“มาตรา 170 หรือ “ป.พ.พ. มาตรา 170” คืออะไร?
“มาตรา 170” หรือ “ป.พ.พ. มาตรา 170 “ คือ หนึ่งในมาตราของประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
ซึ่งบัญญัติไว้ว่า “ การแสดงเจตนาซึ่งกระทำต่อผู้เยาว์หรือผู้ที่ศาลสั่งให้เป็นคนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ จะยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้ผู้รับการแสดงเจตนาไม่ได้ เว้นแต่ผู้แทนโดยชอบธรรม ผู้อนุบาล หรือผู้พิทักษ์ แล้วแต่กรณี ของผู้รับการแสดงเจตนานั้นได้รู้ด้วย หรือได้ให้ความยินยอมไว้ก่อนแล้ว
ความในวรรคหนึ่งมิให้ใช้บังคับ ถ้าการแสดงเจตนานั้นเกี่ยวกับการที่กฎหมายบัญญัติให้ผู้เยาว์หรือคนเสมือนไร้ความสามารถกระทำได้เองโดยลำพัง “
3 ตัวอย่างจริงของการใช้” มาตรา 170” หรือ “ป.พ.พ. มาตรา 170 ” ในประเทศไทย
1. คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1451/2524
ข้อตกลงในสัญญาค้ำประกันที่ว่า ในกรณีที่ผู้ค้ำประกันจะต้องรับผิดชำระหนี้แทนลูกหนี้ โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้จะต้องแจ้งข้อเรียกร้องที่ผู้ค้ำประกันจะต้องรับผิดให้ผู้ค้ำประกันทราบภายในกำหนดอายุสัญญาค้ำประกันเสียก่อนจึงจะใช้สิทธิเรียกร้องตามสัญญาค้ำประกันได้นั้น เป็นคนละเรื่องกับการใช้สิทธิเรียกร้องตามสัญญาค้ำประกันและไม่ใช่ข้อตกลงที่ให้ย่นอายุความฟ้องร้องให้สั้นลง ข้อตกลงดังกล่าวจึงมีผลใช้บังคับได้ เมื่อโจทก์ฟ้องคดีโดยมิได้ยื่นคำเรียกร้องให้ผู้ค้ำประกันทราบภายในกำหนดตามข้อตกลงดังกล่าวก่อน ผู้ค้ำประกันจึงไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์
ฎีกาอื่นที่เกี่ยวข้องแยกตามกฎหมายและมาตรา
ป.พ.พ. ม. 170, ม. 191, ม. 204, ม. 680, ม. 686
2. คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 602/2490
การฟ้องร้องคดีแพ่งย่อมอยู่ภายใต้บังคับแห่งอายุความ
การฟ้องเรียกทรัพย์ที่จำนำคืน ก็ต้องอยู่ภายในอายุความ
การฟ้องเรียกทรัพย์ที่จำนำคืน ต้องเริ่มนับอายุความตั้งแต่ผู้จำนำขอชำระหนี้ ถ้ายังไม่ขอชำระหนี้ ก็ยังไม่เริ่มนับอายุความประชุมใหญ่ครั้งที่5/2490
ฎีกาอื่นที่เกี่ยวข้องแยกตามกฎหมายและมาตรา
ป.พ.พ. ม. 164, ม. 169, ม. 170, ม. 758, ม. 1382, ม. 1386
3. คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 602/2490
การฟ้องร้องคดีแพ่งย่อมอยู่ภายใต้บังคับแห่งอายุความ
การฟ้องเรียกทรัพย์ที่จำนำคืน ก็ต้องอยู่ภายในอายุความ
การฟ้องเรียกทรัพย์ที่จำนำคืน ต้องเริ่มนับอายุความตั้งแต่ผู้จำนำขอชำระหนี้ ถ้ายังไม่ขอชำระหนี้ก็ยังไม่เริ่มนับอายุความ
ฎีกาอื่นที่เกี่ยวข้องแยกตามกฎหมายและมาตรา
ป.พ.พ. ม. 164, ม. 169, ม. 170, ม. 758, ม. 1382, ม. 1386