
สวัสดีครับ ผมเป็นแอดมินและนักเขียนของ Legardy แพลตฟอร์มที่รวบรวมทนายจากทั่วประเทศ ซึ่งผมเห็นคำถามเกี่ยวกับเรื่อง "ถูกบอกเลิกสัญญาเช่าซื้อรถ" เยอะมากในกระทู้ของเรา หลายคนเจอปัญหาจู่ ๆ ไฟแนนซ์บอกเลิกสัญญา รถโดนยึด ทั้งที่ผ่อนมาแล้วหลายงวด หรือบางคนโดนเรียกเก็บเงินเพิ่มแม้รถถูกขายทอดตลาดไปแล้ว
คำถาม คือ ทำไมไฟแนนซ์ถึงบอกเลิกสัญญา? ยึดรถได้เลยหรือไม่? แล้วเรามีสิทธิอะไรบ้าง?
บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจว่า ถูกบอกเลิกสัญญาเช่าซื้อรถแล้วต้องทำยังไง? พร้อมอธิบายสิทธิของคุณตามกฎหมาย ภาษาง่าย ๆ เข้าใจได้ ไม่ใช่ภาษาทนาย และที่สำคัญ จะไม่ปล่อยให้คุณโดนเอาเปรียบ!
สัญญาเช่าซื้อรถคืออะไร? ถูกบอกเลิกสัญญาเช่าซื้อรถเพราะอะไร?
ก่อนจะไปดูว่าถูกบอกเลิกสัญญาเช่าซื้อรถแล้วต้องทำยังไง เราต้องเข้าใจก่อนว่าสัญญาเช่าซื้อคืออะไร และทำไมไฟแนนซ์ถึงมีสิทธิ์บอกเลิกสัญญาได้
สัญญาเช่าซื้อรถ คืออะไรกันแน่?
เวลาคุณซื้อรถแบบผ่อนกับไฟแนนซ์ คุณไม่ได้เป็นเจ้าของรถทันที รถยังเป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัทไฟแนนซ์จนกว่าคุณจะจ่ายค่างวดครบตามสัญญา นี่เรียกว่า "เช่าซื้อ"
กฎหมายกำหนดไว้ชัดเจนใน ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 572 ว่า เช่าซื้อคือสัญญาที่ให้ผู้เช่าซื้อมีสิทธิใช้ทรัพย์สิน (รถ) ได้ แต่กรรมสิทธิ์ยังเป็นของผู้ให้เช่าซื้อ (ไฟแนนซ์) จนกว่าจะจ่ายครบตามข้อตกลง ถ้ายังผ่อนไม่หมด ไฟแนนซ์ก็ยังถือว่าเป็นเจ้าของรถอยู่
ทำไมไฟแนนซ์ถึงบอกเลิกสัญญาเช่าซื้อได้?
ถ้าไฟแนนซ์ยังเป็นเจ้าของรถ คุณอาจคิดว่า "งั้นไฟแนนซ์จะบอกเลิกสัญญาเมื่อไหร่ก็ได้เลยสิ?" คำตอบคือ ไม่ได้มั่วแบบนั้น ไฟแนนซ์มีสิทธิ์บอกเลิกสัญญาก็ต่อเมื่อผู้เช่าซื้อทำผิดเงื่อนไข เช่น
- ค้างค่างวด ถ้าคุณจ่ายล่าช้าเกินกำหนดที่ระบุไว้ในสัญญา (มักเป็น 3 งวดขึ้นไป) ไฟแนนซ์มีสิทธิ์ยกเลิกสัญญา
- ไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขสัญญา เช่น เอารถไปขายต่อ เอารถไปจำนำ หรือเอารถไปใช้ในทางที่ผิดเงื่อนไขสัญญา
- ไฟแนนซ์มีการแจ้งเตือน ตามมาตรา 574 หากผู้เช่าซื้อผิดนัดชำระ ไฟแนนซ์ต้องแจ้งเตือนก่อน ถึงจะสามารถบอกเลิกสัญญาได้ ไม่ใช่ว่าอยู่ดี ๆ จะมายึดรถเลย
จ่ายหมดแล้วแต่ยังไม่ได้โอนชื่อ ยังเป็นเจ้าของรถไหม?
