คำพิพากษาศาลฎีกา ปี 2518

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1481

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1481/2518

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม. 1711, 1712, 1713 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ม. 104, 188

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1713 วรรคสอง เป็นบทบัญญัติที่ชี้แนวทางให้ศาลปฏิบัติในการแต่งตั้งผู้จัดการมรดก หาใช่เป็นบทบังคับให้ศาลจำต้องตั้งผู้จัดการมรดกตามที่ระบุในพินัยกรรมไม่ แม้ผู้ร้องจะร้องขอให้ศาลตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกผู้ตายโดยอ้างว่ามีพินัยกรรมระบุไว้ก็ตาม แต่เมื่อผู้คัดค้านได้ยื่นคำร้องคัดค้าน และขอให้ตั้งผู้คัดค้านเป็นผู้จัดการมรดก จึงเป็นอำนาจของศาลที่จะพิจารณาว่าผู้ใดในระหว่างผู้ร้องกับผู้คัดค้านเป็นผู้สมควรได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการมรดก

ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้ศาลตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกผู้ตาย ผู้คัดค้านยื่นคำร้องคัดค้านและขอให้ตั้งผู้คัดค้านเป็นผู้จัดการมรดก เมื่อศาลได้ดำเนินการพิจารณาอย่างคดีมีข้อพิพาท เป็นการเปิดโอกาสให้คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งคัดค้านก่อนได้อยู่แล้ว นอกจากนี้ยังได้มีการสืบพยานไปบ้าง แต่ยังไม่หมดปาก และแต่ละฝ่ายต่างอ้างสำนวนคดีอื่นที่คู่ความในคดีนั้นได้ประนีประนอมยอมความกันในเรื่องทรัพย์มรดกผู้ตาย พร้อมพยานหลักฐานในสำนวนนั้นเป็นพยานเมื่อได้มีการเปิดโอกาสให้คู่ความคัดค้านก่อนได้แล้วการที่ศาลพิพากษาตั้งผู้คัดค้านเป็นผู้จัดการมรดกก็เป็นการชอบด้วยกระบวนพิจารณาแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1478

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1478/2518

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม. 112, 377, 381

โจทก์ผู้รับจ้างทำของทำงานไม่เสร็จตามกำหนดในสัญญาจึงขอต่ออายุ จำเลยผู้ว่าจ้างไม่ตอบ จะถือว่าจำเลยยอมต่ออายุสัญญาให้ไม่ได้

ผู้รับเหมาทำงานเสร็จ แต่ผู้ตรวจงานของผู้ว่าจ้างรายงาน ว่าไม่ตรงตามสัญญา ผู้ว่าจ้างเรียกเบี้ยปรับ จะถือว่าผู้ว่าจ้างรับงาน โดยไม่อิดเอื้อนไม่ได้ จึงเรียกเบี้ยปรับได้

ผู้รับจ้างมอบหนังสือรับรองของธนาคารแทนเงินมัดจำตามสัญญาไม่เป็นเงินมัดจำ แต่เมื่อผิดสัญญาผู้ว่าจ้างก็เรียกเอาเงินจำนวนนี้ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1398

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1397 - 1398/2518

ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ม. 150

โจทก์ตีราคาที่ดินพิพาทในศาลชั้นต้นแล้ว แม้ราคาจะสูงขึ้นระหว่างพิจารณา ก็ไม่อนุญาตให้จำเลย เพิ่มทุนทรัพย์ในชั้นอุทธรณ์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1311

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1311/2518

ประมวลกฎหมายอาญา ม. 352

ส. มอบแหวนและสร้อยให้จำเลยไปขาย ขายราคาเท่าใดไม่จำกัด แต่จำเลยต้องให้เงิน 18,000 บาทแก่ ส. จำเลยไม่คืนแหวนและว่าเอาเงินใช้หมดแล้ว ไม่เป็นยักยอก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1303

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1303/2518

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม. 1525 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ม. 55, 56, 94

