คำพิพากษาศาลฎีกา ปี 2523
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 955/2523
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม. 458, 850
เมื่อสัญญาประนีประนอมยอมความมีเพียงว่า หากโจทก์จำเลยจะอยู่กินฉันสามีภริยากันต่อไปโจทก์จะโอนรถยนต์ให้แก่จำเลย โดยมิได้ตกลงว่าจะต้องอยู่กินกันตลอดไปแล้วการที่โจทก์กับจำเลยได้กลับไปอยู่กินฉันสามีภริยากันภายหลังจากทำสัญญาประนีประนอมยอมความนั้นนับว่าจำเลยได้ปฏิบัติตรงตามสัญญาดังกล่าวแล้ว หาจำต้องอยู่กันตลอดไปไม่โจทก์จึงต้องโอนรถยนต์ให้จำเลยตามสัญญาโจทก์ไม่มีสิทธิในฐานะเจ้าของในรถยนต์นั้นอีกการชำระค่าเช่าซื้อไม่ใช่เงื่อนไขของสัญญา เป็นคนละตอนกับข้อตกลงให้รถยนต์เป็นของจำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 952/2523
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม. 172, 709, 734
จำเลยได้นำโฉนดเลขที่ 5167 และ 5168 มาทำสัญญาจำนองประกันความเสียหายจากการปฏิบัติหน้าที่ในการทำงานของจำเลยไว้กับโจทก์ในวงเงิน 100,000 บาท ต่อมาจำเลยได้นำเงินของโจทก์ไปใช้ส่วนตัว 390,000 บาท จำเลยจึงทำหนังสือรับสภาพหนี้ไว้โดยได้นำโฉนดเลขที่ 5165 กับ 5166มาจำนองไว้ แล้วจำเลยไม่ชำระเงิน เช่นนี้ การทำหนังสือรับสภาพหนี้ไม่ทำให้มูลหนี้เดิมระงับไปหนังสือรับสภาพหนี้คงเป็นเพียงหลักฐานแห่งการสงวนสิทธิเรียกร้องอันมีอยู่ในมูลหนี้เดิมนั่นเอง เมื่อโจทก์ยังไม่ได้รับชำระหนี้ โจทก์ชอบที่จะบังคับเอาแก่ที่ดิน โฉนดเลขที่ 5167 และ 5168 ที่จำเลยนำมาจำนองเพื่อประกันการชำระหนี้ก่อนเกิดเหตุได้ด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 951/2523
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม. 1749
โจทก์มีพี่น้องร่วมบิดามารดาซึ่งเป็นทายาทลำดับผู้สืบสันดานเช่นเดียวกันรวม 7 คน แม้ ฮ. ทายาทคนหนึ่งจะถึงแก่กรรมแล้ว แต่ยังมีผู้สืบสันดานรับมรดกแทนที่ ดังนั้นต้องแบ่งมรดกเป็น 7 ส่วนการที่ทายาทอีก 5 คน มิได้ร้องสอดเข้ามาในคดีนี้ไม่เป็นเหตุให้โจทก์และจำเลยมีสิทธิได้รับมรดกทั้งหมดเพียง 2 คน คนละครึ่งโจทก์คงได้รับส่วนแบ่งเพียง 1 ใน 7 ตามสิทธิของตนและกรณีเช่นนี้มิใช่เป็นการกันส่วนแบ่งทรัพย์มรดกไว้เพื่อทายาทอื่นที่มิได้ร้องสอดเข้ามาในคดีอันจะเป็นการต้องห้ามตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา1749
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 949/2523
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม. 702, 820
หนังสือมอบอำนาจมีใจความสำคัญว่า จำเลยมอบอำนาจให้ ว.เป็นผู้มีอำนาจจัดการจำนอง และขอประกาศการขอจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมการจำนองที่ดินและยังมีข้อความอีกว่าเงื่อนไขและข้อตกลงอื่น ๆ ให้เป็นไปตามหนังสือสัญญาท้ายสัญญาจำนองแสดงชัดแจ้งว่า นอกจากจะมอบอำนาจให้ทำสัญญาจำนองแล้วยังมอบอำนาจให้ทำสัญญาท้ายสัญญาจำนองอีกด้วยมิฉะนั้นการจำนองจะไม่สำเร็จเรียบร้อยไปได้และหากไม่มีสัญญาต่อท้ายสัญญาจำนองโจทก์ก็คงไม่ทำสัญญาจำนองกับจำเลย จำเลยจึงต้องผูกพันตามข้อความในสัญญาต่อท้ายสัญญาจำนองด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 914/2523
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม. 1304 พระราชบัญญัติออกโฉนดที่ดิน (ฉบับที่ 6) พ.ศ.2479 พระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.2497 ม. 5
ที่พิพาทเป็นที่รกร้างว่างเปล่าอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน โจทก์เข้าไปยึดถือครอบครองโดยมิได้ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติออกโฉนดที่ดิน (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2497 กล่าวคือมิได้ขออนุญาตจับจองและได้รับอนุญาตให้จับจองจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ถึงแม้ต่อมาเมื่อมีพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.2497 มาตรา 5วรรคแรก จะบัญญัติให้ผู้ที่ได้ครอบครองที่ดินและทำประโยชน์อยู่ก่อนประมวลกฎหมายที่ดินใช้บังคับโดยไม่มีหนังสือสำคัญแสดงกรรมสิทธิ์ที่ดินแจ้งการครอบครอง และโจทก์ได้แจ้งการครอบครองแล้วก็ตาม แต่โจทก์ได้แจ้งการครอบครองว่าได้ที่พิพาทโดยหักล้างถางพงเอาเอง การแจ้งการครอบครองของโจทก์จึงไม่ก่อให้เกิดสิทธิขึ้นใหม่ ต้องถือว่าที่ดินยังเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา1304(1) การที่จำเลยเข้าครอบครองที่พิพาทตามอำนาจหน้าที่ที่กำหนดไว้ในพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งนิคมสร้างตนเอง อันถือว่าเป็นการกระทำของรัฐ โจทก์จึงไม่มีสิทธิจะเรียกเอาค่าชดเชยที่ดินจากจำเลย
