328 - 6330/2531

ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ม. 2 (5), 5 (3), 28 (2)

จำเลยที่ 1 เป็นลูกจ้างของบริษัทตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายขายมีหน้าที่จำหน่ายสินค้าและเก็บรวมรวมเงินค่าสินค้าจากลูกค้าส่งให้บริษัท ตำแหน่งหน้าที่ของจำเลยที่ 1 จึงเป็นเพียงตำแหน่งหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายจากผู้มีอำนาจของบริษัทให้กระทำการได้เพียงเท่าที่ได้รับมอบหมายเท่านั้น หามีอำนาจกระทำกิจการอื่นใดนอกเหนือจากนี้ไม่ จำเลยที่ 1 จึงมิใช่ผู้จัดการหรือผู้แทนของนิติบุคคลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 5(3) การที่จำเลยที่ 1 โดยลำพังหรอืร่วมกับจำเลยที่ 2 ยักยอกทรัพย์ของบริษัท บริษัทย่อมเป็นผู้เสียหาย โจทก์ซึ่งเป็นเพียงผู้ถือหุ้นของบริษัทจึงมิใช่ผู้เสียหายตามความในมาตรา 2(5) อันจะมีอำนาจฟ้องคดีอาญาได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 28(2)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5719

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5719/2531

ประมวลกฎหมายอาญา ม. 17, 31 พระราชบัญญัติแร่ พ.ศ.2510 ม. 148

พระราชบัญญัติแร่ พ.ศ. 2510 มาตรา 148 มิได้บัญญัติว่าถ้ามีผู้ร่วมกระทำความผิดหลายคนให้ปรับรวมกันตามมูลค่าของแร่กรณีจึงต้องนำบทบัญญัติในภาค 1 แห่งประมวลกฎหมายอาญา มาใช้มาตรา 17 ดังนี้ต้องลงโทษปรับจำเลยเรียงตามรายตัวบุคคลตามมาตรา 31 ปัญหานี้เป็นปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยศาลฎีกาย่อมแก้ไขให้ถูกต้องโดยไม่เพิ่มเติมโทษจำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5061

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5061/2531

ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ม. 55 ประมวลรัษฎากร ม. 30

เมื่อคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์วินิจฉัยให้จำเลยชำระค่าภาษีจำเลยได้อุทธรณ์คำวินิจฉัยต่อศาลตามประมวลรัษฎากร มาตรา 30(2)แล้ว คำวินิจฉัยดังกล่าวอาจถูกเปลี่ยนแปลงหรือเพิกถอนโดยคำสั่งหรือคำพิพากษาของศาลได้ กรมสรรพากรมีสิทธิจะได้รับชำระค่าภาษีหรือไม่จึงต้องรอคำวินิจฉัยของศาลเสียก่อน ดังนั้น ขณะที่คดียังอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล กรมสรรพากรไม่มีอำนาจฟ้องบังคับให้จำเลยชำระค่าภาษีดังกล่าว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4602

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4602/2531

ประมวลรัษฎากร ม. , 78

ยาทุกชนิดตามข้อ 3(1) ของบัญชีอัตรากำไรมาตรฐานของสินค้านำเข้าหมายถึงยาที่ใช้กับมนุษย์เท่านั้น สำหรับยาป้องกันกำจัดศัตรูและโรคพืชสัตว์ตาม ข้อ 3(4) หมายถึงยาป้องกันกำจัดศัตรูและโรคพืชอย่างหนึ่งกับยาป้องกันกำจัดศัตรูและโรคสัตว์อีกอย่างหนึ่ง สินค้าของโจทก์เป็นยารักษาโรคสัตว์ทั่วไป จึงเป็นยากำจัดโรคสัตว์ตามข้อ 3(4) อัตรากำไรมาตรฐานกำหนดไว้ร้อยละ 11.5

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4405

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4405/2531

พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.2522 ม. 78

จำเลยจอดหยุดรถอยู่ในช่องทางเดินรถด้านขวาซึ่งอยู่ติดกับช่องว่างของเกาะกลางถนนเพื่อรอเลี้ยวกลับรถ แล้ว ก. ขับขี่รถจักรยานยนต์ด้วยความประมาทมาชนท้ายรถที่จำเลยขับ ถือไม่ได้ว่าจำเลยเป็นผู้ก่อให้เกิดความเสียหาย อันจำเลยจะต้องหยุดรถให้ความช่วยเหลือและแจ้งเหตุต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ เพราะจำเลยมิได้เป็นผู้ขับรถที่กำลังแล่นอยู่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4389

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4389/2531

ประมวลกฎหมายอาญา ม. 18 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ม. 219 พระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 ม. 72 ตรี

ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย 1 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่าให้รอการลงโทษจำคุกไว้ 3 ปี แต่ให้ลงโทษปรับ 10,000 บาทด้วย ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219 คำพิพากษาของศาลล่างทั้งสองที่สั่งให้จำเลยและบริวารออกไปจากป่ามิใช่โทษที่ลงแก่จำเลยแต่เป็นการสั่งไปตามที่พระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา72 ตรี ให้อำนาจไว้ ไม่ทำให้คู่ความมีสิทธิฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4336

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4336/2531

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม. 702

สัญญาจำนองระบุว่าเป็นการประกันหนี้ประเภทต่าง ๆ บรรดาที่จำเลยเป็นหนี้เจ้าหนี้อยู่แล้วในขณะทำสัญญาจำนองดังกล่าวหรือที่จะเป็นหนี้ต่อไปในภายหน้า ซึ่งขณะที่ทำสัญญาจำนองนั้นจำเลยก็ยังมีหนี้เกี่ยวค้างเจ้าหนี้อยู่ สัญญาจำนองดังกล่าวย่อมมีผลบังคับ แม้จำเลยจะมิได้รับเงินจากเจ้าหนี้ตามสัญญาจำนอง ก็หามีผลให้สัญญาจำนองตกเป็นโมฆะไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4379

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ ADMIN 4379/2531

พระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 ม. 28, 91 วรรคแรก

การโฆษณาประกาศคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดในหนังสือพิมพ์ซึ่งมิใช่เป็นการโฆษณาตามคำสั่งของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์หากแต่เป็นการกระทำโดยพลการและด้วยความบกพร่องของโรงพิมพ์เองนั้น ถือไม่ได้ว่าเป็นการโฆษณาประกาศคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดตามพระราชบัญญัติล้มละลายฯ มาตรา 28

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4353

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4353/2531

ประมวลกฎหมายอาญา ม. 90, 91 พระราชบัญญัติป่าไม้ ม. 48, 73

จำเลยมีไม้สักและไม้พลวงซึ่งเป็นไม้แปรรูป 2 จำนวนในคราวเดียวกันโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย แม้การมีไม้สักแปรรูปจะเป็นความผิดโดยไม่ต้องคำนึงถึงจำนวนปริมาตรของไม้ต่างกับไม้พลวงแปรรูปซึ่งจะต้องมีปริมาตรเกิน 0.20 ลูกบาศก์เมตร จึงจะเป็นความผิดก็ตาม การกระทำของจำเลยก็ยังคงเป็นความผิดกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท มิใช่ความผิดหลายกรรมต่างกัน

»
ติดต่อเราทาง LINE