"ว่างงานแล้วต้องกินมาม่าทุกวันจริงไหม?"

มีคำถามแบบนี้โผล่ขึ้นมาในกระทู้ Legardy บ่อย ๆ เวลาคนต้องตกงานอย่างไม่ทันตั้งตัว หลายคนอาจเคยได้ยินว่าประกันสังคมช่วยคนว่างงานได้ แต่ก็ยังสงสัยว่าตกลงแล้ว ได้เงินไหม? ต้องทำยังไง? ต้องรอนานแค่ไหน? และที่สำคัญ ต้องเข้าเงื่อนไขอะไรบ้างถึงจะได้เงิน?

ผมในฐานะแอดมินของ Legardy ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่รวบรวมทนายจากทั่วประเทศ ได้เห็นผู้คนเข้ามาสอบถามเกี่ยวกับเรื่องนี้เยอะมาก บทความนี้จึงถูกเขียนขึ้นเพื่อ เคลียร์ทุกข้อสงสัยเกี่ยวกับสิทธิประกันสังคม กรณีว่างงาน ปี 2025 ให้ครบถ้วนที่สุด

ตกงานแล้ว ประกันสังคมช่วยอะไรได้บ้าง?

ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่า ประกันสังคมไม่ได้ช่วยทุกกรณี คนที่ลาออกเองก็มีสิทธิได้เงินชดเชย แต่จะไม่เท่ากับคนที่ถูกเลิกจ้าง หรือถ้าคุณถูกไล่ออกเพราะทำผิดร้ายแรง อาจจะไม่ได้อะไรเลย

ปี 2025 นี้ กฎหมายยังคงใช้แนวทางเดิมคือ คนที่อยู่ในระบบประกันสังคม และส่งเงินสมทบครบตามเงื่อนไข จะได้รับเงินทดแทนกรณีว่างงาน แต่ที่หลายคนไม่รู้คือ ต้องทำตามขั้นตอนให้ครบ ไม่อย่างนั้นอาจเสียสิทธิ์ไปแบบฟรี ๆ

ถ้าคุณสงสัยว่า ตัวเองมีสิทธิ์ได้เงินหรือไม่? อ่านบทความนี้ให้จบแล้วคุณจะรู้เอง

ลาออกเอง VS ถูกเลิกจ้าง ต่างกันยังไง? ใครได้เงินเยอะกว่า?

"ออกเองกับถูกไล่ออก ใครได้เงินเยอะกว่า?"

นี่เป็นคำถามที่ถูกถามมากที่สุดในหมวดหมู่ "สิทธิประกันสังคมกรณีว่างงาน" เพราะคนส่วนใหญ่มักคิดว่า ตกงานก็คือตกงาน ไม่ว่าจากสาเหตุไหนก็ควรได้เงินเท่ากัน แต่ในความเป็นจริง ประกันสังคมมอง "เหตุของการว่างงาน" เป็นตัวกำหนดว่า คุณควรได้รับเงินทดแทนหรือไม่ และจะได้รับมากน้อยแค่ไหน

กฎหมายกำหนดว่า ผู้ประกันตนว่างงานมี 2 กรณีหลัก ได้แก่

1. ลาออกเอง หรือสิ้นสุดสัญญาจ้าง
   • ได้รับเงินทดแทน 30% ของค่าจ้างเฉลี่ย
   • รับเงินสูงสุด ไม่เกิน 90 วัน
2. ถูกเลิกจ้าง (ยกเว้นกรณีทำผิดร้ายแรง)
   • ได้รับเงินทดแทน 50% ของค่าจ้างเฉลี่ย
   • รับเงินสูงสุด ไม่เกิน 180 วัน

💡 สรุปง่าย ๆ ถ้าถูกเลิกจ้าง คุณจะได้เงินมากกว่า และนานกว่าการลาออกเอง

ตัวอย่างสถานการณ์

สถานการณ์ A: "ลาออกเอง"
สมมติว่าคุณทำงานที่บริษัท A ด้วยเงินเดือน 15,000 บาท แล้วตัดสินใจลาออกเอง

• เงินทดแทนที่คุณจะได้รับ = 30% ของค่าจ้างเฉลี่ย = 4,500 บาท/เดือน
• รับได้สูงสุด 90 วัน = 13,500 บาท

สถานการณ์ B: "ถูกเลิกจ้าง"
คุณทำงานที่บริษัท B เงินเดือน 15,000 บาท แต่ถูกเลิกจ้างเพราะบริษัทลดจำนวนพนักงาน

• เงินทดแทนที่คุณจะได้รับ = 50% ของค่าจ้างเฉลี่ย = 7,500 บาท/เดือน
• รับได้สูงสุด 180 วัน = 45,000 บาท

💡 จากตัวอย่างนี้ คนที่ถูกเลิกจ้างได้เงินมากกว่าคนที่ลาออกเองถึง 3 เท่า!

แล้วถ้า "ถูกบังคับให้ลาออก" ยังได้เงินเท่ากับถูกเลิกจ้างไหม?

"บังคับให้ลาออก" เป็นอีกเรื่องที่หลายคนเจอ และทำให้เกิดข้อสงสัยว่า จะได้เงินเหมือนกรณีเลิกจ้างหรือไม่

ตามกฎหมายแรงงาน การลาออกโดยสมัครใจถือเป็นสิทธิของลูกจ้าง แต่ถ้านายจ้างบังคับให้เซ็นใบลาออก มันอาจเข้าข่าย "เลิกจ้างโดยมิชอบ" ซึ่งถ้าคุณมีหลักฐานว่านายจ้างกดดันให้ลาออก คุณสามารถฟ้องร้องเพื่อขอเงินชดเชยและได้รับสิทธิ์ประกันสังคมกรณีเลิกจ้างได้

📌 ข้อแนะนำจากทนายในแพลตฟอร์ม Legardy
"ถ้านายจ้างขอให้คุณลาออก แต่คุณไม่เต็มใจ ให้ขอเอกสารเลิกจ้างแทน อย่าเซ็นใบลาออกเอง เพราะถ้าเป็นกรณีเลิกจ้าง คุณจะได้เงินเยอะกว่า"

กรณีที่ "ไม่ได้รับเงินทดแทน" มีอะไรบ้าง?