คนจำนวนมากคิดว่า "ผ่อนหมดแล้ว = รถเป็นของเรา" แต่จริง ๆ แล้ว ถ้ายังไม่ได้ทำเรื่องโอนกรรมสิทธิ์ รถก็ยังถือเป็นของไฟแนนซ์อยู่!
ไฟแนนซ์มีหน้าที่โอนกรรมสิทธิ์ให้เมื่อคุณจ่ายเงินครบ แต่ถ้าคุณยังไม่ได้รับเล่มทะเบียน ควรรีบติดตามกับไฟแนนซ์ทันที ไม่อย่างนั้นอาจเจอปัญหาตามมา เช่น ไฟแนนซ์ปิดกิจการไปแล้ว ทำให้โอนกรรมสิทธิ์ไม่ได้
สัญญาเช่าซื้อรถต่างจากสินเชื่อรถยนต์ยังไง?
คนมักสับสนระหว่าง เช่าซื้อรถ กับ สินเชื่อรถยนต์ ซึ่งจริง ๆ แล้ว สองอย่างนี้ไม่เหมือนกันเลย!
- เช่าซื้อรถ = คุณไม่ได้เป็นเจ้าของรถทันที กรรมสิทธิ์เป็นของไฟแนนซ์ จ่ายครบถึงได้เป็นของคุณ
- สินเชื่อรถยนต์ = คุณเป็นเจ้าของรถตั้งแต่วันแรก แต่เอารถไปค้ำประกันเงินกู้กับธนาคาร ถ้าผ่อนไม่ไหว ธนาคารจะยึดรถขายทอดตลาด
ถ้าคุณซื้อรถแบบเช่าซื้อ ไฟแนนซ์เป็นเจ้าของรถจนกว่าคุณจะจ่ายครบ ต่างจากสินเชื่อที่คุณเป็นเจ้าของรถตั้งแต่แรก นี่คือเหตุผลที่ไฟแนนซ์สามารถบอกเลิกสัญญาและยึดรถได้ถ้าคุณผิดนัดชำระ
สรุป สัญญาเช่าซื้อ = รถยังไม่ใช่ของคุณจนกว่าจะผ่อนหมดและโอนกรรมสิทธิ์!
สัญญาเช่าซื้อไม่ได้ให้คุณเป็นเจ้าของรถตั้งแต่วันแรก ไฟแนนซ์ยังถือกรรมสิทธิ์อยู่จนกว่าคุณจะจ่ายครบ และถ้าคุณผิดนัดชำระ ไฟแนนซ์มีสิทธิ์บอกเลิกสัญญาและยึดรถคืน แต่ต้องทำตามกระบวนการทางกฎหมาย ไม่ใช่จะมายึดมั่ว ๆ ได้
ถ้าคุณกำลังถูกบอกเลิกสัญญา หรือสงสัยว่าไฟแนนซ์ทำถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ บทความนี้จะช่วยให้คุณรู้สิทธิของตัวเอง เพื่อป้องกันการถูกเอาเปรียบจากไฟแนนซ์
ทำไมไฟแนนซ์ถึงบอกเลิกสัญญาเช่าซื้อรถ? ต้องค้างกี่งวดถึงจะโดนยึด?
หลายคนคิดว่าการซื้อรถแบบเช่าซื้อก็คือการซื้อรถแบบผ่อนปกติ แค่จ่ายเงินทุกเดือนจนหมดแล้วก็เป็นของเรา แต่ความจริงคือ ถ้าคุณจ่ายไม่ครบตามสัญญา ไฟแนนซ์สามารถบอกเลิกสัญญาและยึดรถคืนได้ทันที ซึ่งทำให้หลายคนที่ยังไม่เข้าใจระบบเช่าซื้อต้องเสียรถไปแบบงง ๆ
"แล้วไฟแนนซ์สามารถบอกเลิกสัญญาได้ตอนไหน?" คำถามนี้สำคัญมาก เพราะถ้าคุณรู้ว่าไฟแนนซ์ทำได้แค่ไหน จะช่วยให้คุณป้องกันตัวเองและวางแผนทางการเงินได้ดีกว่า
จ่ายช้าไปกี่งวด ถึงจะถูกบอกเลิกสัญญา?
