คำพิพากษาศาลฎีกา ปี 2523

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 45

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 45/2523

ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ม. 182

โจทก์จำเลยท้ากันว่า ถ้าผลการตรวจพิสูจน์ลายมือชื่อของบิดาจำเลยในเอกสารที่โจทก์ฟ้องเป็นลายมือชื่อบุคคลคนเดียวกันกับเอกสารที่จำเลยอ้างจำเลยยอมแพ้ ถ้าไม่ใช่ โจทก์ยอมแพ้ การท้าเอาแพ้ชนะกันในผลแห่งการพิสูจน์ดังกล่าว ย่อมหมายถึงแพ้ชนะในผลแห่งคดีโดยสละประเด็นข้ออื่นอยู่ในตัว เมื่อผลการตรวจพิสูจน์ของผู้เชี่ยวชาญลงความเห็นว่าเป็นลายมือชื่อของบุคคลคนเดียวกัน จำเลยก็ต้องแพ้คดีตามคำท้า

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 44

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 44/2523

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม. 164, 1002

ลูกหนี้นำเช็คไปทำสัญญาขายลดเช็คแลกเงินสดกับธนาคารเจ้าหนี้มีข้อสัญญาว่า ถ้าธนาคารเจ้าหนี้ไม่ได้รับชำระเงินด้วยเหตุใด ๆ ลูกหนี้ยอมใช้เงินดังกล่าวให้พร้อมดอกเบี้ย ลูกหนี้จึงต้องผูกพันรับผิดตามสัญญาขายลดเช็คซึ่งบังคับกันได้อีกส่วนหนึ่งต่างหากจากความรับผิดตามเช็คเมื่อธนาคารเจ้าหนี้ขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลายโดยอาศัยความรับผิดตามสัญญาขายลดเช็คดังกล่าวมิใช่ในฐานะธนาคารเจ้าหนี้เป็นผู้ทรงเช็คสิทธิเรียกร้องของธนาคารเจ้าหนี้ตามสัญญาขายลดเช็ค จึงมีอายุความ 10 ปี ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 164

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 38

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 38/2523

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม. 564

จำเลยทำสัญญาเช่าตึกแถวโจทก์ 11 ปี จึงเป็นสัญญาเช่าที่มีกำหนดเวลาสิ้นสุดแน่นอน กรณีต้องด้วยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 564 ซึ่งบัญญัติให้สัญญาเช่าระงับไปเมื่อสิ้นกำหนดเวลาที่ได้ตกลงกันไว้มิพักต้องบอกกล่าวก่อน การที่โจทก์มีหนังสือบอกกล่าวให้จำเลยออกจากตึกแถวพิพาทก่อนสิ้นอายุสัญญาโดยให้ออกไปภายใน1 เดือน นับแต่วันที่ลงในหนังสือบอกกล่าวซึ่งเป็นกำหนดวันภายหลังจากวันครบกำหนดเวลาสิ้นสุดตามสัญญาแล้ว จึงเป็นเพียงการแจ้งให้จำเลยทราบว่าโจทก์ไม่ประสงค์จะให้จำเลยเช่าต่อไป โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องขับไล่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 27

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 27/2523

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม. 797, 810, 820

การที่ตัวแทนโจทก์ตกลงให้จำเลยจัดการขายสร้อยเพชรและแหวนเพชรโดยกำหนดราคาขายไว้ จำเลยมีหน้าที่จะต้องส่งเงินค่าขายให้โจทก์ตามราคาที่กำหนดโจทก์จะตีราคาปานกลางให้จำเลยชดใช้หาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 25

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 25/2523

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม. 420, 601

โจทก์ว่าจ้างให้จำเลยตั้งศูนย์ถ่วงล้อรถยนต์ จำเลยทำงานไม่เรียบร้อยเป็นเหตุให้พวงมาลัยไม่สามารถบังคับล้อรถได้ รถโจทก์จึงไปชนรถคันอื่นเสียหาย เป็นกรณีการชำรุดบกพร่องอันเกิดจากสัญญาจ้างทำของ โจทก์ต้องฟ้องจำเลยผู้รับจ้างเสียภายในกำหนดหนึ่งปีนับแต่วันที่การชำรุดบกพร่องได้ปรากฏขึ้นตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 601

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 22

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 22/2523

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม. 453, 797

โจทก์ทำเอกสารให้จำเลยไว้ในฐานะเป็นตัวแทนขายสินค้าทุกชนิดรับรองว่าเฉพาะสินค้าท่อยาง หากเสียหายภายในกำหนด 3 เดือน โจทก์ยินดีรับคืน โดยตัวแทนผู้จำหน่ายไม่ต้องรับผิดชอบแต่ประการใดทั้งสิ้นทั้งโจทก์ยังต้องใช้ค่าเสียหายต่าง ๆ ให้แก่ตัวแทนและผู้ที่ซื้อไปดำเนินกิจการด้วย ดังนี้ การซื้อขายระหว่างโจทก์จำเลยมิใช่การซื้อขายเสร็จเด็ดขาด ซึ่งจำเลยอ้างว่าเป็นเพียงตัวแทนจำหน่ายสินค้าเท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 21