มีบางกรณีที่ คุณจะไม่ได้รับเงินทดแทนว่างงานเลย แม้ว่าคุณจะถูกไล่ออกก็ตาม เช่น

1. ถูกไล่ออกเพราะทำผิดร้ายแรง เช่น ขโมยของบริษัท ทุจริต หรือทำร้ายร่างกายเพื่อนร่วมงาน
2. ลาออกเอง แล้วไม่ได้ส่งเงินสมทบครบ 6 เดือนในรอบ 15 เดือนก่อนว่างงาน
3. ขึ้นทะเบียนว่างงานช้าเกิน 30 วัน

📌 (อ้างอิงกฎหมาย: มาตรา 78 พ.ร.บ. ประกันสังคม พ.ศ. 2533)
"ลูกจ้างซึ่งออกจากงานโดยสมัครใจ หรือถูกเลิกจ้างเนื่องจากกระทำผิดวินัยร้ายแรง ไม่มีสิทธิได้รับเงินทดแทนกรณีว่างงาน"

สรุป

• ลาออกเอง ได้เงิน 30% ของเงินเดือน นานสูงสุด 90 วัน
• ถูกเลิกจ้าง ได้เงิน 50% ของเงินเดือน นานสูงสุด 180 วัน
• ถ้าถูกบังคับให้ลาออก ให้ขอเอกสารเลิกจ้างเพื่อรับสิทธิ์สูงสุด
• ถ้าทำผิดร้ายแรง หรือขึ้นทะเบียนว่างงานช้าเกิน 30 วัน อดเงินแน่นอน!

3. เงื่อนไขเงินทดแทนว่างงาน ใครมีสิทธิ – ใครอด?

"ต้องส่งเงินสมทบกี่เดือน ถึงขอเงินว่างงานได้?"

หลังจากที่เรารู้แล้วว่าการลาออกเองกับถูกเลิกจ้างส่งผลต่อจำนวนเงินที่ได้รับจากประกันสังคม ทีนี้คำถามสำคัญคือ "แล้วต้องมีคุณสมบัติอะไรบ้างถึงจะได้เงิน?"

ประกันสังคมไม่ได้แจกเงินให้ทุกคนที่ว่างงานแบบไม่มีเงื่อนไข คุณต้อง เข้าเงื่อนไขของกฎหมาย ถึงจะมีสิทธิ์ได้รับเงินว่างงาน ถ้าขาดข้อใดข้อหนึ่งไป คุณอาจจะไม่ได้รับเงินเลย

คุณสมบัติสำคัญของคนที่ขอรับเงินว่างงานได้

ตาม มาตรา 78 แห่งพระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. 2533 คนที่มีสิทธิ์ได้รับเงินว่างงานต้องเข้าเงื่อนไขเหล่านี้

1. เป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 (ลูกจ้างในระบบ)
2. ส่งเงินสมทบไม่น้อยกว่า 6 เดือน ภายใน 15 เดือนก่อนว่างงาน
3. ขึ้นทะเบียนผู้ว่างงานภายใน 30 วัน หลังจากว่างงาน
4. สามารถทำงานได้ และพร้อมที่จะทำงานใหม่
5. รายงานตัวต่อสำนักงานจัดหางานอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง

ถ้าคุณผ่านทุกข้อที่กล่าวมา แสดงว่าคุณมีสิทธิขอเงินว่างงานได้!

ขึ้นทะเบียนช้าเกิน 30 วัน อดเงินว่างงานจริงไหม?

"ขึ้นทะเบียนช้าไป 3 วันยังได้เงินไหม?"
"เพิ่งรู้ว่าขอเงินว่างงานได้ ตอนนี้ตกงานมา 2 เดือนแล้ว ทำไงดี?"

คำถามพวกนี้เจอบ่อยมากจากกระทู้ใน Legardy หลายคนพลาดเงินว่างงานไปเพราะไม่รู้ว่า "มีเส้นตาย" สำหรับการลงทะเบียน

กฎหมายกำหนดว่า คุณต้องขึ้นทะเบียนผู้ว่างงานภายใน 30 วันหลังจากออกจากงาน ถ้าขึ้นทะเบียนช้ากว่านี้ คุณอาจจะเสียสิทธิ์ไปเลย

แต่ยังมีทางออกอยู่!

ถ้าคุณตกงานมานานเกิน 30 วันแล้ว ยังสามารถขอรับเงินว่างงานได้ แต่เงินที่ได้รับจะนับจากวันที่คุณขึ้นทะเบียน ไม่ย้อนหลังให้

ตัวอย่างเช่น

• ถ้าคุณว่างงานวันที่ 1 มกราคม แต่ไปขึ้นทะเบียนวันที่ 15 กุมภาพันธ์
• แทนที่จะได้เงินว่างงานตั้งแต่เดือนมกราคม คุณจะได้เงินตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์เป็นต้นไป
• สรุปคือ คุณเสียเงินเดือนแรกไปฟรี ๆ เพราะขึ้นทะเบียนช้า

💡 ถ้าอยากได้เงินว่างงานเต็มจำนวน ให้ขึ้นทะเบียนให้เร็วที่สุดหลังจากว่างงาน!

ยังทำงานพาร์ทไทม์ จะได้เงินว่างงานไหม?

"หางานใหม่ยังไม่ได้ แต่มีคนจ้างให้ช่วยงานชั่วคราว แบบนี้จะโดนตัดเงินไหม?"

คำถามนี้ต้องแยกเป็น 2 กรณี

กรณีที่ 1: รายได้ไม่เกินค่าแรงขั้นต่ำ
ถ้าคุณรับงานเสริมแต่มีรายได้ต่ำกว่าค่าแรงขั้นต่ำ ประกันสังคมจะยังจ่ายเงินทดแทนให้คุณ แต่จะหักออกบางส่วน

กรณีที่ 2: รายได้เกินค่าแรงขั้นต่ำ
ถ้าคุณมีรายได้สูงกว่าค่าแรงขั้นต่ำ ประกันสังคมจะถือว่าคุณ "มีงานทำแล้ว" และจะ ยกเลิกเงินทดแทนของคุณทันที

💡 สรุปคือ ถ้าจะทำงานพาร์ทไทม์ ต้องเช็กให้ดีว่าเงินที่ได้จะไม่ทำให้คุณเสียสิทธิ์!

ถ้าได้เงินว่างงาน แต่ได้งานใหม่เร็ว ต้องคืนเงินไหม?

หลายคนกลัวว่า ถ้าขอเงินว่างงานไปแล้ว แต่ได้งานใหม่เร็ว ประกันสังคมจะเรียกเงินคืนหรือไม่?

📌 คำตอบคือ ไม่ต้องคืนเงินที่เคยได้รับไปแล้ว แต่คุณต้องแจ้งสำนักงานจัดหางานให้ทราบว่าคุณได้งานใหม่แล้ว เพราะตั้งแต่วันที่คุณเริ่มทำงานใหม่ เงินว่างงานจะหยุดจ่ายทันที

ถ้าคุณไม่แจ้งแล้วระบบตรวจพบภายหลัง อาจถูกเรียกเงินคืนย้อนหลังและมีโทษทางกฎหมาย

ใครที่ไม่มีสิทธิได้เงินว่างงานแน่นอน?