ในสัญญาเช่าซื้อแต่ละบริษัทจะกำหนดเงื่อนไขไว้ชัดเจน เช่น ห้ามค้างเกิน 3 งวด มิฉะนั้นถือว่าผิดนัดชำระและไฟแนนซ์สามารถใช้สิทธิ์บอกเลิกสัญญาได้
ถ้าคุณผิดนัดชำระ ไฟแนนซ์ต้องส่งหนังสือแจ้งเตือนก่อน ตาม มาตรา 574 ของประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ระบุว่า ก่อนที่ไฟแนนซ์จะบอกเลิกสัญญาเช่าซื้อ ผู้ให้เช่าซื้อต้องแจ้งให้ผู้เช่าซื้อทราบล่วงหน้าและกำหนดระยะเวลาชำระหนี้ ถ้าคุณยังไม่ชำระในเวลาที่กำหนด ไฟแนนซ์ถึงจะมีสิทธิ์บอกเลิกสัญญาได้
บางคนคิดว่าแค่ค้างไป 1-2 วันก็โดนยึดรถทันที ซึ่งจริง ๆ แล้วไฟแนนซ์ไม่สามารถทำแบบนั้นได้ การค้างชำระเพียงไม่กี่วันยังไม่ถือว่าผิดนัดร้ายแรง แต่ถ้าค้างต่อเนื่องโดยไม่มีการติดต่อขอผ่อนผัน โอกาสโดนบอกเลิกสัญญาจะสูงขึ้นมาก
ถูกบอกเลิกสัญญาเพราะจ่ายไม่ตรงวัน ยังไงก็โดนยึด?
ในบางกรณี แม้ว่าคุณจะจ่ายเงินทุกงวด แต่ถ้าจ่ายช้าไปกว่ากำหนดทุกเดือน ไฟแนนซ์อาจถือว่าคุณผิดเงื่อนไขได้ หากสัญญาระบุว่า การจ่ายล่าช้าบ่อย ๆ เป็นเหตุให้บอกเลิกสัญญาได้
เคสแบบนี้พบได้บ่อยจากคนที่ผ่อนรถตามใจตัวเอง เช่น บางเดือนจ่ายวันที่ 5 บางเดือนจ่ายวันที่ 15 หรือบางเดือนจ่ายข้ามไปจ่ายงวดถัดไปเลย ไฟแนนซ์อาจถือว่าผิดเงื่อนไขและใช้สิทธิ์บอกเลิกสัญญาได้
ไม่ได้ค้างค่างวด แต่โดนบอกเลิกสัญญาเพราะผิดเงื่อนไขอื่น ๆ?
มีหลายกรณีที่ไฟแนนซ์บอกเลิกสัญญาเช่าซื้อรถ ทั้งที่เจ้าของรถยังผ่อนไม่หมดและจ่ายเงินครบทุกงวด แต่กลับผิดเงื่อนไขบางอย่างที่ระบุในสัญญา เช่น
- เอารถไปให้คนอื่นใช้โดยไม่ได้แจ้งไฟแนนซ์
- เอารถไปจำนำ หรือขายต่อ โดยที่ยังไม่ได้ผ่อนหมด
- ใช้รถผิดประเภท เช่น ซื้อรถยนต์ส่วนบุคคลแต่เอาไปใช้ขนส่งเชิงพาณิชย์
- ไม่ต่อประกันภาคบังคับตามที่กำหนด
ทุกข้อที่กล่าวมา อาจทำให้ไฟแนนซ์อ้างสิทธิ์ในการบอกเลิกสัญญาได้ แม้คุณจะจ่ายค่างวดครบทุกเดือนก็ตาม ดังนั้น ก่อนจะนำรถไปใช้ผิดวัตถุประสงค์หรือโอนสิทธิ์ให้คนอื่น ควรตรวจสอบเงื่อนไขในสัญญาให้ดี
สถานการณ์ A ค้างค่างวด แต่ยังพยายามจ่ายบางส่วน ทำไมยังโดนบอกเลิกสัญญา?
