คำพิพากษาศาลฎีกา ปี 2522

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 659

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 659/2522

พระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483

เจ้าหนี้ยื่นคำขอรับชำระหนี้แล้วต่อมาศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องคดีที่มีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ ศาลฎีกาพิพากษากลับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้พิทักษ์ทรัพย์ตามศาลชั้นต้นเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ดำเนินการต่อไปจากเดิมได้ ไม่ต้องยื่นคำขอรับชำระหนี้ตามประกาศของ เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ใหม่ ซึ่งเพียงแต่เจ้าหนี้ที่ยังไม่ได้ยื่นคำขอรับชำระไว้เดิมยื่นคำขอเข้ามาได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 663

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 663/2522

พระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490

จำเลยเก็บปืนกับกระสุนได้ บรรจุอยู่ในถุงกระดาษริมทางจำเลยนำไปจะส่งกำนัน เลยถูกกำนันจับ ไม่เป็นความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ มาตรา72,78

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 195

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 195/2522

ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ม. 2 (7)

คำแจ้งความว่าจำเลยออกเช็คไม่มีเงินในธนาคาร จึงมาแจ้งให้ตำรวจทราบไว้เป็นหลักฐาน ไม่มีเจตนาให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีกับจำเลยที่จะให้จำเลยได้รับโทษ ไม่เป็นคำร้องทุกข์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 193

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 193/2522

ประมวลกฎหมายอาญา ม. 341 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ม. 158 (5)

โจทก์บรรยายฟ้องว่า เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2513 เวลากลางวัน จำเลยมีเจตนาฉ้อโกงและโดยทุจริตได้บังอาจกล่าววาจาอันเป็นเท็จหลอกลวง ก. ผู้เสียหายว่าจำเลยประสงค์จะซื้อกระดาษกล่องจำนวน 614 ริม ราคา 500,000 บาท จาก ก. ผู้เสียหาย โดยผัดชำระราคาในวันที่ 4 พฤศจิกายน2513 ก.ผู้เสียหายหลงเชื่อว่าเป็นความจริงตามที่จำเลยกล่าวหลอกลวงจึงได้มอบกระดาษกล่องจำนวน 614 ริมราคา 500,000 บาท ให้จำเลยรับไปเป็นประโยชน์ของตนซึ่งความจริงจำเลยมีเจตนาฉ้อโกงกระดาษกล่อง 614 ริมไปจากก.ผู้เสียหายมาแต่แรก โดยจำเลยเจตนาจะไม่ชำระเงินให้แก่ ก.ผู้เสียหายเลย ดังนั้นในวันที่ 4 พฤศจิกายน 2513เวลากลางวัน จำเลยจึงได้นำเช็คธนาคารศรีนคร จำกัดสำนักงานใหญ่ ฉบับเลขที่ 082013 ลงวันที่สั่งจ่ายวันที่ 30 มิถุนายน 2514 สั่งจ่ายเงินจำนวน 500,000 บาท โดยจำเลยบอกแก่ ก.ผู้เสียหายว่าเป็นเช็คของ ล.มาชำระหนี้ให้แก่ ก.ผู้เสียหายฯ ตามคำบรรยายฟ้องแสดงว่า ก.ผู้เสียหายได้ตกลงขายกระดาษกล่องจำนวน 614 ริม ราคา 500,000 บาทให้จำเลย และจำเลยขอผัดชำระราคาค่ากระดาษกล่อง ต่อมาจำเลยได้นำเช็คมาชำระราคาค่ากระดาษกล่องให้ ก.ผู้เสียหายตามที่ขอผัดไว้จริง แม้โจทก์จะบรรยายในตอนท้ายว่าจำเลยหลอกลวงผู้เสียหายว่าเช็คฉบับนี้ขึ้นเงินได้ ซึ่งความจริงเช็คที่กล่าวเป็นเช็คที่ธนาคารศรีนคร จำกัดสำนักงานใหญ่ มอบให้แก่จำเลย ซึ่งได้เปิดบัญชีเป็นลูกค้าของธนาคาร จำเลยทราบดีอยู่แล้วว่าเช็คที่กล่าวไม่มีทางขึ้นเงินได้เลย เพราะจำเลยไม่ได้เป็นผู้สั่งจ่ายเงิน ซึ่ง ก.ผู้เสียหายหลงเชื่อจำเลยจึงรับเช็คไว้ ก็เป็นเพียงบรรยายฟ้องให้เห็นว่าเช็คที่จำเลยนำมาชำระราคาค่ากระดาษกล่องไม่สามารถขึ้นเงินจากธนาคารได้เท่านั้นกรณีเป็นเรื่องโจทก์จำเลยตกลงซื้อขายกระดาษกล่องกันแล้วจำเลยไม่ชำระราคา อันเป็นการผิดสัญญาในทางแพ่ง หาใช่เป็นคำฟ้องในความผิดฐานฉ้อโกงไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 658

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 658/2522

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม. 8, 23 พระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483

