คำพิพากษาศาลฎีกา ปี 2531

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3077

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3077/2531

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม. 4, 613 พระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.2469 ม. 27

โจทก์ส่งของออกนอกราชอาณาจักรโดยมิได้เสียภาษีอันเป็นการกระทำผิดต่อพระราชบัญญัติศุลกากร พุทธศักราช 2469 มาตรา 27เป็นเหตุให้จำเลยผู้ขนส่งไม่อาจออกใบตราส่งให้โจทก์ได้การที่โจทก์นำคดีมาฟ้องเรียกค่าเสียหายเนื่องจากจำเลยไม่ออกใบตราส่งให้จึงเป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริต.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5963

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5963/2531

ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ม. 192

ฟ้องว่าจำเลยกับพวกร่วมกันพยายามฆ่าผู้เสียหาย ทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยเป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่นกระทำความผิด ดังนี้จะลงโทษจำเลยฐานร่วมกันพยายามฆ่าไม่ได้เพราะข้อเท็จจริงในทางพิจารณาแตกต่างกับฟ้อง แต่ลงโทษฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดได้เพราะการใช้เป็นการยุยงส่งเสริมให้ผู้อื่นกระทำความผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5928

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5928/2531

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม. 609, 610, 616 พระราชบัญญัติไปรษณีย์ พ.ศ.2477 พระราชบัญญัติการสื่อสารแห่งประเทศไทย พ.ศ.2519 ไปรษณีย์นิเทศ พ.ศ.2524

การสื่อสารแห่งประเทศไทย จำเลยที่ 1 รับฝากสินค้าอัญมณีจำพวกทับทิมและไพลินเจียระไนจากส. ซึ่งส่งเป็นพัสดุไปรษณีย์อากาศประเภทพัสดุไปรษณีย์ธรรมดา ไปยังผู้รับปลายทางที่สหรัฐอเมริกาเป็นกรณีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 609 วรรคแรกที่บัญญัติให้ต้องบังคับตามพระราชบัญญัติการสื่อสารแห่งประเทศไทยพ.ศ. 2519 พระราชบัญญัติไปรษณีย์ พุทธศักราช 2477 และไปรษณีย์นิเทศ พ.ศ. 2524 ซึ่งเป็นกฎหมายและข้อบังคับที่ใช้อยู่ในขณะที่มีการฝากส่งไปรษณีย์ดังกล่าว ดังนั้น เมื่อ ส. มิได้จัดส่งพัสดุภัณฑ์ในประเภทพัสดุไปรษณีย์รับประกันและต่อมาพัสดุไปรษณีย์ดังกล่าวสูญหายไป ส. จึงมีสิทธิเพียงได้รับชดใช้ค่าเสียหายตามอัตราการชดใช้ค่าเสียหายในประเภทพัสดุไปรษณีย์ธรรมดาตามที่กำหนดไว้ในภาคผนวกของไปรษณีย์นิเทศ พ.ศ. 2524 จำเลยที่ 1จึงต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงิน 522 บาท จำเลยที่ 1จะอ้างไม่ต้องรับผิดเนื่องจากมีข้อตกลงพัสดุไปรษณีย์ระหว่างการไปรษณีย์สหรัฐอเมริกาและการไปรษณีย์แห่งประเทศไทยตามไปรษณีย์นิเทศข้อ 393.6 และคำสั่งการสื่อสารแห่งประเทศไทยที่ 175/2525 เช่นนั้นไม่ได้ เพราะข้อตกลงดังกล่าวแม้จะทำขึ้นโดยอำนาจจากบทบัญญัติของกฎหมายแต่ก็หามีผลเช่นเดียวกันกับกฎหมายไม่เมื่อไม่ปรากฏข้อเท็จจริงว่าจำเลยที่ 1 ได้แจ้งให้ ส.ทราบว่าพัสดุไปรษณีย์ถึงสหรัฐอเมริกาชิ้นนี้หากสูญหายจะไม่ได้รับชดใช้ค่าเสียหาย จำเลยที่ 1 จะยกเอาเหตุดังกล่าวมาเป็นข้อยกเว้นความรับผิดหาได้ไม่ การขนไปรษณีย์ภัณฑ์ในหน้าที่ของจำเลยที่ 1 มีกฎหมายบัญญัติไว้เป็นพิเศษแล้ว จำนำบทบัญญัติเรื่องรับขนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 3 ลักษณะ 4 หมวด 1 มาใช้บังคับแก่จำเลยที่ 1 ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5899