สมมติคุณค้างชำระมา 3 งวดติดต่อกัน ไฟแนนซ์แจ้งเตือนแล้วว่าถ้าไม่จ่ายใน 15 วันข้างหน้าจะบอกเลิกสัญญา คุณไม่มีเงินจ่ายครบ 3 งวด แต่คุณพยายามจ่ายไปงวดหนึ่งก่อน
ไฟแนนซ์รับเงิน แต่สุดท้ายก็ยังบอกเลิกสัญญาอยู่ดี เพราะในสายตาของไฟแนนซ์ การชำระเงินแค่บางส่วน ไม่ได้หมายความว่าหนี้ถูกชำระครบถ้วน หากยังไม่จ่ายงวดที่เหลือภายในระยะเวลาที่กำหนด ไฟแนนซ์สามารถใช้สิทธิ์บอกเลิกสัญญาต่อไปได้
สถานการณ์ B ผ่อนมา 4 ปีแล้ว ค้างไปแค่ 3 งวด ทำไมไฟแนนซ์บอกเลิกสัญญา?
เคสนี้พบบ่อยมาก คนที่ผ่อนรถมาเกือบหมดแล้ว แต่พลาดค้างค่างวดช่วงท้าย แล้วไฟแนนซ์รีบบอกเลิกสัญญาทันที หลายคนคิดว่า "ผ่อนมาตั้งหลายปี ไฟแนนซ์จะมายึดรถไปเฉย ๆ ได้ยังไง?"
ตามกฎหมาย ไม่มีข้อบังคับว่า ถ้าผ่อนมาเกินครึ่งหนึ่งแล้ว จะได้รับการยกเว้นจากการบอกเลิกสัญญา ไฟแนนซ์ยังมีสิทธิ์บอกเลิกสัญญาตามเงื่อนไขปกติ แม้คุณจะเหลือค่างวดอีกแค่ไม่กี่เดือนก็ตาม
กรณีนี้ ไฟแนนซ์มักมองว่า โอกาสที่จะได้เงินคืนจากลูกค้าต่ำ และพยายามใช้สิทธิ์ยึดรถให้เร็วที่สุด เพราะรถยังมีมูลค่าและสามารถนำไปขายทอดตลาดได้
สรุป ค้างกี่งวดถึงจะโดนบอกเลิกสัญญา? แล้วทำไมบางคนโดนเร็วกว่าคนอื่น?
ตามกฎหมาย ไฟแนนซ์มีสิทธิ์บอกเลิกสัญญาเช่าซื้อ เมื่อผู้เช่าซื้อค้างชำระตามเงื่อนไขในสัญญา ส่วนใหญ่มักกำหนดไว้ว่า ห้ามค้างเกิน 3 งวดติดต่อกัน แต่ก่อนบอกเลิกสัญญา ไฟแนนซ์ต้องแจ้งเตือนก่อน และให้โอกาสชำระหนี้ ตามมาตรา 574
แต่ในทางปฏิบัติ บางคนโดนบอกเลิกสัญญาเร็วกว่าเพราะ ไฟแนนซ์พิจารณาความเสี่ยงของลูกค้าแต่ละรายต่างกัน คนที่เคยมีประวัติค้างจ่าย อาจถูกบอกเลิกเร็วกว่า หรือแม้แต่คนที่จ่ายตรงเวลาทุกงวด แต่ไปทำผิดเงื่อนไขสัญญาอย่างอื่น ก็อาจถูกบอกเลิกสัญญาได้
สิ่งสำคัญคือ อ่านสัญญาให้ละเอียดตั้งแต่วันแรก และอย่าค้างชำระจนนานเกินไป ถ้าคุณเจอปัญหาทางการเงิน ควรติดต่อไฟแนนซ์ก่อนเสมอ อย่าปล่อยให้ไฟแนนซ์เป็นฝ่ายเดินเกมก่อน เพราะถ้าไฟแนนซ์บอกเลิกสัญญาแล้ว โอกาสได้รถคืนแทบเป็นศูนย์
ไฟแนนซ์ยึดรถเพราะถูกบอกเลิกสัญญาเช่าซื้อรถได้เลยไหม? ต้องแจ้งก่อนกี่วัน?

หลังจากที่ไฟแนนซ์ส่งหนังสือบอกเลิกสัญญาแล้ว หลายคนคิดว่า "ไฟแนนซ์จะมายึดรถเมื่อไหร่ก็ได้" หรือบางคนก็เข้าใจผิดไปว่า "ไฟแนนซ์ต้องรอหมายศาลก่อนถึงจะมายึดรถได้" ความจริงคือ ไฟแนนซ์มีสิทธิ์ยึดรถได้ทันทีหลังบอกเลิกสัญญา แต่ต้องทำตามขั้นตอนทางกฎหมาย
ไฟแนนซ์ต้องแจ้งก่อนกี่วัน ถึงจะยึดรถได้?
