สารบัญ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 19/2523

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 19/2523

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม. 438, 572, 887 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ม. 55

จำเลยที่ 1 ขับรถยนต์ชนรถจักรยานยนต์ที่โจทก์เช่าซื้อมาเสียหายจนไม่สามารถซ่อมแซมให้กลับคืนดีได้ แม้โจทก์จะชำระราคาค่าเช่าซื้อยังไม่ครบ โจทก์ย่อมเป็นผู้เสียหาย และต้องถือว่าจำเลยที่ 1 ได้ทำละเมิดโดยตรงต่อโจทก์ โจทก์ฟ้องเรียกค่าสินไหมทดแทนจากจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 2 ผู้รับประกันภัยค้ำจุนได้เต็มราคารถจักรยานยนต์

เนื้อหาฉบับเต็ม

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันและแทนกันใช้ค่าเสียหายให้โจทก์เป็นเงิน 19,456 บาท พร้อมดอกเบี้ย ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่า ให้จำเลยทั้งสองร่วมกันและแทนกันใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่โจทก์เป็นเงิน 18,456 บาท และให้จำเลยที่ 1 ใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่โจทก์เพิ่มอีก 1,000 บาท จำเลยทั้งสองฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า "ศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงว่า โจทก์ได้ชำระเงินค่าเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ให้แก่ห้างหุ้นส่วนจำกัด ส.สยามยนต์ผู้ให้เช่าซื้อไปเพียง 3,000 บาท รถจักรยายนต์คันที่โจทก์เช่าซื้อมาถูกชนจนกระทั่งไม่สามารถซ่อมแซมให้กลับคืนดีได้ สัญญาเช่าซื้อระหว่างโจทก์ผู้เช่าซื้อและห้างหุ้นส่วนจำกัด ส.สยามยนต์ผู้ให้เช่าซื้อ ข้อ 9 ระบุไว้ว่าตั้งแต่วันที่ผู้เช่าได้รับมอบทรัพย์ที่เช่าซื้อเป็นต้นไป หากเกิดความเสียหายแก่ทรัพย์ที่เช่าซื้อในระหว่างอายุสัญญาเช่าซื้อ เช่นถูกขโมย ต้องอัคคีภัย วาตภัย อุทกภัย อุปัทวเหตุใด ๆ หรือโดยการกระทำการใด ๆ จนทรัพย์ที่เช่าซื้อเสียหายหรือสูญหายผู้เช่ายอมรับผิดชดใช้เงินค่าที่เช่าซื้อที่ยังค้างชำระอยู่ทั้งสิ้น จำเลยที่ 1 เป็นฝ่ายกระทำละเมิดเป็นเหตุให้โจทก์เสียหาย จำเลยที่ 2 เป็นผู้รับประกันภัยให้แก่จำเลยที่ 1 สำหรับความเสียหายใด ๆ อันเกิดจากรถยนต์คันหมายเลขทะเบียนก.ท.ว.8885 และกรมธรรม์ประกันภัยตามเอกสาร ล.1 ข้อ 2, 3 ระบุไว้ว่า ความรับผิดต่อทรัพย์สินนั้น บริษัทจะชดใช้ค่าสินไหมทดแทนในนามของผู้เอาประกันภัย ซึ่งผู้เอาประกันภัยต้องรับผิดตามกฎหมายเพื่อความเสียหายต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอก เนื่องจากอุบัติเหตุอันเกิดจากการใช้รถยนต์ในระหว่างระยะเวลาประกันภัย

ที่จำเลยทั้งสองฎีกาเป็นใจความว่า โจทก์ยังไม่มีอำนาจฟ้องเรียกราคารถจักรยานยนต์ทั้งหมด เพราะรถยังเป็นของห้างหุ้นส่วนจำกัด ส.สยามยนต์โจทก์ชำระราคารถให้แก่เจ้าของรถไปเพียง 3,000 บาท จึงควรรับช่วงสิทธิจากเจ้าของรถมาเรียกร้องจากจำเลยทั้งสองได้เพียง 3,000 บาทเท่านั้น ศาลฎีกาเห็นว่า แม้โจทก์จะชำระราคาค่าเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ยังไม่ครบตามฎีกาของจำเลยทั้งสองก็ตาม แต่โจทก์ในฐานะผู้เช่าซื้อย่อมมีสิทธิที่จะยึดถือและใช้ประโยชน์ตลอดจนมีหน้าที่ต้องดูแลรักษารถจักรยานยนต์ดังกล่าวให้อยู่ในสภาพใช้การได้ดีตลอดไป และเมื่อได้ใช้เงินให้ครบถ้วนตามสัญญาเช่าซื้อแล้วรถจักรยานยนต์ย่อมตกเป็นสิทธิแก่โจทก์ และโดยเฉพาะเมื่อรถจักรยานยนต์เกิดความเสียหายขึ้นไม่ว่าในกรณีใด ๆ ตามที่ระบุไว้ในสัญญาเช่าซื้อข้อ 9ดังกล่าวมาข้างต้น โจทก์ต้องรับผิดชดใช้เงินค่าเช่าซื้อที่ยังค้างชำระให้แก่ผู้ให้เช่าซื้อจนครบถ้วน ซึ่งในเรื่องนี้ก็ได้ความว่า รถจักรยานยนต์ที่โจทก์เช่าซื้อเสียหายจนไม่สามารถซ่อมแซมให้กลับคืนดีได้ ฉะนั้นเมื่อจำเลยที่ 1 ทำละเมิดจนรถจักรยานยนต์เสียหายและขาดประโยชน์การใช้ โจทก์ย่อมเป็นผู้เสียหายและต้องถือว่าจำเลยที่ 1 ได้ทำละเมิดโดยตรงต่อโจทก์ โจทก์จึงอยู่ในฐานะที่ฟ้องเรียกค่าสินไหมทดแทนจากจำเลยที่ 1 ได้ ส่วนจำเลยที่ 2 เป็นผู้รับประกันภัยค้ำจุนให้แก่จำเลยที่ 1 สำหรับความเสียหายใด ๆ อันเกิดจากรถยนต์คันหมายเลขทะเบียน ก.ท.ว.8885 ตามกรมธรรม์ประกันภัยเอกสาร ล.1 ข้อ 2, 3 ดังกล่าวข้างต้น ฉะนั้นเมื่อจำเลยที่ 1 ผู้เอาประกันภัยต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่โจทก์ตามกฎหมาย จำเลยที่ 2 ผู้รับประกันภัยซึ่งผูกพันตนเองเข้ามารับประกันที่จะชดใช้ค่าสินไหมทดแทนในนามจำเลยที่ 1 จึงต้องรับผิดที่จะต้องชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่โจทก์เต็มจำนวนแทนจำเลยที่ 1 โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องเรียกค่าสินไหมทดแทนจากจำเลยที่ 2 ได้เช่นกัน"

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา nan

แหล่งที่มา เนติบัณฑิตยสภา

ชื่อคู่ความ โจทก์ - นายเรวัต ชวาลทัต จำเลย - นายวรานนท์ มีกานนท์ กับพวก

ชื่อองค์คณะ เพียร ศรีอรุณ ไพบูลย์ ไวกาสี ประสม ศรีเจริญ

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ตัดสิน nan

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th
ติดต่อเราทาง LINE