1. ไม่ได้เป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 เช่น ฟรีแลนซ์ หรือเจ้าของกิจการ (ต้องสมัครมาตรา 39 หรือ 40 แทน)
2. ส่งเงินสมทบไม่ครบ 6 เดือนใน 15 เดือนก่อนว่างงาน
3. ลาออกเอง แต่ขึ้นทะเบียนช้าเกิน 30 วัน
4. ถูกไล่ออกเพราะทำผิดร้ายแรง เช่น ทุจริต ขโมยของบริษัท
5. มีรายได้จากการทำงานใหม่แล้ว

สรุป

• ถ้าคุณ ส่งเงินสมทบครบ 6 เดือน ภายใน 15 เดือนก่อนออกจากงาน และ ขึ้นทะเบียนภายใน 30 วัน คุณจะได้รับเงินว่างงานแน่นอน
• ขึ้นทะเบียนช้า ยังได้เงิน แต่จะไม่ได้รับเงินย้อนหลัง
• ถ้าทำพาร์ทไทม์ ให้เช็กว่ารายได้ไม่เกินค่าแรงขั้นต่ำ ไม่งั้นอาจเสียสิทธิ์
• ถ้าได้งานใหม่ ไม่ต้องคืนเงินที่ได้รับไปแล้ว แต่ต้องแจ้งสำนักงานจัดหางาน

📌 หากไม่แน่ใจว่าเข้าเงื่อนไขหรือไม่ ทนายบนแพลตฟอร์ม Legardy สามารถช่วยเช็กสิทธิ์ให้คุณได้!

ขอเงินว่างงาน ทำยังไงให้ได้เงินเร็วสุด?

การขอรับเงินว่างงานจากประกันสังคมไม่ใช่เรื่องยาก แต่สิ่งที่ทำให้หลายคนเสียสิทธิ์หรือได้เงินล่าช้าคือ การทำผิดขั้นตอน หรือส่งเอกสารไม่ครบ หลายคนคิดว่าแค่ตกงานแล้วไปแจ้งเรื่องกับสำนักงานประกันสังคม เงินก็จะเข้าบัญชีอัตโนมัติ แต่ในความเป็นจริง คุณต้องทำหลายอย่างกว่านั้น และต้องทำให้ถูกต้องตามเงื่อนไข

หัวข้อที่เราจะพูดถึงในส่วนนี้คือ

• เงื่อนไขที่ต้องทำให้ครบก่อนยื่นเรื่อง
• วิธีลงทะเบียนและยื่นขอเงินว่างงาน
• ระยะเวลาที่ต้องรอและวิธีเช็กสถานะ
• ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นและแนวทางแก้ไข

ถ้าคุณไม่อยากพลาดสิทธิ์ หรือรอเงินว่างงานนานโดยไม่จำเป็น ต้องอ่านให้จบ

เงื่อนไขสำคัญที่ต้องทำให้ครบก่อนยื่นเรื่อง

ก่อนจะเข้าไปยื่นขอเงินว่างงานที่สำนักงานประกันสังคมหรือยื่นผ่านระบบออนไลน์ มีสิ่งที่คุณต้องทำให้ครบก่อน ไม่เช่นนั้นเงินอาจออกช้าหรืออาจถูกปฏิเสธการจ่ายเงินไปเลย

1. ต้องเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 เท่านั้น

สิทธิเงินทดแทนกรณีว่างงานมีให้เฉพาะผู้ประกันตนมาตรา 33 ซึ่งก็คือ ลูกจ้างที่ทำงานในระบบ มีนายจ้าง และถูกหักเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมทุกเดือน ถ้าคุณเป็นฟรีแลนซ์ หรือเจ้าของธุรกิจส่วนตัว และไม่ได้ส่งเงินสมทบมาตรา 33 คุณจะไม่มีสิทธิ์ขอรับเงินว่างงาน

2. ต้องส่งเงินสมทบครบ 6 เดือนภายใน 15 เดือนก่อนว่างงาน

คุณต้องมีประวัติการส่งเงินสมทบเข้าประกันสังคมมาอย่างน้อย 6 เดือน ในช่วง 15 เดือนสุดท้ายก่อนตกงาน ถ้าคุณเพิ่งเริ่มงานและส่งเงินสมทบไม่ครบ 6 เดือน หรือมีช่วงที่ขาดส่งเกินไปจากเงื่อนไข คุณจะไม่มีสิทธิ์ได้รับเงินว่างงาน

3. ต้องขึ้นทะเบียนว่างงานภายใน 30 วันหลังออกจากงาน

นี่คือข้อที่คนพลาดมากที่สุด คนส่วนใหญ่มักคิดว่าขอเงินว่างงานเมื่อไหร่ก็ได้ แต่จริง ๆ แล้ว ต้องขึ้นทะเบียนภายใน 30 วัน นับจากวันสุดท้ายที่ทำงาน ถ้าขึ้นทะเบียนช้า แม้ว่าจะยังว่างงานอยู่ คุณจะไม่ได้รับเงินย้อนหลังในช่วงที่ไม่ได้แจ้ง

ขั้นตอนการลงทะเบียนขอรับเงินว่างงาน

หากคุณตรวจสอบแล้วว่าตัวเองมีคุณสมบัติตามที่กล่าวมา สามารถเข้าสู่ขั้นตอนการขอเงินว่างงานได้เลย

1. ลงทะเบียนว่างงานกับกรมการจัดหางาน

หลังจากที่ออกจากงานแล้ว คุณต้องเข้าไป ลงทะเบียนผู้ว่างงานก่อน ผ่านเว็บไซต์ของกรมการจัดหางานที่ https://e-service.doe.go.th นี่เป็นขั้นตอนแรกและสำคัญมาก เพราะถ้าคุณไม่ขึ้นทะเบียน เงินจะไม่ถูกโอนให้

เมื่อเข้าสู่ระบบแล้ว คุณต้องกรอกข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ-นามสกุล เลขบัตรประชาชน ข้อมูลนายจ้างล่าสุด วันที่ว่างงาน และเหตุผลที่ออกจากงาน

หากคุณไม่ได้ลงทะเบียนผ่านระบบออนไลน์ สามารถไปขึ้นทะเบียนที่สำนักงานจัดหางานใกล้บ้านแทนได้

2. ยื่นคำร้องขอรับเงินทดแทนที่สำนักงานประกันสังคม

หลังจากขึ้นทะเบียนผู้ว่างงานแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือ การยื่นเรื่องขอรับเงินทดแทน ซึ่งทำได้ 2 วิธีคือ ยื่นออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ประกันสังคม หรือ ยื่นที่สำนักงานประกันสังคมโดยตรง

3. เอกสารที่ต้องใช้ในการขอเงินว่างงาน

คุณต้องเตรียมเอกสารให้ครบก่อนยื่นเรื่องเพื่อให้ได้รับเงินเร็วที่สุด รายการเอกสารที่ต้องใช้ ได้แก่

• แบบคำขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงาน (สปส.2-01/7)
• สำเนาบัตรประชาชน
• สำเนาสมุดบัญชีธนาคารที่ต้องการให้เงินเข้า
• หนังสือรับรองการออกจากงานจากนายจ้าง

ถ้าคุณไม่มีหนังสือรับรองการออกจากงาน สามารถแจ้งสำนักงานประกันสังคมให้ตรวจสอบข้อมูลจากนายจ้างแทนได้

ต้องรอนานแค่ไหนกว่าจะได้เงินว่างงาน?