กฎหมายกำหนดไว้ชัดเจนใน มาตรา 574 ของ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ว่า เมื่อผู้เช่าซื้อผิดนัดชำระ ไฟแนนซ์ต้องแจ้งเตือนก่อน และให้ระยะเวลาเพื่อชำระหนี้ ถ้าผู้เช่าซื้อยังไม่ชำระภายในระยะเวลาที่กำหนด ไฟแนนซ์ถึงจะมีสิทธิ์บอกเลิกสัญญาและยึดรถได้
แต่คำว่า "แจ้งเตือนก่อน" ไม่ได้หมายความว่าไฟแนนซ์ต้องรอเป็นเดือน ๆ ก่อนจะยึดรถ ถ้าคุณค้างค่างวด ไฟแนนซ์สามารถส่งหนังสือแจ้งเตือนได้ทันที ส่วนใหญ่จะกำหนดเวลาให้จ่ายหนี้ภายใน 7-15 วัน ถ้าคุณยังไม่จ่าย ไฟแนนซ์สามารถส่งหนังสือบอกเลิกสัญญาและแจ้งให้คืนรถได้เลย
ถ้าคุณยังไม่คืนรถ ไฟแนนซ์มีสิทธิ์ส่งทีมติดตามไปยึดรถ แต่ต้องเป็นไปตามขั้นตอนทางกฎหมาย ไฟแนนซ์ไม่มีสิทธิ์บุกมายึดรถเองโดยพลการ หรือใช้กำลังบังคับให้คุณคืนรถ
ไฟแนนซ์สามารถยึดรถโดยไม่ต้องแจ้งเตือนได้ไหม?
หลายคนได้รับประสบการณ์ที่ไฟแนนซ์ส่งเจ้าหน้าที่มาตามรถถึงหน้าบ้าน หรือไปดักรอที่ที่ทำงานโดยไม่มีการแจ้งเตือนล่วงหน้า แล้วพยายามให้เซ็นเอกสารคืนรถทันที
ในความเป็นจริง ไฟแนนซ์ไม่มีสิทธิ์ยึดรถโดยไม่แจ้งเตือนก่อน ถ้าคุณยังไม่ได้รับหนังสือแจ้งเตือน และไฟแนนซ์พยายามยึดรถ คุณมีสิทธิ์ปฏิเสธไม่ให้รถออกจากบ้านได้
การยึดรถโดยพลการถือว่าเป็นการละเมิดสิทธิของผู้เช่าซื้อ หากไฟแนนซ์พยายามยึดรถโดยไม่แจ้งเตือน คุณสามารถแจ้งความตำรวจเพื่อปกป้องสิทธิ์ของตัวเองได้ แต่ต้องมั่นใจว่าคุณไม่ได้เซ็นยอมให้ไฟแนนซ์ยึดรถไปก่อนหน้านั้น
ไฟแนนซ์ต้องใช้หมายศาลเพื่อยึดรถหรือไม่?
มีความเข้าใจผิดกันเยอะว่า ไฟแนนซ์ต้องไปขอหมายศาลก่อนถึงจะยึดรถได้ ความจริงคือ ไม่จำเป็น ถ้าคุณผิดนัดชำระ และไฟแนนซ์บอกเลิกสัญญาแล้ว ไฟแนนซ์มีสิทธิ์ตามรถคืนได้เลย โดยไม่ต้องรอหมายศาล
แต่มีข้อแม้ว่า ต้องไม่มีการใช้กำลังบังคับ ข่มขู่ หรือทำให้ผู้เช่าซื้อกลัวจนต้องคืนรถ ถ้าคุณไม่ยินยอมให้ไฟแนนซ์นำรถไป ไฟแนนซ์ไม่มีสิทธิ์ยกพวกเข้ามาลากรถออกไปเอง ในกรณีแบบนี้ ไฟแนนซ์ต้องฟ้องศาลและขอหมายศาลก่อน
ถ้าไฟแนนซ์ยื่นฟ้องแล้ว และศาลมีคำสั่งให้คืนรถ เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถเข้ามาดำเนินการยึดรถตามกฎหมายได้ ดังนั้น ถ้าคุณค้างค่างวดและไม่ยอมคืนรถโดยดี ไฟแนนซ์อาจเลือกฟ้องศาลเพื่อขอให้ศาลสั่งยึดรถแทน
สถานการณ์ A ไฟแนนซ์มายึดรถถึงหน้าบ้าน แต่ไม่มีหมายศาล แบบนี้ทำได้ไหม?
