
แบล็คเมล์หมายความว่าอย่างไรและวิธีการแก้ไข
ในยุคที่เราสามารถเก็บรวบรวมข้อมูลได้ง่ายขึ้นเพราะมีเทคโนโลยีที่ทันสมัยเป็นตัวช่วย ไม่ว่าจะเป็นกล้องถ่ายรูป กล้องวีดีโอ คอมพิวเตอร์ ฯ อีกทั้งข้อมูลต่างเหล่านั้นไม่ว่าจะเป็นรูปภาพหรือข้อมูลส่วนตัวมีความสำคัญในการดำเนินชีวิตของเรา สิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เลยคือการนำข้อมูลเหล่านี้ไปกระทำความผิดต่างๆ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือสิ่งที่เราเรียกว่า “แบล็คเมล์” ในบทความนี้ผมเลยอยากจะเล่าถึงแง่มุมของการแบล็คเมล์ที่เพื่อนๆ ควรรู้ให้ได้อ่านกันครับ

แบล็คเมล์คืออะไร ?
การแบล็คเมล์คือการขู่เข็ญหรือข่มขู่ผู้อื่นให้กระทำการอย่างใดอย่าหนึ่ง โดยการขู่ว่าจะเปิดเผยความลับ หรือข้อมูลต่างๆ ซึ่งเป็นความลับ ที่อาจจะทำให้ผู้ถูกข่มขู่หรือบุคคลอื่นได้รับความเสียหายอย่างใดอย่างหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นความเสียหายหายแก่ ชื่อเสียง หรือทรัพย์สินฯ ที่พบได้บ่อยๆ เช่นแฟนเก่าขู่ว่าจะปล่อยรูปที่มีลักษณะเป็นการอนาจารหากไม่ยอมกลับมาคืนดีด้วยฯ เป็นต้น
การแบล็คเมล์มีความผิดอาญาหรือไม่ ?
การข่มขู่ให้บุคคลอื่นกระทำการใดการหนึ่งโดยที่บุคคลนั้นไม่ยินยอม ย่อมเป็นความผิดอาญาอยู่แล้วขึ้นอยู่กับมาเป็นความผิดฐานไหน
ผิดข้อหาอะไรบ้าง โดยผมจะขอแบ่งแยกให้เพื่อนเข้าใจง่ายๆ ดังนี้ครับ
4 ความผิดของการโดนแบล็คเมล์
1. การข่มขู่ให้บุคคลอื่นกระทำการใดย่อมเป็นความผิดฐานข่มขืนใจตาม ประมวลกฏหมายอาญามาตรา 309 อยู่แล้วในตัวเสมอ
2. หากเป็นการขู่ว่าจะเปิดเผยความลับเพื่อให้ส่งมอบทรัพย์สิน เป็นความผิดฐานรีดเอาทรัพย์ตาม ประมวลกฏหมายอาญามาตรา 338
3. หากเป็นการขู่ว่าจะใส่ความผู้ถูกขู่แก่บุคคลที่ 3 ไม่ว่าข้อความนั้นจะเป็นความลับหรือไม่ก็ตามถือเป็นการขู่เข็ญว่าจะทำลายชื่อเสียงผู้ถูกขู่เข็ญย่อมเป็นความผิดฐานกรรโชกทรัพย์ตาม ประมวลกฏหมายอาญามาตรา 337
4. หากถึงขั้นลงมือกระทำการตามที่ข่มขู่แล้วก็จะมีความผิดเพิ่มขึ้นอีกดังนี้แล้วแต่กรณีครับ
- หากเป็นการใส่ความต่อบุคคลที่ 3 เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทตาม ประมวลกฏหมายอาญามาตรา 326,328
- หากเป็นเปิดเผยความลับ มีความผิดฐานเปิดเผยความลับตาม ประมวลกฏหมายอาญามาตรา 322 -324
- หากเป็นการนำเข้าซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จหรืออนาจารเข้าสู้ระบบคอมพิวเตอร์ ความผิดตาม พ.ร.บ.คอมฯ มาตรา 14 (1),(4)
4 ตัวอย่างคดีการโดนแบล็คเมล์
เราลองมาดูตัวอย่างจากคำพิพากษาฎีกาเพื่อเพิ่มความมั่นใจกันดีกว่าครับ
1.คำพิพากษาฎีกาที่ 1188/2561
“...จำเลยส่งข้อความทางผ่านทางระบบอินเตอร์เน็ตถึงโจทก์หลายครั้ง ขู่เข็ญโจทก์ให้จ่ายเงินจำเลย มิเช่นนั้นจะเปิดเผยความลับรูปภาพและวิดีโอที่โจทก์ไปมีความสัมพันธ์ทางเพศกับชายอื่น ในขณะที่ยังไม่ได้หย่าขาดจากจำเลย การกระทำของจำเลยดังกล่าวเป็นการข่มขืนใจผู้อื่น ให้ยอมให้ หรือยอมจะให้ตนหรือผู้อื่นได้ประโยชน์ในลักษณะที่เป็นทรัพย์สินโดยขู่เข็ญจะเปิดเผยความลับ ซึ่งการเปิดเผยนั้นจะทำให้ผู้ถูกขู่เข็ญหรือบุคคลที่สามเสียหายครบองค์ประกอบความผิดฐานรีดเอาทรัพย์ เมื่อโจทก์ไม่ยินยอมมอบเงินให้ตามที่จำเลยขู่เข็ญ การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดฐานพยายามรีดเอาทรัพย์...”