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5899/2531

ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ม. 172 พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2522 ม. 51, 79

การพิจารณาคำร้องคัดค้านการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรนั้น พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2522มาตรา 79 ให้นำประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาใช้บังคับโดยอนุโลม ดังนั้น คำร้องคัดค้านการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจึงต้องตกอยู่ในบังคับของประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 172วรรคสองด้วย คำร้อง ของ ผู้ร้องอ้างเหตุคัดค้านการเลือกตั้งว่า กรรมการตรวจคะแนนลงคะแนนเอง ลงชื่อแทนผู้มีสิทธิลงคะแนนที่ไม่มาใช้สิทธิไม่จดหมายเลขกับสถานที่ออกบัตรประจำตัวประชาชนในบัญชีผู้มีสิทธิเลือกตั้งและที่จดไว้ก็ไม่ตรงกับความจริง การนับคะแนนของคณะกรรมการทุกหน่วยเลือกตั้งไม่ตรงต่อความเป็นจริงที่ปรากฏในบัตรเลือกตั้งโดยอ่านบัตรเลือกตั้งหมายเลขของผู้ร้องเป็นหมายเลขอื่นทำให้คะแนนของผู้ร้องลดลงคณะกรรมการตรวจคะแนนทุกหน่วยเลือกตั้งกรอกคะแนนลงในแบบรายงานแสดงผลของการนับคะแนนไม่ตรงกับความเป็นจริงและไม่ตรงกับคะแนนที่อ่านได้โดยลดคะแนนของผู้ร้องแล้วเพิ่มคะแนนให้แก่ผู้สมัครหมายเลขอื่นและนายอำเภอในเขตเลือกตั้งซึ่งมีหน้าที่รวมคะแนนจากรายงานแสดงผลของการนับคะแนน รวมคะแนนของผู้ร้องผิดไปจากความจริงโดยลดคะแนนของผู้ร้องลงและบวกคะแนนเพิ่มให้แก่ผู้สมัครหมายเลขอื่นนั้นเป็นคำร้องที่เคลือบคลุม เพราะไม่อาจทราบได้ว่าเจ้าพนักงานผู้ดำเนินการเลือกตั้ง กรรมการตรวจคะแนนหรือเจ้าหน้าที่คะแนนผู้ใด ของหน่วยเลือกตั้งที่เท่าใด ของอำเภอใดเป็นผู้กระทำเช่นนั้นและที่อ้างว่ากรรมการตรวจคะแนนและนายอำเภอในเขตเลือกตั้งรวมคะแนนผิดไปจากความจริงนั้น ความจริงมีจำนวนเท่าใดก็ไม่ปรากฏ ผู้ร้องเพียงแต่กล่าวอ้างคลุม ๆ มาทุกหน่วยเลือกตั้งและส่อแสดงว่าเป็นการคาดคะเนเอาเอง จึงเป็นคำกล่าวอ้างลอย ๆ ไม่พอที่จะทำให้ผู้คัดค้านเข้าใจข้อหาได้ดีไม่ชอบตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 172 วรรคสอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5927

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5927/2531

ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ม. 90

การส่งสำเนาเอกสารให้แก่คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 90 ในกรณีที่มีการระบุพยานเพิ่มเติม หมายถึงให้ส่งสำเนาเอกสารนั้นให้คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งก่อนวันที่ทำการสืบพยานเอกสารนั้นไม่น้อยกว่าสามวัน มิใช่ก่อนวันทำการสืบพยานครั้งแรก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5065

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5065/2531

ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ม. 55

เดิมโจทก์ฟ้องขอให้บุคคลภายนอกโอนที่ดิน น.ส.3 ซึ่งมีชื่อ ว.เป็นเจ้าของให้แก่โจทก์ ศาลได้พิพากษายกฟ้องโจทก์ คดีถึงที่สุดแล้วโดยศาลวินิจฉัยว่า แม้จะฟังว่าที่ดินเป็นของโจทก์ก็ไม่อาจบังคับตามคำขอท้ายฟ้องของโจทก์ได้ เช่นนี้ ศาลยังมิได้พิพากษาว่าที่ดินตามฟ้องเป็นของโจทก์ โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องขอให้จำเลยซึ่งเป็นเจ้าพนักงานจัดการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมตามคำพิพากษาได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5898