สมมติคุณกำลังอยู่ที่บ้าน อยู่ ๆ มีเจ้าหน้าที่ไฟแนนซ์ 2-3 คนมาถึงหน้าบ้านคุณ และบอกว่า "คุณค้างค่างวดมาหลายเดือนแล้ว เราขอเอารถคืน"
คุณถามกลับไปว่า "มีหมายศาลหรือเปล่า?" แล้วเจ้าหน้าที่บอกว่า "ไม่ต้องใช้ เรามีสิทธิ์ยึดรถได้เลย"
ในกรณีแบบนี้ คุณสามารถปฏิเสธไม่ให้รถออกจากบ้านได้ ถ้าไฟแนนซ์ไม่มีเอกสารแจ้งเตือน หรือหนังสือบอกเลิกสัญญาตามที่กฎหมายกำหนด ไฟแนนซ์ไม่มีสิทธิ์ยึดรถโดยพละการ
แต่ถ้าคุณเซ็นเอกสารยินยอมคืนรถเอง ไฟแนนซ์สามารถนำรถไปได้ทันที เพราะถือว่าคุณยอมคืนรถโดยสมัครใจ ก่อนจะเซ็นอะไร ควรอ่านเอกสารให้ละเอียด หรือปรึกษาทนายก่อน
สถานการณ์ B รถจอดอยู่หน้าบ้าน ตื่นเช้ามารถหายไป ไฟแนนซ์มายึดไปโดยที่เราไม่รู้ แบบนี้ถูกกฎหมายไหม?
มีหลายคนเจอสถานการณ์นี้ ตื่นเช้ามาแล้วพบว่ารถที่จอดอยู่หน้าบ้านหายไป ติดต่อไปที่ไฟแนนซ์แล้วได้รับคำตอบว่า "เรามายึดรถคืนไปเอง เพราะคุณค้างค่างวด"
กรณีแบบนี้ ไฟแนนซ์ทำผิดกฎหมาย เพราะการเข้ามาเอารถโดยที่คุณไม่รู้ตัว ถือว่าเป็นการบุกรุกและลักทรัพย์ แม้ว่าคุณจะค้างค่างวดจริง ไฟแนนซ์ก็ต้องทำตามขั้นตอนทางกฎหมาย ไม่ใช่เข้ามายึดรถไปเองเงียบ ๆ
ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ คุณสามารถแจ้งความได้ทันที เพราะถือว่าไฟแนนซ์ใช้วิธีที่ไม่ถูกต้องในการยึดรถ
สรุป ไฟแนนซ์ต้องแจ้งก่อนกี่วันถึงจะยึดรถได้ และต้องใช้หมายศาลหรือไม่?
ไฟแนนซ์ต้องแจ้งเตือนให้คุณทราบล่วงหน้า ก่อนบอกเลิกสัญญา และให้ระยะเวลาชำระหนี้ ถ้าคุณยังไม่จ่ายหนี้ ไฟแนนซ์มีสิทธิ์บอกเลิกสัญญา และเรียกคืนรถได้ แต่ต้องทำตามกฎหมาย ไม่ใช่ใช้กำลังบังคับ หรือมายึดรถโดยไม่มีการแจ้งเตือนก่อน
ถ้าคุณค้างค่างวดและไม่คืนรถโดยสมัครใจ ไฟแนนซ์สามารถยื่นฟ้องศาลเพื่อขอให้ศาลสั่งยึดรถได้ ซึ่งในกรณีนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถเข้ามายึดรถได้ตามกฎหมาย
สิ่งที่สำคัญคือ หากไฟแนนซ์ใช้วิธีที่ไม่ถูกต้อง เช่น มายึดรถโดยไม่ได้แจ้งล่วงหน้า หรือบุกเข้ามาเอารถโดยที่คุณไม่รู้ตัว คุณสามารถปกป้องสิทธิ์ของตัวเองได้
รถถูกยึดไปแล้ว จบเรื่องจริงหรือ? หรือยังต้องจ่ายหนี้ต่อ?
