คำพิพากษาศาลฎีกา ปี 2522

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1679

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1679/2522

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม. 1368, 1745, 1748, 1754

ระหว่างจัดการมรดก ทายาทที่ครอบครองทรัพย์มรดกที่ยังมิได้แบ่งกัน ย่อมถือได้ว่าครอบครองแทนทายาทอื่น ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1368,1745,1748 ทายาทอื่นหรือผู้จัดการมรดกซึ่งเป็นตัวแทนของทายาททั้งปวงย่อมมีสิทธิฟ้องเรียกทรัพย์มรดกเพื่อจัดการแบ่งปันต่อไปได้ แม้ว่าจะล่วงพ้นกำหนดอายุความตาม มาตรา 1754 คดีโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1674

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1674/2522

ประมวลกฎหมายอาญา ม. 353, 354

สมุห์บัญชีและพนักงานบัญชีของกลุ่มเกษตรกรไม่ใช่ผู้ได้รับมอบหมายให้จัดการทรัพย์สิน หรือมีอาชีพธุรกิจที่ประชาชนไว้วางใจการยักยอกไม่เป็นความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา353,354

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1673

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1673/2522

ประมวลกฎหมายอาญา ม. 149 ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม. 4 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ม. 120, 202

สมุห์บัญชีและพนักงานเทศบาลผู้มีหน้าที่ตรวจและควบคุมงานจ้างหักเงินที่จ่ายแก่ผู้รับเหมาไว้ร้อยละ 10 แบ่งกัน เป็นความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149

ประกาศคณะปฏิวัติเป็นกฎหมาย ผู้ได้รับอำนาจสอบสวนตามประกาศทำการสอบสวนแล้ว อัยการฟ้องได้

จำเลยที่ 5 ถอนอุทธรณ์ก่อนส่งสำนวนไปศาลอุทธรณ์ศาลชั้นต้นสั่งอนุญาตและออกหมายแจ้งโทษเด็ดขาดแล้วจำเลยอื่นอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องจำเลยที่ 5 คนเดียวไม่ชอบ ให้ลงโทษตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1670

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1670/2522

ประมวลกฎหมายอาญา ม. 189

ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 189 นั้น เจ้าพนักงานผู้ติดตามจับกุมผู้กระทำผิดหาจำต้องแจ้งแก่ผู้ให้ที่พำนักซ่อนเร้นทราบว่าผู้กระทำความผิดหรือผู้ต้องหาว่ากระทำความผิดได้กระทำความผิดฐานใด เพียงแต่แจ้งให้ทราบว่าบุคคลที่ตนให้ที่พำนักซ่อนเร้นเป็นผู้กระทำผิดก็พอแล้ว ส่วนจะเป็นความผิดฐานใดนั้น เป็นข้อเท็จจริงที่โจทก์จะต้องกล่าวในฟ้องและนำสืบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1668

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1668/2522

ประมวลกฎหมายอาญา ม. 340 วรรคสอง, 340 วรรคสี่ ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ม. 213, 225

จำเลยมีอาวุธปืนและลูกระเบิดติดตัวไปในการปล้นทรัพย์และขู่ว่าจะใช้หากเจ้าทรัพย์ขัดขืน โดยไม่ได้ยิงปืนหรือใช้วัตถุระเบิดทำให้เกิดระเบิดขึ้นแต่อย่างใด เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 วรรคสอง ฐานปล้นโดยมีอาวุธติดตัวไปด้วยเท่านั้น ไม่เป็นความผิดตามมาตรา 340 วรรคสี่ และเป็นเหตุอยู่ในส่วนลักษณะคดี ศาลฎีกามีอำนาจพิพากษาตลอดไปถึงจำเลยที่มิได้ฎีกาด้วยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1662

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1662/2522

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม. 1382 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ม. 55, 142

คำขอท้ายฟ้องของโจทก์ที่ขอให้ศาลพิพากษาว่าที่ดินพิพาทซึ่งเป็นที่ดินมือเปล่าตามแผนที่สังเขปท้ายฟ้องเป็นของโจทก์นั้น หาได้มุ่งถึงกรรมสิทธิ์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1382 ไม่ และศาลย่อมมีอำนาจพิพากษาว่าโจทก์มีสิทธิครอบครองในที่ดินพิพาทได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1656