2.คำพิพากษาฎีกาที่ 12685/2558
“...จำเลยมีภริยาอยู่แล้ว แต่จำเลยกับผู้เสียหายสมัครใจมีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกันมาประมาณ 1 ปี ข้อเท็จจริงที่จำเลยกับผู้เสียหายมีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกันจึงเป็นข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นจริง เมื่อเป็นการกระทำที่ผิดศีลธรรมอันดีของประชาชน แสดงว่าผู้เสียหายประสงค์จะปกปิดไม่ให้บุคคลอื่นโดยเฉพาะภริยาจำเลยรู้เรื่องดังกล่าว เรื่องนั้นจึงเป็นความลับของผู้เสียหาย การที่จำเลยขู่เข็ญผู้เสียหายว่าหากผู้เสียหายไม่นำเงินจำนวน 20,000 บาท มาให้จำเลยแล้วจำเลยจะนำเรื่องความสัมพันธ์ฉันชู้สาวระหว่างจำเลยซึ่งมีครอบครัวแล้วกับผู้เสียหายไปเปิดเผยต่อบุคคลอื่น จึงเป็นการขู่เข็ญว่าจะเปิดเผยความลับของผู้เสียหาย ครบองค์ประกอบความผิดตาม ป.อ. มาตรา 338 แล้ว การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดตามบทบัญญัติดังกล่าว...”
ต้องการค้นหาด้านกฎหมายใช่ไหม ? สามารถค้นหาบทความ, คำปรึกษาจริง, มาตราที่เกี่ยวข้อง คลิกที่นี่ !
3.คำพิพากษาฎีกาที่ 10843/2553
“...แม้เรื่องที่จำเลยนำไปขู่เข็ญผู้เสียหายซึ่งเป็นภิกษุว่า ผู้เสียหายมีเพศสัมพันธ์กับผู้หญิงจะไม่เป็นความจริง จึงไม่ถือเป็นความลับอันเป็นความผิดฐานรีดเอาทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 338 ดังที่โจทก์ฟ้องก็ตาม แต่การกระทำของจำเลยดังกล่าวก็เป็นการข่มขืนใจผู้เสียหายให้ยอมให้ตนหรือผู้อื่นได้ประโยชน์ในลักษณะที่เป็นทรัพย์สินโดยขู่เข็ญว่าจะทำอันตรายต่อชื่อเสียงของผู้เสียหายผู้ถูกขู่เข็ญจนผู้เสียหายผู้ถูกข่มขืนใจยอมใช้เงินแก่จำเลยอันเป็นความผิดฐานกรรโชก ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 337 วรรคแรก...”
4.คำพิพากษาฎีกาที่ 1869/2536
“...จำเลยกับพวกร่วมกันข่มขืนใจโจทก์ร่วมให้ยอมให้หรือยอมจะให้เงินจำนวน 350,000 บาท แก่จำเลยกับพวก โดยขู่เข็ญว่าถ้าไม่ให้จะนำวีดีโอเทปการร่วมประเวณีระหว่างโจทก์ร่วมกับจำเลยไปฉายให้ประชาชนดู จะฟ้องต่อเจ้าคณะจังหวัดกรมการศาสนา และจะลงหนังสือพิมพ์แต่โจทก์ร่วมไม่ได้มอบเงินจำนวนดังกล่าวให้แก่จำเลยกับพวกการกระทำของจำเลยกับพวกเข้าองค์ประกอบของความผิดฐานพยายามรีดเอาทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 338 ประกอบมาตรา 80...”
หากมีข้อสงสัยต้องการปรึกษาทนายความเพื่อหาทางออกกฎหมาย สามารถติดต่อผ่าน Legardy ได้ตลอด 24ชั่วโมงครับ
ทำอย่างไรเมื่อถูกแบล็คเมล์ ?
1.เมื่อการแบล็คเมล์เป็นความผิดอาญาผู้ได้รับความเสียหายย่อมสามารถร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนเพื่อให้ดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดได้ โดยให้รวบรวมพยานหลักฐานต่าง ๆ เช่น คลิปวีดีโอ คลิปภาพ เสียงสนทนา แชทจากโปรแกรมต่างๆ ไปมอบให้กับพนักงานสอบสวนพร้อมกับการไปแจ้งความเพื่อให้ข้อกล่าวหาของเราหนักแน่นและเพื่อความสะดวกรวดเร็วในการดำเนินคดี
2. หากการแบล็คเมล์ทำให้ผู้ถูกกระทำได้รับความเสียหาย ไม่ว่าจะเป็นความเสียหายแก่ชื่อเสียงหรือทรัพย์สิน ผู้เสียหายก็สามารถเรียกร้องค่าเสียหายทางแพ่งจากผู้กระทำความผิดเพื่อบรรเทาความเสียหายได้อีกทางด้วยครับ
สุดท้ายนี้หวังว่าบทความนี้จะมีส่วนช่วยเป็นทางออกสำหรับหลายๆ คนที่กำลังถูกแบล็คเมล์ หรือถูกข่มขู่ไม่ว่าเรื่องใดก็ตามให้สามารถผ่านพ้นจากเรื่องแย่ๆ แบบนี้ไปได้หรือหากต้องการคำปรึกษาเพิ่มเติมสามารถเลือกใช้บริการให้คำปรึกษาจากทนายความผ่านช่องทางต่างๆ ของ Legardy ได้อีกทางหนึ่งครับ