การที่จำเลยแจ้งว่าสมควรจะจ่ายเงินทดแทนให้โจทก์ แต่ให้รอไว้ก่อนนั้น เป็นเรื่องที่ทางราชการประสงค์จะบรรเทาความเดือดร้อนให้โจทก์ มิใช่เป็นเรื่องที่โจทก์มีสิทธิเรียกร้องเอาจากจำเลยตามกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 945/2523
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม. 904 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ม. 2 (4) พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.2497
โจทก์ทรงเช็คผู้ถือแล้วโอนเช็คชำระหนี้แก่ผู้อื่นไปผู้รับโอนนำเช็คเข้าบัญชี ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินเจ้าหนี้คืนเช็คแก่โจทก์โจทก์ไม่ใช่ผู้ทรงเช็คในขณะธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินที่เป็นวันความผิดเกิดขึ้นแม้โจทก์ยังต้องรับผิดในหนี้ระหว่างโจทก์กับผู้คืนเช็คโจทก์ก็ไม่ใช่ผู้เสียหายในความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 940/2523
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม. 113, 1368 ประมวลกฎหมายที่ดิน
ที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ซึ่งห้ามโอนภายใน 10 ปีตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 58 ทวิ นั้นการโอนต้องห้ามชัดแจ้ง จึงเป็นโมฆะตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 113 ผู้รับโอนครอบครองที่ดินต่างดอกเบี้ยไม่มีสิทธิรับโอนเป็นของตนต้องคืนที่ดินและรับเงินค่าที่ดินคืนจากเจ้าของเดิม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 939/2523
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ม. 127
แบบบันทึกการสอบสวนสิทธิและพิสูจน์การทำประโยชน์ และหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส. 3 ก.) ที่พิพาท เป็นเอกสารที่พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายได้ทำขึ้นจึงเป็นเอกสารมหาชนซึ่งต้องด้วยข้อสันนิษฐานตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 127 ว่าเป็นของแท้จริงและถูกต้องเป็นหน้าที่โจทก์จะต้องนำสืบความไม่บริสุทธิ์หรือความไม่ถูกต้องแห่งเอกสารนั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 932/2523
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ม. 224
บรรยายฟ้องว่าจำเลยขุดบ่อปลาในคลองสาธารณะขอบบ่อติดกับที่ดินโฉนดของโจทก์เป็นเหตุให้ตลิ่งที่ดินของโจทก์พังและต่อมาจำเลยขุดขยายบ่อปลารุกล้ำเข้ามาในที่ดินโจทก์ทำให้ตลิ่งพังและกอไผ่ตายคดีตามคำบรรยายฟ้องดังนี้เป็นคดีเกี่ยวด้วยอสังหาริมทรัพย์
คำขอท้ายฟ้องข้อ 1 ให้จำเลยถอยบ่อปลาออกไปห่างที่ดินของโจทก์บ่อละ 2 วาและให้ทำที่ดินของโจทก์กับพื้นคลองติดที่ดินโจทก์ให้คืนสภาพเดิมเป็นคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวณเป็นราคาเงินได้
เมื่อคดีตามคำบรรยายฟ้องของโจทก์เป็นคดีอันเกี่ยวด้วยอสังหาริมทรัพย์และคำขอบังคับข้อ 1 เป็นคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวณเป็นราคาเงินได้โจทก์จึงอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 931/2523
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม. 420, 1337
จำเลยสร้างสะพานลอยกีดขวางทางเข้าออกบ้านโจทก์เป็นเหตุให้โจทก์ได้รับความเสียหายเดือดร้อนเกินที่ควรคิดหรือคาดหมายได้ว่าจะเป็นไปตามปกติและเหตุอันควร โจทก์ย่อมมีสิทธิที่จะปฏิบัติการเพื่อยังความเสียหายหรือเดือดร้อนนั้นให้สิ้นไปได้ ถึงแม้จำเลยจะสร้างสะพานลอยเพื่อสาธารณประโยชน์และโจทก์จะมีสิทธินำรถยนต์เข้าออกระหว่างถนนกับบ้านโจทก์โดยผ่านทางเท้าหรือไม่ก็ตาม การที่จำเลยสร้างสะพานลอยดังกล่าวก็เป็นการละเมิดต่อโจทก์