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1656/2522

ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ม. 138, 142 (1), 145, 297

โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยปฏิบัติตามสัญญาจะซื้อจะขายนาพิพาทแล้วคู่ความได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันว่า จำเลยยอมส่งมอบนาพิพาทให้โจทก์ กรณีจึงไม่อยู่ในบังคับของประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142(1) แม้สัญญาประนีประนอมยอมความจะมีข้อความว่า จำเลยและบริวารจะไม่เกี่ยวข้องกับนาพิพาทต่อไป แต่บริวารของจำเลยก็มิได้ถูกฟ้องและมิได้ตกลงตามสัญญาประนีประนอมยอมความด้วย โจทก์จะอาศัยสัญญาประนีประนอมยอมความนี้มาบังคับแก่บริวารของจำเลยด้วยมิได้ จึงไม่มีอำนาจร้องขอให้จับกุมและกักขังผู้ร้องซึ่งโจทก์อ้างว่าเป็นบริวารของจำเลยในการบังคับคดี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1653

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1653/2522

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม. 1382 ประมวลกฎหมายที่ดิน ม. 103 พระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.2497 ม. 15 พระราชบัญญัติจุฬาลงกรณ์ ม. , , ,

การจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมการได้มาโดยการครอบครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382 นั้น มีทุนทรัพย์โจทก์ต้องเสียค่าธรรมเนียมในอัตราร้อยละ 2.00 บาท ตามกฎกระทรวงฉบับที่ 27(พ.ศ.2516) ข้อ 5(1) ซึ่งออกตามความในพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.2497

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 358

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 358/2522

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม. 369, 406, 587 ประมวลรัษฎากร

เจ้าของที่ดินมิได้มอบอำนาจให้ไปขออนุญาตสร้างตึกแถวจำเลยที่ 1 รับจ้างคนอื่น ไม่ใช่เจ้าของที่ดิน สร้างขึ้น จำเลยที่ 1 เอาตึกแถวไปให้โจทก์เช่าไม่ได้สัญญาจองเช่าตึกแถวระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 1 ไม่ผูกพันเจ้าของที่ดิน จำเลยที่ 1 ต้องคืนเงินช่วยค่าก่อสร้างแก่โจทก์ตามส่วนนอกจากที่โจทก์ได้เข้าอยู่ในตึกแถวมาแล้ว

เอกสารสัญญาที่ตกลงว่าโจทก์ชำระค่าช่วยก่อสร้างแล้วจำเลยจะจัดการให้โจทก์ได้เช่าตึกแถวกับเจ้าของที่ดิน เป็นสัญญาต่างตอบแทนซึ่ง ประมวลรัษฎากร มิได้กำหนดให้ปิดอากรแสตมป์อย่างจ้างทำของรับฟังเป็นพยานหลักฐานได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 341

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 341/2522

ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ม. 193 วรรคสอง, 216, 225

จำเลยกล่าวในฎีกาเพียงว่า 'จำเลยขอให้การกลับคำให้การในชั้นสอบสวน และในชั้นศาลทุกประการและทุกถ้อยกระทงความโดยจำเลยขอให้การว่ามิได้กระทำความผิดตามคำกล่าวหาของพนักงานสอบสวนและคำฟ้องของโจทก์' โดยมิได้ระบุข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายที่จำเลยประสงค์จะยกขึ้นอ้างอิงในชั้นฎีกาแต่ประการใด ทั้งมิได้กล่าวอ้างว่าศาลอุทธรณ์พิพากษาคดีนี้ไม่ถูกต้องในข้อใดอย่างไร ฎีกาเช่นนี้ไม่เป็นการคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ จึงเป็นฎีกาที่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 193 วรรค 2 ประกอบด้วยมาตรา 225 และมาตรา 216

« »
ติดต่อเราทาง LINE