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 21/2523

ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ม. 27, 65, 89, 161, 177

ให้การปฏิเสธข้ออ้างในฟ้องแต่ไม่มีเหตุแห่งการปฏิเสธ จำเลยไม่มีข้อนำสืบ แม้จะถามค้านพยานโจทก์ไว้แล้วก็ไม่มีสิทธินำสืบ

แม้คำสั่งศาลชั้นต้นจะไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 65 ในการที่สั่งอนุญาตให้ทนายความถอนตัวโดยไม่ให้ตัวความทราบเสียก่อน แต่ศาลชั้นต้นได้สั่งงดสืบพยานและนัดฟังคำพิพากษาก่อนแล้วจึงได้สั่งอนุญาตให้ทนายความถอนตัว ทั้งได้ส่งสำเนาคำร้องขอถอนตัวของทนายความให้จำเลยทราบก่อนวันอ่านคำพิพากษาแล้วจำเลยจึงไม่ได้รับความเสียหายไม่จำเป็นที่จะต้องเพิกถอนคำสั่ง ศาลชั้นต้นในเรื่องนี้

แม้ศาลชั้นต้นจะพิพากษาให้โจทก์ชนะคดีไม่เต็มตามจำนวนทุนทรัพย์ที่ฟ้อง แต่เมื่อคำนึงถึงเหตุดังกล่าวในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 161 ประกอบกับพฤติการณ์ในการดำเนินคดีของจำเลยด้วยแล้วการที่ศาลอุทธรณ์ใช้ดุลพินิจกำหนดให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ในศาลชั้นต้นตามทุนทรัพย์ที่โจทก์ตั้งฟ้องมานั้นถูกต้องแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 19

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 19/2523

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม. 438, 572, 887 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ม. 55

จำเลยที่ 1 ขับรถยนต์ชนรถจักรยานยนต์ที่โจทก์เช่าซื้อมาเสียหายจนไม่สามารถซ่อมแซมให้กลับคืนดีได้ แม้โจทก์จะชำระราคาค่าเช่าซื้อยังไม่ครบ โจทก์ย่อมเป็นผู้เสียหาย และต้องถือว่าจำเลยที่ 1 ได้ทำละเมิดโดยตรงต่อโจทก์ โจทก์ฟ้องเรียกค่าสินไหมทดแทนจากจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 2 ผู้รับประกันภัยค้ำจุนได้เต็มราคารถจักรยานยนต์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 16

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 16/2523

ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ม. 271, 272

ตามคำพิพากษาอันดับแรกที่ให้จำเลยไถ่ถอนจำนองที่ดินพิพาทโอนให้แก่โจทก์โดยรับเงินจากโจทก์นั้นไม่ปรากฏว่าเพราะเหตุใดจำเลยจึงไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษาในอันดับแรกนี้เสียก่อน จำเลยกลับรีบนำเงินค่าสินไหมทดแทนพร้อมดอกเบี้ยตามคำพิพากษาอันดับหลัง มาวางต่อศาล ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่ใกล้เคียงกับจำนวนเงินที่จำเลย จำนองไว้กับธนาคารในระหว่างที่ศาลชั้นต้นยังมิได้ออกคำบังคับแสดงว่าจำเลยสามารถปฏิบัติตามคำพิพากษาอันดับแรกได้และก็ไม่ปรากฏว่าธนาคารผู้รับจำนองมีเหตุขัดข้องไม่ยอมให้จำเลยไถ่ถอนการจำนองแต่ประการใด การกระทำของจำเลยจึงชวนให้สงสัยว่าน่าจะเป็นการหลีกเลี่ยงเพื่อจะไม่ปฏิบัติตามขั้นตอนของคำพิพากษาตั้งแต่อันดับแรกเป็นต้นไปตามลำดับ จำเลยจึงไม่มีสิทธิ เลือกปฏิบัติชำระเงินค่าสินไหมทดแทนพร้อมดอกเบี้ยตามคำพิพากษา อันดับหลัง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 13

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 12 - 13/2523

ประมวลกฎหมายอาญา ม. 157 พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2518

การที่ผู้อำนวยการโรงเรียนเชื่อรายงานและความเห็นของคณะกรรมการสอบสวนที่ตนตั้งขึ้นเพื่อสอบสวนข้อเท็จจริงว่าผลการทดลองปฏิบัติหน้าที่ราชการของโจทก์ยังไม่เข้าเกณฑ์ที่จะรับการพิจารณาแต่งตั้งเป็นข้าราชการพลเรือนสามัญหรือไม่โดยละเว้นการตรวจดูหลักฐานต่าง ๆ ด้วยตนเองก็ดี ไม่เสาะหา ความจริงจากผู้อื่นก็ดี ไม่ทักท้วงการสอบสวนที่มีแต่รายงานชี้แจงแทน บันทึกการสอบสวนก็ดี จะฟังว่าผู้อำนวยการโรงเรียนปฏิบัติหน้าที่ราชการ โดยไม่สุจริตและกลั่นแกล้งให้โจทก์ได้รับความเสียหายหาได้ไม่

เมื่อกรณีของโจทก์ไม่ใช่เรื่องกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง การที่คณะกรรมการสอบสวนไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหาให้โจทก์ทราบ และไม่ได้ให้โจทก์นำพยานหลักฐานเข้าสืบแก้ข้อกล่าวหาด้วย จึงหาใช่เป็นการปฏิบัติโดยมิชอบด้วยกฎหมายไม่

« »
ติดต่อเราทาง LINE