เมื่อคุณยื่นเรื่องเสร็จแล้ว สำนักงานประกันสังคมจะใช้เวลาตรวจสอบประมาณ 7-14 วัน หากเอกสารถูกต้องและไม่มีปัญหา เงินจะถูกโอนเข้าบัญชีของคุณ ตามรอบการจ่ายของประกันสังคม

ตารางการโอนเงินมีดังนี้

• ถ้ายื่นเรื่องก่อนวันที่ 15 ของเดือน เงินจะเข้าภายในสิ้นเดือน
• ถ้ายื่นเรื่องหลังวันที่ 15 ของเดือน เงินจะเข้าต้นเดือนถัดไป

ปัญหาที่ทำให้เงินออกช้า และวิธีแก้ไข

1. ข้อมูลในระบบไม่ตรงกับของนายจ้าง

หากข้อมูลที่คุณกรอกในระบบ ไม่ตรงกับที่นายจ้างแจ้งไว้กับประกันสังคม อาจทำให้การตรวจสอบล่าช้า วิธีแก้ไขคือ โทรเช็กกับสำนักงานประกันสังคมทันที และขอให้นายจ้างแก้ไขข้อมูลให้ตรงกัน

2. ลืมรายงานตัวว่างงานทุกเดือน

ถึงแม้ว่าคุณจะได้รับอนุมัติเงินว่างงานแล้ว คุณต้องรายงานตัวเดือนละครั้งเพื่อยืนยันว่าคุณยังว่างงานอยู่ ถ้าคุณไม่รายงานตัว เงินจะไม่ถูกโอนในเดือนถัดไป

วิธีป้องกันคือ ตั้งแจ้งเตือนในมือถือทุกเดือน หรือใช้ระบบแจ้งเตือนอัตโนมัติจากกรมการจัดหางาน

3. เงินไม่เข้า เพราะบัญชีธนาคารมีปัญหา

บัญชีธนาคารที่ใช้รับเงินต้องเป็นบัญชีของคุณเอง และต้องเป็นบัญชีที่ยังเปิดใช้งานอยู่ ถ้าพบว่าเงินไม่เข้า ให้ตรวจสอบกับธนาคารว่าบัญชีถูกปิด หรือมีปัญหาหรือไม่

สรุป

หากคุณต้องการให้ได้เงินว่างงานเร็วที่สุด คุณต้องดำเนินการตามขั้นตอนนี้อย่างถูกต้อง

1. ลงทะเบียนว่างงานกับกรมการจัดหางานทันทีหลังออกจากงาน
2. ยื่นขอเงินทดแทนที่สำนักงานประกันสังคมโดยเร็ว
3. รายงานตัวว่างงานทุกเดือน เพื่อไม่ให้เงินถูกตัด
4. เช็กเอกสารให้ครบก่อนยื่นเรื่อง เพื่อลดปัญหาการล่าช้า
5. หากเงินไม่เข้า ให้รีบตรวจสอบสถานะที่สำนักงานประกันสังคม

หากคุณต้องการคำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับเอกสาร หรือมีปัญหากับนายจ้างที่ไม่ออกเอกสารให้ ทนายจาก Legardy สามารถช่วยตรวจสอบสิทธิ์ของคุณและให้คำแนะนำได้

อัปเดตสิทธิประกันสังคม 2025 ที่คนว่างงานต้องรู้!

หลายคนเข้าใจผิดว่า สิทธิประกันสังคมกรณีว่างงานไม่มีการเปลี่ยนแปลง แต่ในความเป็นจริง ทุกปีมักจะมีการปรับปรุงสวัสดิการและข้อกำหนดใหม่ ๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อผู้ประกันตน หากคุณตกงานในปี 2025 คุณต้องรู้ว่า มีอะไรเปลี่ยนแปลงบ้าง เพื่อป้องกันไม่ให้พลาดสิทธิที่ควรได้รับ

ในส่วนนี้เราจะอัปเดตการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญของประกันสังคมในปี 2025 รวมถึงผลกระทบต่อผู้ที่ต้องการขอเงินว่างงาน

เงื่อนไขการรับเงินว่างงานในปี 2025 มีอะไรเปลี่ยนแปลงบ้าง?

ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่าการปรับปรุงสิทธิประโยชน์ของประกันสังคม ไม่ใช่แค่การเพิ่มเงินที่คุณจะได้รับ แต่ยังรวมถึง การเปลี่ยนแปลงเงื่อนไข ที่อาจทำให้บางคนได้รับสิทธิมากขึ้น หรืออาจมีข้อจำกัดเพิ่มขึ้น

1. การปรับเพิ่มเพดานเงินเดือนที่ใช้คำนวณเงินทดแทน

ในปี 2025 มีการ ปรับเพิ่มเพดานค่าจ้างที่ใช้คำนวณเงินทดแทนจากเดิม 15,000 บาท เป็น 20,000 บาท หมายความว่า ผู้ที่มีเงินเดือนสูงขึ้นจะได้รับเงินว่างงานมากขึ้น

ตัวอย่างเช่น

• ในอดีต หากคุณมีเงินเดือน 30,000 บาท ระบบจะคำนวณเงินว่างงานจากเพดาน 15,000 บาทเท่านั้น
• แต่ในปี 2025 ระบบจะใช้เงินเดือนสูงสุด 20,000 บาทมาคำนวณแทน

2. การเพิ่มระยะเวลารับเงินกรณีถูกเลิกจ้าง

เดิมที คนที่ถูกเลิกจ้างจะได้รับเงินทดแทน สูงสุด 180 วัน แต่ในปี 2025 มีการขยายระยะเวลาออกไปเป็น สูงสุด 210 วัน หมายความว่า คุณจะได้เงินเพิ่มขึ้นอีก 1 เดือนเต็ม

3. เงื่อนไขการขึ้นทะเบียนว่างงานถูกปรับให้เข้มงวดขึ้น

ในอดีต ผู้ที่ขึ้นทะเบียนว่างงานล่าช้าเกิน 30 วันอาจจะได้รับเงินบางส่วน แต่ในปี 2025 หากคุณขึ้นทะเบียนช้ากว่า 30 วัน เงินงวดแรกอาจถูกตัดสิทธิ์ไปเลย

สิทธิประโยชน์อื่น ๆ ที่เพิ่มขึ้นในปี 2025

นอกจากเงินว่างงานที่เพิ่มขึ้นแล้ว ปี 2025 ยังมีการเพิ่มสวัสดิการด้านอื่น ๆ สำหรับผู้ประกันตนที่ได้รับผลกระทบจากการตกงาน