หลายคนคิดว่า "รถถูกยึดไปแล้ว ก็คงจบเรื่อง" ไม่ต้องจ่ายอะไรอีก เพราะรถอยู่กับไฟแนนซ์แล้ว แต่ความจริงคือ การถูกยึดรถไม่ได้หมายความว่าหนี้จะหมดไป ยังมีค่าใช้จ่ายอีกหลายอย่างที่อาจตามมาโดยที่คุณไม่รู้ตัว
บางคนถูกยึดรถไปแล้ว แต่ยังถูกไฟแนนซ์เรียกเก็บเงินเพิ่ม มีจดหมายจากสำนักงานทนายความแจ้งให้ชำระเงิน บางรายโดนฟ้องศาลทั้งที่รถก็ไม่อยู่กับตัวแล้ว เรื่องนี้เกิดขึ้นได้ยังไง?
ไฟแนนซ์เอารถไปแล้ว ทำไมยังต้องจ่ายเงิน?
การที่รถถูกยึด ไม่ได้หมายความว่าหนี้ทั้งหมดถูกล้างไป ไฟแนนซ์จะนำรถไปขายทอดตลาด ถ้าขายได้ราคาสูงกว่าหนี้ที่เหลืออยู่ คุณอาจได้เงินคืน แต่ถ้าขายได้น้อยกว่าหนี้ที่คุณค้าง ไฟแนนซ์จะเรียกเก็บส่วนต่างจากคุณ
ตัวอย่างเช่น คุณยังเหลือหนี้อีก 300,000 บาท ไฟแนนซ์นำรถไปขายทอดตลาด ได้เงินเพียง 200,000 บาท นั่นแปลว่าคุณ ยังต้องจ่ายส่วนต่างอีก 100,000 บาท แม้ว่ารถจะไม่ได้อยู่กับคุณแล้วก็ตาม
ถ้าคุณไม่จ่าย ไฟแนนซ์สามารถฟ้องร้องเพื่อให้ศาลบังคับให้คุณจ่ายเงินที่เหลือได้ และอาจถูกยึดทรัพย์ หรือถูกอายัดเงินเดือน
ไฟแนนซ์เอารถไปขายทอดตลาด จะขายได้ราคาดีไหม?
หลายคนหวังว่า ไฟแนนซ์จะขายรถให้ได้ราคาสูง แล้วเอาส่วนต่างมาคืนให้เรา แต่ความจริงคือ รถที่ขายทอดตลาดมักได้ราคาต่ำกว่าท้องตลาดมาก
ไฟแนนซ์ต้องการขายรถให้ได้เร็วที่สุด จึงขายให้เต็นท์รถ หรือผู้ประมูลที่เสนอราคาต่ำสุด เพราะไฟแนนซ์ไม่ได้ต้องการกำไรจากการขายรถ แต่ต้องการปิดหนี้ให้เร็วที่สุด
ตัวอย่างที่เกิดขึ้นจริง รถยนต์มือสองราคาตลาดอยู่ที่ 400,000 บาท แต่ไฟแนนซ์นำไปขายทอดตลาดเพียง 250,000 บาท คุณอาจจะยังต้องจ่ายหนี้ส่วนที่ขาดอยู่อีก 100,000 - 150,000 บาท
สถานการณ์ A รถถูกขายทอดตลาดไปแล้ว แต่ไฟแนนซ์ยังเรียกเก็บเงินเพิ่ม ต้องทำยังไง?
สมมติคุณได้รับจดหมายแจ้งว่าไฟแนนซ์ขายรถไปแล้ว ได้เงินเพียง 180,000 บาท แต่คุณยังค้างหนี้อีก 220,000 บาท ไฟแนนซ์จึงเรียกเก็บส่วนต่าง 40,000 บาท
คุณอาจสงสัยว่า "ไฟแนนซ์มีสิทธิ์เรียกเงินเพิ่มจากเราไหม?"