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5898/2531

ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ม. 27 พระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483

ศาลชั้นต้นออกหมายเรียกและส่งสำเนาคำฟ้องไปยังลูกหนี้ให้ทราบก่อนวันนัดพิจารณาคดีล้มละลายน้อยกว่า 7 วัน การนัดสืบพยานโจทก์จึงมิได้เป็นไปตามระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด ที่ศาลชั้นต้นสั่งว่าจำเลยขาดนัดพิจารณาและดำเนินการสืบพยานโจทก์ไปจึงเป็นเรื่องที่ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาผิดระเบียบศาลอุทธรณ์สั่งเพิกถอนเสียได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 27 วรรคหนึ่ง โดยมิต้องคำนึงว่าคู่ความฝ่ายที่เสียหายได้ดำเนินการอันใดขึ้นใหม่หลังจากที่ได้ทราบเรื่องผิดระเบียบแล้วหรือไม่ เพราะมิใช่เป็นกรณีที่คู่ความยกขึ้นคัดค้านตามมาตรา 27วรรคสอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3185

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3185/2531

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม. 164, 474

การที่โจทก์ฟ้องให้จำเลยชำระค่าใช้จ่ายที่โจทก์เสียไปในการซ่อมแซมหม้อแปลงไฟฟ้าที่จำเลยขายให้โจทก์ ซึ่งเกิดชำรุดขึ้นภายในระยะเวลาที่จำเลยจะต้องรับผิดชอบ เป็นการฟ้องจำเลยให้รับผิดเพื่อชำรุดบกพร่อง มิใช่เป็นการฟ้องให้จำเลยปฏิบัติตามสัญญาซื้อขาย หรือเลิกสัญญากับจำเลยโจทก์จึงต้องฟ้องจำเลยภายใน 1 ปี นับแต่เวลาที่ได้พบเห็นความชำรุดบกพร่อง ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 474.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5897

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5897/2531

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม. 1012, 1033, 1049

ผู้เป็นหุ้นส่วนในห้างหุ้นส่วนที่ไม่ได้จดทะเบียน จะฟ้องบุคคลภายนอกโดยอ้างสิทธิในกิจการซึ่งไม่ปรากฏชื่อของตนมิได้ โจทก์และ ส. กับพวกนำเงินไปเปิดบัญชีไว้ที่ธนาคารเพื่อดำเนินกิจการร่วมกันโดยไม่ได้จดทะเบียนห้างหุ้นส่วน ส.เอาเงินของห้างหุ้นส่วนจ่ายให้จำเลยเพื่อแลกเช็คพิพาทจากจำเลยแล้วธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็ค ดังนี้ แม้การรับแลกเช็คนั้นจะเป็นกิจการของห้างหุ้นส่วน แต่เมื่อไม่ปรากฏชื่อของโจทก์ในกิจการนี้ โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องเรียกเงินตามเช็คจากจำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5894

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5894/2531

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม. 164, 349, 350 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ม. 172 วรรคสอง

จำเลยทำบันทึกข้อตกลงกับโจทก์ยอมชำระหนี้แทนมารดาจำเลยโดยในวันทำบันทึกจำเลยได้มอบทั้งเงินสดและเช็คชำระหนี้ให้โจทก์ดังนี้ บันทึกดังกล่าวเป็นการแปลงหนี้ใหม่ด้วยการเปลี่ยนตัวลูกหนี้จากมารดาจำเลยเป็นจำเลย การฟ้องคดีตามบันทึกข้อตกลงแปลงหนี้ใหม่ดังกล่าวมีอายุความ 10 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 164 โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยได้ตกลงที่จะชำระหนี้ให้โจทก์แทนมารดาจำเลยพร้อมทั้งแนบภาพถ่ายบันทึกข้อตกลงดังกล่าวมาท้ายฟ้องด้วย โดยจำเลยได้ออกเช็ครวม 5 ฉบับ ชำระหนี้ให้โจทก์ ดังนี้ถือว่าโจทก์ไม่ได้ฟ้องจำเลยในฐานะโจทก์เป็นผู้ทรงเช็คแต่เป็นการบรรยายถึงมูลหนี้เดิมว่ามีความเป็นมาอย่างไรอันเป็นการฟ้องโดยอาศัยมูลหนี้ตามบันทึกข้อตกลงแปลงหนี้ใหม่

« »
ติดต่อเราทาง LINE