1. ค่ารักษาพยาบาลสำหรับผู้ว่างงาน

เดิมที หากคุณออกจากงานและไม่ได้ส่งเงินประกันสังคมต่อ สิทธิการรักษาพยาบาลของคุณจะหมดไปภายใน 6 เดือน แต่ในปี 2025 ขยายระยะเวลาสิทธิการรักษาพยาบาลเพิ่มเป็น 12 เดือน

หมายความว่า คุณยังสามารถใช้สิทธิ์ประกันสังคมรักษาพยาบาลได้แม้จะว่างงานนานขึ้น โดยไม่ต้องรีบสมัครมาตรา 39

2. สิทธิในการฝึกอบรมเพื่อหางานใหม่

ปี 2025 มีการเพิ่มหลักสูตรฝึกอบรมสำหรับผู้ว่างงาน โดยได้รับเงินสนับสนุนจากประกันสังคม หลักสูตรนี้จะช่วยให้คุณเพิ่มทักษะและสามารถกลับเข้าสู่ตลาดแรงงานได้เร็วขึ้น

หากคุณต้องการเปลี่ยนสายงานหรือเพิ่มทักษะใหม่ ๆ สามารถสมัครเข้ารับการอบรมฟรี โดยยังคงได้รับเงินว่างงานไปพร้อมกัน

ตกงานแต่ยังมีสิทธิประกันสังคมหรือไม่?

คำถามนี้เป็นสิ่งที่หลายคนกังวล โดยเฉพาะผู้ที่ว่างงานนานเกิน 6 เดือนแล้ว ยังไม่ได้หางานใหม่ หลายคนไม่รู้ว่า แม้คุณจะว่างงาน แต่ก็ยังสามารถรักษาสิทธิประกันสังคมต่อไปได้

1. การสมัครมาตรา 39 เพื่อรักษาสิทธิ

หากคุณออกจากงานและไม่ได้สมัครเป็นผู้ประกันตนมาตรา 39 ภายใน 6 เดือน สิทธิประกันสังคมของคุณจะหมดไป คุณจะไม่ได้รับสิทธิรักษาพยาบาล เงินชดเชย หรือเงินช่วยเหลืออื่น ๆ

แต่หากคุณ สมัครมาตรา 39 ทันทีหลังจากว่างงาน คุณจะยังได้รับสิทธิประกันสังคมเหมือนเดิม โดยต้องจ่ายเงินสมทบเองเดือนละ 432 บาท

2. การใช้สิทธิรักษาพยาบาลของประกันสังคมหลังว่างงาน

แม้ว่าคุณจะว่างงาน แต่คุณยังสามารถใช้สิทธิประกันสังคมเพื่อรักษาพยาบาลได้ ภายในระยะเวลา 12 เดือนหลังออกจากงาน ตามเงื่อนไขใหม่ของปี 2025

สิ่งที่ต้องทำเพื่อใช้สิทธิประกันสังคมให้คุ้มค่าที่สุดในปี 2025

หากคุณเป็นผู้ว่างงานและต้องการใช้สิทธิ์ให้คุ้มค่าที่สุด คุณควรดำเนินการตามแนวทางนี้

1. ขึ้นทะเบียนว่างงานให้เร็วที่สุด

หากคุณต้องการได้รับเงินว่างงานเต็มจำนวน ต้องขึ้นทะเบียนภายใน 30 วันหลังออกจากงาน อย่ารอให้เวลาล่วงเลยไป เพราะคุณอาจถูกตัดสิทธิ์บางส่วน

2. เช็กสิทธิของตัวเองก่อนยื่นเรื่อง

ก่อนที่คุณจะไปยื่นขอรับเงินทดแทน ควรตรวจสอบสิทธิของตัวเองว่าครบเงื่อนไขหรือไม่ วิธีง่ายที่สุดคือ เข้าสู่ระบบ e-service ของประกันสังคมเพื่อตรวจสอบสถานะของคุณ หรือขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ

หากคุณไม่แน่ใจเรื่องสิทธิ์ของตัวเอง ทนายจากแพลตฟอร์ม Legardy สามารถช่วยตรวจสอบสิทธิให้ได้

3. ใช้สิทธิรักษาพยาบาลให้เต็มที่ก่อนหมดอายุ

หากคุณยังไม่มีงานทำ และยังไม่ได้สมัครมาตรา 39 ควรใช้สิทธิรักษาพยาบาลให้คุ้มค่าก่อนที่สิทธิจะหมดไป

สรุปสิทธิใหม่ของประกันสังคมในปี 2025

• เพดานเงินเดือนที่ใช้คำนวณเงินว่างงาน เพิ่มเป็น 20,000 บาท
• ระยะเวลารับเงินว่างงานกรณีถูกเลิกจ้าง เพิ่มเป็น 210 วัน
• เงื่อนไขการขึ้นทะเบียนว่างงาน เข้มงวดขึ้น ขึ้นทะเบียนช้ากว่า 30 วันอาจเสียสิทธิ์
• ขยายสิทธิรักษาพยาบาลสำหรับผู้ว่างงาน จาก 6 เดือน เป็น 12 เดือน
• มีหลักสูตรฝึกอบรมสำหรับผู้ว่างงาน โดยยังคงได้รับเงินว่างงาน

📌 หากคุณต้องการตรวจสอบว่าสิทธิของคุณยังใช้ได้หรือไม่ สามารถขอคำแนะนำจากทนายของแพลตฟอร์ม Legardy ได้!

คำถามยอดฮิต! เรื่องเงินว่างงาน ที่คนชอบเข้าใจผิด

เรื่องเงินว่างงานของประกันสังคมมักมี ความเข้าใจผิดจำนวนมาก ซึ่งบางเรื่องอาจทำให้คุณ เสียสิทธิ์ไปแบบฟรี ๆ หรือแม้แต่ ทำให้เกิดปัญหาทางกฎหมายโดยไม่รู้ตัว หลายคนในกระทู้ของ Legardy ถามถึงเรื่องพวกนี้บ่อยมาก ดังนั้นเราจะมาตอบ ทุกคำถามยอดฮิตที่คนสงสัย แบบกระจ่างชัด

ถ้าถูกไล่ออกเพราะมาสาย หรือทำผิดเล็กน้อย ยังได้เงินว่างงานไหม?

