Banner blog website.png
เผยแพร่เมื่อ: 2023-05-31

มาตรา 718 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

“มาตรา 718 หรือ “ป.พ.พ. มาตรา 718” คืออะไร? 


“มาตรา 718” หรือ “ป.พ.พ. มาตรา 718 “ คือ หนึ่งในมาตราของประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ 
ซึ่งบัญญัติไว้ว่า “ จำนองย่อมครอบไปถึงทรัพย์ทั้งปวงอันติดพันอยู่กับทรัพย์สินซึ่งจำนอง แต่ต้องอยู่ภายในบังคับซึ่งท่านจำกัดไว้ในสามมาตราต่อไปนี้ “

 


3 ตัวอย่างจริงของการใช้” มาตรา 718” หรือ “ป.พ.พ. มาตรา 718 ” ในประเทศไทย


1. คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1587/2555
ป.พ.พ. มาตรา 718 จำนองย่อมครอบไปถึงทรัพย์ทั้งปวงอันติดพันอยู่กับทรัพย์สินซึ่งจำนอง และเมื่อบ้านพิพาทเป็นโรงเรือนซึ่งมีอยู่ในขณะที่จดทะเบียนจำนอง การจำนองย่อมครอบคลุมไปถึงบ้านพิพาทด้วย แม้จำเลยจะซื้อบ้านพิพาทได้จากการขายทอดตลาดตามคำสั่งศาลโดยสุจริต แต่สิทธิของจำเลยก็ได้มาภายหลังจากที่โจทก์ได้รับจำนองบ้านพิพาทโดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว จึงไม่ทำให้สิทธิของโจทก์ที่มีอยู่ในทรัพย์จำนองระงับสิ้นไปได้ การจำนองบ้านพิพาทจึงยังคงมีอยู่ไม่ระงับสิ้นไป โจทก์จึงคงมีสิทธิจะบังคับจำนองเอาแก่บ้านพิพาทที่จำเลยซื้อได้ตาม ป.พ.พ. มาตรา 744 และมาตรา 702 วรรคสอง
จำเลยเป็นแต่เพียงผู้ซื้อบ้านพิพาทได้จากการขายทอดตลาดตามคำสั่งศาล มิใช่เป็น ผู้จำนองหรือคู่สัญญากับโจทก์ผู้รับจำนอง จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดในฐานะเป็นผู้จำนองต่อโจทก์ แต่การที่บ้านพิพาทซึ่งเป็นทรัพย์จำนองซึ่งโจทก์มีสิทธิบังคับจำนองขายทอดตลาดบ้านพิพาทเพื่อชำระหนี้แก่โจทก์ก่อนตาม ป.พ.พ มาตรา 702 วรรคสอง จำเลยกลับรื้อบ้านพิพาทและขายให้กับบุคคลอื่นไป แม้กระทำการโดยสุจริต จำเลยต้องคืนเงินในส่วนที่เกี่ยวกับบ้านพิพาทให้แก่โจทก์
ฎีกาอื่นที่เกี่ยวข้องแยกตามกฎหมายและมาตรา
ป.พ.พ. ม. 702 วรรคสอง, ม. 718, ม. 744


2. คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2387/2537
ผู้ร้องทั้งสี่ยื่นคำร้องขอให้งดการขายทอดตลาดที่ดินของจำเลยทั้งสามจำนวน 3 แปลง ที่โจทก์ในฐานะเจ้าหนี้จำนองตามคำพิพากษาได้ดำเนินการบังคับคดีไว้แล้ว แม้ต่อมาคดีของผู้ร้องทั้งสี่จะถึงที่สุดตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้นที่พิพากษาให้จำเลยทั้งสามกับพวกจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินดังกล่าวพร้อมสิ่งปลูกสร้างอันเป็นทรัพย์ที่จำเลยทั้งสามจำนองไว้แก่โจทก์ให้แก่ผู้ร้องทั้งสี่ก็ตาม แต่โจทก์ก็ยังคงมีสิทธิบังคับคดีเอาแก่ทรัพย์จำนองนั้นได้ เพราะสิทธิจำนองย่อมตกติดอยู่กับตัวทรัพย์ดังนั้นการงดการบังคับคดีไว้ตามคำร้องของผู้ร้องทั้งสี่จึงไม่เป็นประโยชน์แก่ฝ่ายใดอีกทั้งผู้ร้องทั้งสี่ก็สามารถที่จะใช้สิทธิตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นชำระหนี้ไถ่ถอนจำนองได้อยู่แล้ว แต่ผู้ร้องทั้งสี่หาได้ใช้สิทธิดังกล่าวไม่ กรณีจึงไม่มีเหตุที่จะให้งดการบังคับคดีไว้ก่อนจนกว่าคดีของผู้ร้องทั้งสี่และจำเลยทั้งสามกับพวกจะถึงที่สุด
ฎีกาอื่นที่เกี่ยวข้องแยกตามกฎหมายและมาตรา
ป.พ.พ. ม. 702 วรรคสอง, ม. 718, ม. 1300
ป.วิ.พ. ม. 287


3. คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2387/2537
ผู้ร้องทั้งสี่ยื่นคำร้องขอให้งดการขายทอดตลาดที่ดินของจำเลยทั้งสามจำนวน 3 แปลง ที่โจทก์ในฐานะเจ้าหนี้จำนองตามคำพิพากษาได้ดำเนินการบังคับคดีไว้แล้ว แม้ต่อมาคดีของผู้ร้องทั้งสี่จะถึงที่สุดตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้นที่พิพากษาให้จำเลยทั้งสามกับพวกจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินดังกล่าวพร้อมสิ่งปลูกสร้างอันเป็นทรัพย์ที่จำเลยทั้งสามจำนองไว้แก่โจทก์ให้แก่ผู้ร้องทั้งสี่ก็ตาม แต่โจทก์ก็ยังคงมีสิทธิบังคับคดีเอาแก่ทรัพย์จำนองนั้นได้ เพราะสิทธิจำนองย่อมตกติดอยู่กับตัวทรัพย์ดังนั้น การงดการบังคับคดีไว้ตามคำร้องของผู้ร้องทั้งสี่จึงไม่เป็นประโยชน์แก่ฝ่ายใดอีกทั้งผู้ร้องทั้งสี่ก็สามารถที่จะใช้สิทธิตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นชำระหนี้ไถ่ถอนจำนองได้อยู่แล้ว แต่ผู้ร้องทั้งสี่หาได้ใช้สิทธิดังกล่าวไม่ กรณีจึงไม่มีเหตุที่จะให้งดการบังคับคดีไว้ก่อนจนกว่าคดีของผู้ร้องทั้งสี่และจำเลยทั้งสามกับพวกจะถึงที่สุด
ฎีกาอื่นที่เกี่ยวข้องแยกตามกฎหมายและมาตรา
ป.พ.พ. ม. 702 วรรคสอง, ม. 718, ม. 1300
ป.วิ.พ. ม. 287
 

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th
แนะนำโดย Legardy
cta
ปรึกษาทนายได้ตลอด 24 ชม.
เพียงกดปุ่ม ปรึกษาได้ทันที