คำพิพากษาศาลฎีกา ปี 2525
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 785/2525
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ม. 271, 273, 275, 276
เมื่อโจทก์ขอให้ออกคำบังคับให้จำเลยชำระหนี้ครบถ้วนตามคำพิพากษาแล้ว จำเลยได้ชำระเงินตามจำนวนที่เจ้าพนักงานของศาลคิดให้ตามที่จำเลยร้องขอ เมื่อจำนวนเงินที่ชำระนั้นยังไม่ครบถ้วนตามคำพิพากษาโจทก์ก็มีสิทธิที่จะดำเนินการบังคับคดีเพื่อเอาชำระหนี้ส่วนที่ยังขาดอยู่ได้เนื่องจากการบังคับคดียังไม่สิ้นสุด และไม่เป็นการบังคับคดีซ้ำ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 782/2525
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ม. 40, 86
วันนัดสืบพยานจำเลยนัดแรก ทนายจำเลยป่วยขอเลื่อน ศาลอนุญาตและมีคำสั่งกำชับให้ทนายจำเลยขอหมายเรียกพยานมาให้พร้อม ในวันสืบพยานนัดถัดมา จำเลยคงมีตัวจำเลยมาเบิกความปากเดียวเท่านั้น โดยมิได้นำหรือขอหมายเรียกพยานบุคคลอื่นของจำเลยมาศาลแม้แต่คนเดียว แล้วขอเลื่อนคดีอีกอ้างเหตุว่าพยานคนหนึ่งป่วย ดังนี้ แสดงให้เห็นว่าจำเลยไม่นำพาที่จะปฏิบัติตามคำสั่งของศาลชั้นต้น ส่อเจตนาที่จะประวิงคดี ศาลไม่ให้เลื่อนคดีและงดสืบพยาน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 723/2525
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม. 420, 423 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ม. 104
จำเลยทั้งหกร่วมกันนำเรื่องราวชีวิตจริงของโจทก์ที่ 1 มาแสดงละครจีนหรืองิ้ว โดยบิดเบือนให้เห็นว่าโจทก์ที่ 1 ซึ่งเป็นภริยาน้อยมีนิสัยไม่ดี ชอบอิจฉาริษยาและก่อเรื่องวุ่นวายขึ้นในครอบครัวจนเป็นเหตุให้สามีถูกบุตรสาวใช้ปืนยิงถึงแก่ความตาย ทำให้โจทก์ที่ 1 เสียชื่อเสียงอาจถูกดูหมิ่นหรือถูกเกลียดชังได้ การกระทำของจำเลยทั้งหกจึงเป็นการร่วมกันทำละเมิดต่อโจทก์ที่ 1
เมื่อโจทก์ฟ้องและนำสืบพยานยืนยันข้อเท็จจริงอย่างหนึ่งถ้าจำเลยไม่นำสืบพยานให้เห็นเป็นอย่างอื่น ศาลย่อมรับฟังข้อเท็จจริงเป็นยุติตามที่โจทก์นำสืบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 716/2525
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม. 391, 574
ผู้เช่าซื้อผิดสัญญา เมื่อมีการเลิกสัญญาเช่าซื้อแล้วผู้ให้เช่าซื้อย่อมมีสิทธิรับเงินค่าเช่าซื้อที่รับไว้แล้วทั้งหมด กับมีสิทธิเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนความเสียหายที่ผู้เช่าซื้อได้ใช้ทรัพย์ของผู้ให้เช่าซื้อตลอดระยะเวลาที่ผู้ซื้อครอบครองทรัพย์ดังกล่าวอยู่
(อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 1195/2511)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 713/2525
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม. 75, 79, 80, 1250, 1259 พระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 ม. 22, 45
นิติบุคคลประเภทบริษัทจำกัด มีวัตถุประสงค์ในการประกอบธุรกิจเงินทุนและธุรกิจหลักทรัพย์ถูกทางราชการเพิกถอนใบอนุญาตประกอบธุรกิจเงินทุนและธุรกิจหลักทรัพย์และแต่งตั้งผู้ชำระบัญชีไว้แล้ว ผู้ชำระบัญชีมีอำนาจหน้าที่ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1250 และมาตรา 1259 ถือว่าเป็นผู้กระทำแทนบริษัทดังกล่าวอยู่แล้ว เมื่อศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์ บริษัทดังกล่าวเด็ดขาด เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์แต่ผู้เดียวมีอำนาจจัดการและจำหน่ายทรัพย์สินของลูกหนี้ ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 22 แต่สภาพการเป็นผู้แทนของบริษัทอย่างเช่นแสดงความประสงค์ขอประนอมหนี้ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 45 ยังมีอยู่ หาได้ขาดผู้เแทนแสดงความประสงค์ขอประนอมหนี้แต่อย่างใดไม่กรณีไม่ต้องด้วยบทบัญญัติ มาตรา 79,80แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ทั้งคำขอของผู้ร้องเป็นการขอเป็นผู้แทนเฉพาะการของบริษัทโดยห้ามเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์กระทำการขัดขวางอำนาจจัดการบริษัทดังกล่าวซึ่งถูกพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดแล้ว ไม่มีกฎหมายสนับสนุน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 581/2525
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม. 420
จำเลยเป็นธนาคาร ละเลยไม่เรียกเก็บเงินตามเช็คให้โจทก์ซึ่งเป็นลูกค้า ทั้ง ๆ ที่เงินในบัญชีของผู้สั่งจ่ายเช็คนั้นมีพอที่จะหักเข้าบัญชีให้โจทก์ได้ก่อนและบัญชีของผู้สั่งจ่ายก็อยู่ในธนาคารจำเลยเอง เป็นเหตุให้เงินในบัญชีของผู้สั่งจ่ายกลับไม่พอชำระหนี้ตามเช็คให้โจทก์เพราะได้มีการถอนเงินรายอื่นหลายรายการจากบัญชีของผู้สั่งจ่ายในวันนั้น และจำเลยก็มิได้แจ้งเหตุขัดข้องและคืนเช็คให้โจทก์ จำเลยจึงต้องรับผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 708/2525
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ม. 177
จำเลยตีพิมพ์ลงข่าวในหนังสือพิมพ์ โจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหายและฟ้องคดีอาญาอีก 20 กว่าศาลในข้อหาหมิ่นประมาท จำเลยจึงฟ้องแย้งเรียกค่าเสียหายในการที่โจทก์ฟ้องคดีอาญาดังกล่าวเป็นเหตุให้จำเลยต้องเสียหายค่าใช้จ่ายในการต่อสู้คดีอาญา ดังนี้ ฟ้องแย้งเป็นเรื่องเกี่ยวกับคำฟ้องเดิมที่สามารถพิจารณาพิพากษารวมกันได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 707/2525
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม. 1304, 1367 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ม. 55
ที่พิพาทเป็นบริเวณคูเมืองและกำแพงเมืองเชียงใหม่ อันเป็นโบราณวัตถุ จึงเป็นที่สาธารณสมบัติของแผ่นดิน แม้โจทก์จะได้รับโฉนดมา โจทก์ก็ไม่ได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินนี้ ทั้งปรากฏว่าโจทก์ไม่เคยเข้าครอบครองที่พิพาทเลย จึงไม่มีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 627/2525
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ม. 174, 226, 227
เมื่อผู้เสียหายมิได้มาเบิกความต่อศาล โจทก์จะอาศัยแต่เพียงคำให้การชั้นสอบสวนของผู้เสียหายที่ได้กระทำลับหลังจำเลยกับคำเบิกความของพนักงานสอบสวนซึ่งเป็นเพียงพยานรับคำบอกเล่ามาให้ศาลรับฟังลงโทษจำเลยหาได้ไม่
จำเลยรับสารภาพชั้นสอบสวน แต่ในชั้นศาลให้การปฏิเสธเป็นภาระหน้าที่ของโจทก์ที่จะต้องนำพยานหลักฐานมาสืบพิสูจน์ให้เห็นถึงความผิดของจำเลย หาใช่เป็นหน้าที่ของจำเลยไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 621/2525
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม. 240
เมื่อโจทก์มิได้ฟ้องขอให้เพิกถอนนิติกรรมการซื้อขายที่พิพาทระหว่างล. กับจำเลยภายใน 1 ปี นับตั้งแต่วันที่โจทก์ได้รู้ต้นเหตุอันเป็นมูลให้เพิกถอนคือวันที่โจทก์ฟ้อง ล. กับจำเลยเป็นคดีอาญาหาว่าร่วมกันฉ้อโกงโจทก์เกี่ยวกับที่พิพาท คดีของโจทก์จึงขาดอายุความฟ้องร้องตาม ป.พ.พ. ม.240