ตามกฎหมาย ไฟแนนซ์มีสิทธิ์เรียกเก็บส่วนต่างได้ เพราะในสัญญาเช่าซื้อระบุไว้ว่า หากมีการขายทอดตลาดและได้เงินไม่พอชำระหนี้ ลูกค้าต้องรับผิดชอบส่วนต่างที่เหลือ
ถ้าคุณไม่สามารถจ่ายได้ ควรเจรจากับไฟแนนซ์โดยตรง หรือขอปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อให้สามารถทยอยจ่ายได้
สถานการณ์ B รถถูกขายได้ราคาสูงกว่าหนี้ที่เหลือ ไฟแนนซ์ต้องคืนเงินให้เราไหม?
บางกรณี รถถูกขายได้ราคาสูงกว่าหนี้ที่เหลืออยู่ เช่น คุณค้างหนี้ไฟแนนซ์ 250,000 บาท แต่ไฟแนนซ์ขายทอดตลาดได้ 280,000 บาท
ในกรณีนี้ ไฟแนนซ์ต้องคืนเงินส่วนต่างให้คุณ เพราะถือว่า คุณไม่มีหนี้ค้างไฟแนนซ์แล้ว และเงินที่ได้เกินจากยอดหนี้เป็นของคุณ
ถ้าไฟแนนซ์ไม่นำเงินส่วนนี้คืนให้ คุณสามารถเรียกร้องและดำเนินคดีทางกฎหมายได้
ถูกขายทอดตลาดแล้ว แต่ยังโดนขึ้นบัญชีแบล็กลิสต์ (Blacklist) ทำไม?
แม้ว่าคุณจะคืนรถไปแล้ว และไฟแนนซ์ขายรถได้แล้ว แต่ถ้าคุณยังมีหนี้ที่ค้างอยู่ เช่น ส่วนต่างจากยอดขายทอดตลาดที่ยังไม่ได้จ่ายครบ ไฟแนนซ์สามารถแจ้งเครดิตบูโรให้ขึ้นสถานะค้างชำระหนี้ได้
หากคุณถูกขึ้นบัญชีแบล็กลิสต์ จะส่งผลกระทบต่อการขอสินเชื่อในอนาคต เช่น ขอสินเชื่อบ้าน หรือสินเชื่อส่วนบุคคล ธนาคารอาจปฏิเสธการให้สินเชื่อ เพราะคุณมีประวัติค้างชำระหนี้จากไฟแนนซ์
วิธีแก้ไขคือ ต้องปิดหนี้ให้เรียบร้อย และขอให้ไฟแนนซ์แจ้งล้างข้อมูลในเครดิตบูโร ซึ่งอาจใช้เวลาประมาณ 3-5 ปี กว่าข้อมูลจะถูกลบออกจากระบบ
สรุป รถถูกยึดไปแล้ว แต่เรื่องยังไม่จบ! ต้องรู้ก่อนจะเสียเปรียบ
การถูกไฟแนนซ์ยึดรถ ไม่ได้หมายความว่าหนี้ของคุณจะหมดไป ยังมีเรื่อง การขายทอดตลาด ค่าปรับ ส่วนต่างของราคาขาย และเครดิตบูโร ที่คุณต้องระวัง
ไฟแนนซ์มีสิทธิ์ เรียกเก็บเงินส่วนต่างจากการขายทอดตลาด ถ้ารถถูกขายในราคาต่ำกว่าหนี้ที่เหลือ แต่ถ้าขายได้ราคาสูงกว่าหนี้ที่เหลือ คุณมีสิทธิ์ได้รับเงินคืน
หากคุณถูกขึ้นบัญชีแบล็กลิสต์ คุณอาจต้องเจรจากับไฟแนนซ์ หรือปิดหนี้ให้ครบก่อน เพื่อให้ไฟแนนซ์แจ้งล้างประวัติการค้างชำระจากเครดิตบูโร
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ หลายคนไม่รู้ จนกว่าจะสายเกินไป อย่าคิดว่าถูกยึดรถแล้วทุกอย่างจะจบ ต้องติดตามสถานการณ์ต่อไป เพื่อป้องกันไม่ให้ถูกไฟแนนซ์เอาเปรียบ
ปรึกษาทนายตัวจริง
สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว
สมัครเป็นทนายออนไลน์
แพล็ทฟอร์มรวบรวม
งานกฎหมายจากทั่วประเทศ