หลายคนเข้าใจผิดว่า ถ้าถูกไล่ออกจะไม่ได้รับเงินว่างงานเลย ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ผิด ไม่ใช่ทุกกรณีของการถูกไล่ออกจะทำให้เสียสิทธิ์

กฎหมายระบุว่า ถ้าถูกไล่ออกเพราะทำผิดร้ายแรง เช่น ทุจริต ขโมยของ ทำร้ายร่างกายเพื่อนร่วมงาน หรือ ฝ่าฝืนกฎบริษัทซ้ำ ๆ จนเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายร้ายแรง คุณ จะไม่ได้รับเงินว่างงานแน่นอน

แต่ถ้าคุณถูกไล่ออกเพราะเหตุเบา ๆ เช่น มาสายบ่อย โดนตัดคะแนนความประพฤติ หรือมีปัญหากับหัวหน้างาน คุณยังมีสิทธิได้รับเงินว่างงานอยู่ ตราบใดที่นายจ้างไม่ได้แจ้งว่า คุณถูกเลิกจ้างเพราะทำผิดวินัยร้ายแรง

📌 วิธีป้องกันปัญหา: เมื่อถูกเลิกจ้าง ขอให้นายจ้างระบุเหตุผลในหนังสือเลิกจ้างให้ชัดเจนว่า เป็นการเลิกจ้างทั่วไป ไม่ใช่ การเลิกจ้างเพราะทำผิดร้ายแรง

ขอเงินว่างงานแล้ว แต่ดันได้งานใหม่เร็ว ต้องคืนเงินไหม?

อีกหนึ่งความเข้าใจผิดคือ ถ้าขอเงินว่างงานไปแล้ว แล้วได้งานใหม่เร็ว ประกันสังคมจะเรียกเงินคืนหรือไม่?

คำตอบคือ "ไม่ต้องคืนเงินที่เคยได้รับไปแล้ว" แต่คุณต้องแจ้งสำนักงานจัดหางานทันทีที่คุณได้งานใหม่ เพราะตั้งแต่วันที่คุณเริ่มทำงาน เงินว่างงานของคุณจะหยุดจ่ายทันที

📌 ข้อควรระวัง: ถ้าคุณได้งานใหม่แล้ว แต่ไม่แจ้งสำนักงานจัดหางาน และยังรับเงินว่างงานต่อไป อาจถูกตรวจสอบย้อนหลัง และต้องคืนเงินทั้งหมดที่ได้รับไปแบบเต็มจำนวน

ติดหนี้ประกันสังคม ยังขอเงินว่างงานได้ไหม?

หลายคนกลัวว่า ถ้ามีหนี้ค้างจ่ายกับสำนักงานประกันสังคม หรือเคยมีปัญหาเรื่องการส่งเงินสมทบ จะไม่สามารถขอเงินว่างงานได้

ในความเป็นจริง การขอเงินว่างงาน ไม่เกี่ยวข้องกับการเป็นหนี้ประกันสังคม แต่จะพิจารณาเฉพาะ การส่งเงินสมทบครบ 6 เดือนใน 15 เดือนสุดท้ายก่อนตกงาน เท่านั้น

ดังนั้น แม้ว่าคุณจะเคยค้างจ่าย หรือเคยมีปัญหากับประกันสังคมมาก่อน หากคุณยังเป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 และส่งเงินสมทบครบตามเงื่อนไข คุณก็ยังสามารถขอเงินว่างงานได้

📌 ข้อควรระวัง: หากคุณมีหนี้จากเงินสมทบมาตรา 39 หรือมาตรา 40 อาจกระทบสิทธิ์ประกันสังคมในอนาคต ดังนั้นควรตรวจสอบกับสำนักงานประกันสังคมว่ามีหนี้ค้างอยู่หรือไม่

แรงงานต่างด้าว มีสิทธิได้เงินว่างงานไหม?

ประกันสังคมไทยเปิดให้แรงงานต่างด้าวที่ทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และส่งเงินสมทบตามมาตรา 33 มีสิทธิได้รับเงินว่างงานเช่นเดียวกับคนไทย

แต่ต้องระวังว่า ถ้าใบอนุญาตทำงานหมดอายุ หรือวีซ่าหมดอายุแล้ว สำนักงานจัดหางานอาจพิจารณาว่าแรงงานต่างด้าว ไม่มีความสามารถในการทำงานต่อ และอาจถูกตัดสิทธิเงินว่างงานได้

📌 ข้อแนะนำ: แรงงานต่างด้าวที่ต้องการขอเงินว่างงาน ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าเอกสารเกี่ยวกับวีซ่า และใบอนุญาตทำงานยังถูกต้องก่อนยื่นเรื่อง

วิธีเช็กสิทธิ์เงินว่างงานแบบรวดเร็วใน 3 นาที

หลายคนไม่แน่ใจว่าตัวเองเข้าเงื่อนไขเงินว่างงานหรือไม่ และไม่อยากไปที่สำนักงานประกันสังคมเพื่อรอคิว วิธีเช็กสิทธิ์ง่ายที่สุดมีดังนี้

1. เข้าไปที่เว็บไซต์ของสำนักงานประกันสังคม https://www.sso.go.th
2. กดเลือกเมนู "ตรวจสอบสิทธิประกันสังคม"
3. กรอกเลขบัตรประชาชน และข้อมูลพื้นฐาน ระบบจะบอกทันทีว่าคุณเข้าเงื่อนไขขอเงินว่างงานหรือไม่

หากพบว่าคุณไม่มีสิทธิ์ แนะนำให้ติดต่อสำนักงานประกันสังคมโดยตรงเพื่อสอบถามว่า มีวิธีแก้ไขหรือขอทบทวนสิทธิได้หรือไม่

สรุปคำถามยอดฮิตเกี่ยวกับเงินว่างงาน

1. ถ้าถูกไล่ออกเพราะมาสาย หรือทำผิดเล็กน้อย ยังได้เงินว่างงานไหม?
   • ได้เงินว่างงานถ้าหากไม่ใช่กรณี "ทำผิดวินัยร้ายแรง"
2. ขอเงินว่างงานแล้ว แต่ดันได้งานใหม่เร็ว ต้องคืนเงินไหม?
   • ไม่ต้องคืนเงินที่เคยได้รับไปแล้ว แต่ต้องแจ้งให้สำนักงานจัดหางานทราบ
3. ติดหนี้ประกันสังคม ยังขอเงินว่างงานได้ไหม?
   • ได้ ถ้าหากส่งเงินสมทบครบตามเงื่อนไข
4. แรงงานต่างด้าวมีสิทธิได้เงินว่างงานไหม?
   • ได้ แต่ต้องมีใบอนุญาตทำงานและวีซ่าที่ถูกต้อง
5. วิธีเช็กสิทธิ์เงินว่างงานแบบรวดเร็วใน 3 นาที
   • เข้าไปที่เว็บไซต์ของสำนักงานประกันสังคม และใช้เลขบัตรประชาชนตรวจสอบสิทธิ์

หากคุณยังมีข้อสงสัยเกี่ยวกับสิทธิประกันสังคม หรือไม่แน่ใจว่าเอกสารของคุณครบถ้วนหรือไม่ ทนายจากแพลตฟอร์ม Legardy สามารถช่วยตรวจสอบสิทธิ์และให้คำแนะนำได้

อยู่เฉย ๆ รอเงินว่างงาน หรือควรทำอะไรดี?