ผู้เยาว์ซึ่งเกิดจากบิดาและมารดาที่ไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน ย่อมเป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของมารดา และมารดามีอำนาจฟ้องแทนผู้เยาว์ได้

การนำสืบว่าผู้มีชื่อในโฉนดไม่ใช่เจ้าของที่ดิน แต่ลงชื่อในโฉนดแทนผู้อื่นนั้น หาใช่เป็นการสืบเปลี่ยนแปลงเอกสารไม่ จึงไม่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1449

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1449/2518

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม. 1389

ภารจำยอมเป็นทางเดินกว้าง 1.25 เมตร ไม่มีสภาพเป็นทางรถยนต์เข้าออก โจทก์เจ้าของที่ดินตอนในไม่มีสิทธิให้จำเลยเจ้าของภารยทรัพย์เปิดเป็นทางรถยนต์กว้าง 3 เมตร

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1438

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1436 - 1438/2518

พระราชบัญญัติว่าด้วยการใช้กฎหมายอิสลามในเขตจังหวัด ปัตตานี นราธิวาส ยะลา และสตูล พ.ศ.2489

ปัญหาว่าเจ้ามรดกซึ่งเป็นอิสลามในจังหวัดปัตตานีทำสัญญาแบ่งสินสมรสกันหรือไม่ ศาลวินิจฉัยชี้ขาดได้ว่าไม่ได้ทำสัญญาเช่นนั้น จึงไม่มีสัญญาที่จะให้ดะโต๊ะยุติธรรมชี้ขาด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1431

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1431/2518

ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ม. 225, 247, 309

ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ขายทอดตลาดในการบังคับคดีใหม่ผู้ซื้อทรัพย์คนหนึ่งใน 3 คนที่รวมกันซื้อ ฎีกาได้เพราะมีส่วนได้เสีย

ศาลไม่ได้แจ้งวันขายทอดตลาดให้ลูกหนี้ตามคำพิพากษาทราบไม่ใช่ข้อกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน ถ้าไม่ได้อ้างในศาลชั้นต้น และมิได้ยกขึ้นอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ยกขึ้นวินิจฉัยเองไม่ได้

การขายทอดตลาดทรัพย์ในการบังคับคดี จะขายรวมหรือแยกขายก็ได้ ตามมาตรา 309

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1409

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1409/2518

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม. 369

ผู้จะซื้อไม่ไปรับโอนและชำระราคาที่ดินตามกำหนดสัญญาจึงไม่มีสิทธิฟ้องบังคับผู้ขายให้โอนขายที่ดินแก่ตนได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1430

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1429 - 1430/2518

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม. 130, 420, 494, 537, 561

โจทก์ขายฝากห้องพิพาทโดยไม่มีกำหนดเวลาไถ่ โจทก์จึงมีสิทธิขอไถ่ได้ภายในกำหนด 10 ปี และที่โจทก์ให้ทนายความมีหนังสือแจ้งให้จำเลยซึ่งเป็นผู้ซื้อฝากไปที่ว่าการอำเภอตามวันเวลาที่กำหนดเพื่อไถ่ถอนการขายฝาก ส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียน จำเลยได้รับแล้ว แม้จะคืนหนังสือนั้นไปก็ฟังว่าจำเลยได้ทราบการขอไถ่ และถือว่าโจทก์ใช้สิทธิไถ่คืนโดยชอบแล้ว

การที่จำเลยผู้ซื้อฝากให้โจทก์ผู้ขายฝากเช่าห้องพิพาทและต่อมาไม่ยอมให้โจทก์ไถ่คืน โจทก์ย่อมไม่ต้องรับผิดในค่าเสียหาย ที่ไม่ยอมออกจากห้องพิพาทที่เช่านั้นนับแต่วันที่โจทก์ใช้สิทธิไถ่คืนโดยชอบแล้ว

« »
ติดต่อเราทาง LINE