คัดค้านคำสั่งเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ที่สั่งไม่ให้ถอนการยึดทรัพย์ต้องร้องต่อศาลภายใน 14 วันตาม พระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 158 เหตุที่ผู้ร้องอ้างว่าเสียเวลาศึกษาสำนวนความซึ่งใช้พยานหลักฐานหลายชุด และผู้รับมอบอำนาจเข้าใจผิด ไม่เป็นเหตุสุดวิสัยที่จะขยายระยะเวลา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 648

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 648/2522

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม. 426

ในคดีที่โจทก์ถูกบิดาของผู้ตายฟ้องให้รับผิดร่วมกับจำเลยในผลแห่งละเมิดซึ่งจำเลยกระทำไปในทางการที่จ้างและโจทก์ผู้ซึ่งเป็นนายจ้างต้องชดใช้ค่าสินไหมทดแทนพร้อมด้วยดอกเบี้ยและใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนให้บิดาของผู้ตายไปแล้วค่าฤชาธรรมเนียมซึ่งศาลสั่งให้ใช้แทนเนื่องจากโจทก์ต่อสู้คดีและเป็นฝ่ายแพ้คดีนั้น ไม่ใช่ค่าสินไหมทดแทนอันเป็นผลโดยตรงจากการกระทำละเมิด จึงไล่เบี้ยให้จำเลยชดใช้ให้แก่โจทก์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 426 ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 188

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 188/2522

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม. 227, 425 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ม. 248

โจทก์ทำสัญญาใช้สถานีบริการขายน้ำมันของบริษัทอ. ในสัญญาดังกล่าวระบุไว้ว่าในกรณีทรัพย์สินของบริษัทฯ ได้รับความเสียหายเนื่องจากความจงใจหรือประมาทเลินเล่อของโจทก์ลูกจ้างของโจทก์หรือบุคคลอื่น โจทก์ต้องรับผิดชอบออกค่าซ่อมแซมหรือชดใช้ราคาทรัพย์สินนั้น ตามสัญญาข้อนี้เมื่อเกิดความเสียหายขึ้นแก่สถานีบริการดังกล่าวบริษัทฯ ได้จัดการซ่อมและโจทก์ได้ออกเงินค่าซ่อมให้แก่บริษัทฯ ไปแล้ว โจทก์ย่อมเข้าสู่ฐานะเป็นผู้รับช่วงสิทธิที่จะเรียกร้องให้จำเลยผู้ซึ่งจะต้องรับผิดในความเสียหายนั้นให้ชำระเงินที่จ่ายไปแล้วนั้นได้

ทุนทรัพย์ที่จะถือเป็นหลักว่าฎีกาในข้อเท็จจริงได้หรือไม่นั้นต้องถือตามทุนทรัพย์ที่พิพาทกันมาในศาลชั้นต้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 647

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 647/2522

ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ม. 225, 226

ข้อที่อ้างขึ้นใหม่ในศาลฎีกาว่าพบเอกสารอันเป็นข้ออ้างใหม่ตามภาพถ่ายท้ายฎีกา ไม่เป็นข้อที่ศาลฎีกาจะรับพิจารณา และการที่ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยาน จำเลยก็ไม่ได้โต้แย้งไว้ จึงฎีกาไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 646

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 646/2522

ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ม. 173 วรรคสอง (1)

คดีก่อนโจทก์ฟ้องว่าจำเลยที่ 1 คนเดียว กระทำละเมิดเข้าทำนาของโจทก์ในปีการทำนา พ.ศ.2519 คดีดังกล่าวอยู่ระหว่างพิจารณา แล้วโจทก์ฟ้องคดีนี้ว่าจำเลยที่ 1 กับพวกเข้ามาแย่งไถและหว่านข้าวทำนาอันเป็นการละเมิดในปี พ.ศ.2520 ซึ่งเป็นการละเมิดคนละคราวต่างหากจากกัน(ทั้งในชั้นตรวจรับคำฟ้อง ยังไม่ปรากฏข้อเท็จจริงว่าเป็นการทำละเมิดต่อเนื่องเรื่อยมา อันจะพึงถือว่าเป็นการทำละเมิดคราวเดียวกัน) จึงไม่อาจถือได้ว่าเป็นคำฟ้องเรื่องเดียวกัน ฟ้องโจทก์ไม่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 173 วรรคสอง (1)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 644

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 644/2522

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม. 344

จำเลยให้การต่อสู้คดีขอหักกลบลบหนี้ค่าน้ำมันของโจทก์กับค่ากระแสไฟฟ้าของจำเลย โจทก์เบิกความว่าโจทก์เป็นลูกหนี้ ค่ากระแสไฟฟ้าของจำเลยได้หักกลบลบหนี้กันแล้วคงเป็นหนี้ตามจำนวนที่ฟ้อง ดังนี้เป็นที่หนี้ที่โจทก์ปฏิเสธจึงมีข้อต่อสู้ หักกลบลบกันไม่ได้

« »
ติดต่อเราทาง LINE