การวางแผนการเงินช่วงว่างงาน: ต้องใช้เงินยังไงให้พอ?

การตกงานเป็นเรื่องที่ไม่มีใครอยากเจอ แต่เมื่อมันเกิดขึ้นแล้ว สิ่งสำคัญที่สุดคือ การบริหารเงินให้พอใช้ ในช่วงที่คุณยังไม่มีรายได้ หากคุณสามารถขอรับเงินว่างงานจากประกันสังคมได้ เงินจำนวนนี้จะช่วยให้คุณพอมีค่าใช้จ่ายไปได้ระยะหนึ่ง

แต่ประกันสังคมไม่ได้ให้เงินเต็มจำนวนของเงินเดือนที่คุณเคยได้รับ ดังนั้นคุณต้องวางแผนการใช้เงินให้ดี ต้องประเมินว่าตัวเองมีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง และเงินที่ได้รับจากประกันสังคมจะช่วยคุณได้มากน้อยแค่ไหน

สิ่งแรกที่ต้องทำคือ คำนวณเงินที่มีอยู่ และดูว่าสามารถใช้ได้กี่เดือน แนะนำให้จดรายการค่าใช้จ่ายที่จำเป็น เช่น ค่าเช่าบ้าน ค่าอาหาร ค่าเดินทาง ค่าน้ำค่าไฟ และหนี้สินที่ต้องจ่าย หากเงินว่างงานที่ได้รับไม่เพียงพอ คุณอาจต้องหางานเสริม หรือปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้เงินให้เหมาะสม

แนวทางหางานใหม่ไว ๆ พร้อมรับสวัสดิการจากรัฐ

ระหว่างที่คุณได้รับเงินว่างงาน คุณยังสามารถหางานใหม่ได้ และถ้าคุณอยากได้งานเร็วขึ้น การลงทะเบียนหางานกับกรมการจัดหางานเป็นอีกวิธีที่ช่วยให้คุณสามารถเข้าถึงโอกาสการจ้างงานได้ง่ายขึ้น

กรมการจัดหางานมี โปรแกรมช่วยเหลือผู้ว่างงาน โดยคุณสามารถลงทะเบียนเพื่อให้ระบบช่วยแนะนำตำแหน่งงานที่เหมาะสมกับคุณ ไม่ว่าจะเป็นงานในบริษัทเอกชน หรือหน่วยงานของรัฐที่เปิดรับสมัคร

หากคุณต้องการเปลี่ยนอาชีพหรือหางานในสายงานที่ต่างไปจากเดิม คุณสามารถเข้ารับการฝึกอบรมจากกรมการจัดหางานได้ ซึ่ง มีหลักสูตรฟรีที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐ ไม่ว่าจะเป็น การพัฒนาทักษะคอมพิวเตอร์ การเรียนรู้ด้านดิจิทัล หรือการฝึกอาชีพใหม่ ๆ ที่สามารถนำไปต่อยอดได้

แหล่งเงินช่วยเหลืออื่น ๆ นอกจากประกันสังคม

แม้ว่าเงินว่างงานจากประกันสังคมจะเป็นแหล่งเงินหลักที่ช่วยเหลือคุณในช่วงที่ไม่มีงานทำ แต่ก็ยังมีแหล่งเงินช่วยเหลืออื่น ๆ ที่คุณอาจขอรับสิทธิ์เพิ่มเติมได้

1. เงินช่วยเหลือจากกองทุนผู้ว่างงานของรัฐ

รัฐบาลมักมีโครงการช่วยเหลือผู้ว่างงานที่มีเงื่อนไขพิเศษ เช่น การช่วยเหลือคนที่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจ หรือสถานการณ์พิเศษอย่างวิกฤติทางเศรษฐกิจและภัยธรรมชาติ หากคุณอยู่ในกลุ่มที่เข้าเกณฑ์ คุณสามารถตรวจสอบได้ที่กรมการจัดหางาน

2. กู้ยืมเงินฉุกเฉินจากสถาบันการเงินของรัฐ

บางธนาคารของรัฐ เช่น ธนาคารออมสิน และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) มีโครงการกู้ยืมฉุกเฉินสำหรับผู้ว่างงาน โดยมักเป็นสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ และให้กู้เงินเพื่อใช้ในการดำรงชีพ

3. เงินช่วยเหลือจากองค์กรไม่แสวงหากำไร

บางองค์กรเอกชนและมูลนิธิต่าง ๆ มีโครงการช่วยเหลือสำหรับคนที่ตกงาน และต้องการสนับสนุนให้พวกเขามีรายได้ในระหว่างหางานใหม่ หากคุณกำลังประสบปัญหาด้านการเงิน การขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิเหล่านี้อาจเป็นอีกทางเลือกที่ดี

ว่างงานนานเกินไป จะมีผลเสียอะไรบ้าง?

หากคุณตกงานนานเกินไป และยังไม่ได้สมัครเป็นผู้ประกันตนมาตรา 39 หรือหางานใหม่ให้เร็วที่สุด อาจมีผลเสียหลายอย่าง เช่น

1. เสียสิทธิประกันสังคมและสิทธิรักษาพยาบาล

หากคุณไม่ได้ทำงานต่อภายใน 6 เดือนหลังจากออกจากงาน และไม่ได้สมัครมาตรา 39 สิทธิประกันสังคมของคุณจะหมดไป ซึ่งหมายความว่าคุณจะไม่มีสิทธิรักษาพยาบาลตามประกันสังคมอีกต่อไป

2. มีช่องว่างในประวัติการทำงาน (Employment Gap)

นายจ้างใหม่มักพิจารณาประวัติการทำงานของผู้สมัคร หากคุณว่างงานนานเกินไป อาจเป็นจุดที่นายจ้างใช้ในการพิจารณาว่าคุณยังมีความสามารถในสายงานอยู่หรือไม่

3. ความเครียดและปัญหาสุขภาพจิต

การว่างงานเป็นเวลานานอาจทำให้เกิดภาวะความเครียด และส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิต การมีแผนรับมือที่ดี เช่น การวางแผนการเงิน และการพัฒนาทักษะระหว่างว่างงาน จะช่วยให้คุณรับมือกับสถานการณ์นี้ได้ดีขึ้น

สรุป: สิ่งที่ต้องทำในช่วงว่างงาน เพื่อให้ผ่านไปได้อย่างมั่นคง

1. วางแผนการเงิน จัดสรรเงินที่ได้รับจากประกันสังคมให้พอใช้ และลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น
2. หางานใหม่อย่างจริงจัง ลงทะเบียนหางานกับกรมการจัดหางาน และสมัครงานอย่างต่อเนื่อง
3. เรียนรู้ทักษะใหม่ ๆ เข้าฝึกอบรมหรือพัฒนาตัวเองเพื่อเพิ่มโอกาสในการได้งานที่ดีขึ้น
4. ตรวจสอบสิทธิช่วยเหลือจากรัฐ เช่น เงินช่วยเหลือพิเศษจากโครงการของรัฐบาล
5. รักษาสิทธิประกันสังคม โดยสมัครมาตรา 39 หากยังไม่มีงานใหม่ในระยะเวลานานเกิน 6 เดือน

หากคุณยังไม่แน่ใจว่าควรดำเนินการอย่างไร หรือมีข้อสงสัยเกี่ยวกับสิทธิประกันสังคมและการเงินในช่วงว่างงาน ทนายจากแพลตฟอร์ม Legardy สามารถให้คำแนะนำและช่วยตรวจสอบสิทธิของคุณได้

สรุป! สิ่งที่ต้องรู้ ถ้าคุณว่างงาน 2025

ได้เงินเท่าไหร่? ทำยังไงให้ได้เงินเร็วสุด?

เมื่อคุณว่างงาน สิ่งแรกที่คุณต้องรู้คือ คุณมีสิทธิได้เงินว่างงานจากประกันสังคมหรือไม่ และจะได้รับเท่าไหร่ โดยเงินที่คุณจะได้รับนั้นขึ้นอยู่กับ เหตุผลที่ทำให้คุณตกงาน และ ระยะเวลาที่คุณเคยส่งเงินสมทบประกันสังคม

หากคุณ ลาออกเอง คุณจะได้รับเงิน 30% ของค่าจ้างเฉลี่ย นาน 90 วัน แต่ถ้าคุณ ถูกเลิกจ้าง คุณจะได้รับเงิน 50% ของค่าจ้างเฉลี่ย นาน 210 วัน โดยมีเงื่อนไขว่าคุณต้อง ส่งเงินสมทบมาไม่น้อยกว่า 6 เดือนในช่วง 15 เดือนสุดท้าย

หากต้องการได้เงินเร็วที่สุด คุณต้อง ขึ้นทะเบียนผู้ว่างงานภายใน 30 วันหลังจากออกจากงาน และ ยื่นเรื่องขอรับเงินทดแทนที่สำนักงานประกันสังคม จากนั้นต้อง รายงานตัวทุกเดือน เพื่อให้เงินถูกจ่ายต่อเนื่อง ไม่เช่นนั้นเงินจะไม่เข้าบัญชีของคุณ

หากคุณขึ้นทะเบียนล่าช้า คุณอาจพลาดเงินงวดแรกไปเลย หรือถ้าคุณลืมรายงานตัว ระบบจะหยุดจ่ายเงินจนกว่าคุณจะกลับมารายงานตัวใหม่

เงื่อนไขสำคัญที่ห้ามพลาด ไม่งั้นอดเงินว่างงาน!

1. ต้องขึ้นทะเบียนว่างงานให้เร็วที่สุด
อย่ารอให้ผ่านไปหลายเดือนแล้วค่อยไปขึ้นทะเบียน เพราะเงินที่คุณได้รับจะถูกลดลงหรือตัดสิทธิ์ไปเลย

2. ต้องเช็กสิทธิ์ของตัวเองก่อนยื่นเรื่อง
ก่อนยื่นขอเงินว่างงาน ควรตรวจสอบว่าคุณเข้าเงื่อนไขครบหรือไม่ เช่น เคยส่งเงินสมทบครบ 6 เดือนหรือไม่ และนายจ้างแจ้งเลิกจ้างในระบบหรือยัง

3. ต้องรายงานตัวว่างงานทุกเดือน
หากคุณไม่รายงานตัว ระบบจะไม่จ่ายเงินให้ในเดือนถัดไป ดังนั้นให้ตั้งแจ้งเตือนไว้เพื่อป้องกันการลืม

4. ต้องแจ้งทันทีเมื่อได้งานใหม่
หากคุณได้งานใหม่แล้ว คุณต้องแจ้งสำนักงานจัดหางานทันที ห้ามรับเงินว่างงานต่อไป เพราะอาจถูกเรียกเงินคืนภายหลังและอาจมีโทษทางกฎหมาย

5. ต้องรักษาสิทธิประกันสังคม
หากคุณว่างงานนานเกิน 6 เดือน และยังไม่มีงานใหม่ ควรสมัครมาตรา 39 เพื่อรักษาสิทธิการรักษาพยาบาลและสิทธิประโยชน์อื่น ๆ จากประกันสังคม

ติดตามข่าวสิทธิประกันสังคมที่ไหน?

หากคุณต้องการติดตามข่าวสารเกี่ยวกับสิทธิประกันสังคม สามารถตรวจสอบข้อมูลได้จากช่องทางเหล่านี้

1. เว็บไซต์สำนักงานประกันสังคม (https://www.sso.go.th)
   • เช็กสิทธิ์เงินว่างงาน
   • ตรวจสอบสถานะการจ่ายเงิน
2. เว็บไซต์กรมการจัดหางาน (https://www.doe.go.th)
   • ลงทะเบียนว่างงาน
   • สมัครงานใหม่ผ่านระบบของรัฐ
3. แพลตฟอร์ม Legardy (https://www.legardy.com)
   • รับคำแนะนำจากทนายเกี่ยวกับสิทธิประกันสังคม
   • ปรึกษาปัญหานายจ้างที่ไม่ออกเอกสารให้

หากคุณไม่แน่ใจเกี่ยวกับสิทธิของตัวเอง หรือมีปัญหากับนายจ้างเกี่ยวกับเอกสาร ทนายจาก Legardy สามารถช่วยตรวจสอบสิทธิ์และให้คำแนะนำได้

บทสรุปสุดท้าย: ว่างงานปี 2025 ต้องทำอะไรบ้าง?

1. เช็กสิทธิ์ของตัวเอง ว่ามีสิทธิได้เงินว่างงานหรือไม่
2. ขึ้นทะเบียนว่างงานให้เร็วที่สุด ภายใน 30 วันหลังออกจากงาน
3. ยื่นเรื่องขอเงินว่างงานที่สำนักงานประกันสังคม พร้อมเอกสารครบถ้วน
4. รายงานตัวทุกเดือน เพื่อให้ได้เงินต่อเนื่อง
5. แจ้งทันทีเมื่อได้งานใหม่ เพื่อป้องกันปัญหาถูกเรียกเงินคืน

เงินว่างงานอาจช่วยให้คุณมีเวลาหางานใหม่ได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย แต่คุณต้องทำทุกอย่างให้ถูกต้อง เพื่อให้ได้รับสิทธิ์เต็มจำนวน หากคุณยังมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการขอเงินว่างงาน หรือมีปัญหาด้านเอกสาร ทนายจาก Legardy พร้อมช่วยให้คำแนะนำคุณได้