คืนรถให้ไฟแนนซ์แล้วยังโดนฟ้อง !คุณจะมีข้อต่อสู้ทางกฎหมายอย่างไรบ้าง?
บทความนี้จะกล่าวถึงกรณีที่คุณผ่อนรถไม่ไหว แต่ส่งมอบรถยนต์คืนไฟแนนซ์หรือบริษัทที่เช่าซื้อรถก่อนที่คุณจะผิดนัดชำระหนี้ค่างวดรถตามสัญญาเช่าซื้อรถ และเมื่อคุณส่งมอบรถยนต์คืนแล้ว คุณยังถูกฟ้องไฟแนนซ์หรือบริษัทที่คุณเช่าซื้อฟ้องคุณอีก จะมีข้อต่อสู้ทางกฎหมายอย่างไร
อยากให้ทุกท่านที่ประสบปัญหาเหล่านี้อ่านบทความนี้จนจบนะคะ ทนายมีข้อต่อสู้และคำแนะนำดีๆมาฝากค่ะ อันดับแรกเลย ถ้าคุณรู้ตัวว่าคุณผ่อนรถยนต์ไม่ไหวเเล้ว ให้ฝืนผ่อนให้ตรงตามงวดที่ครบกำหนดชำระก่อนนะคะ เช่น ถ้าสัญญาเช่าซื้อรถยนต์หรือสัญญาลิสซิ่ง กำหนดให้คุณผ่อนชำระเงินค่างวดรถทุกวันที่ 5 ของเดือน ขอให้คุณชำระให้ตรงวันที่ 5 ของเดือน หากคิดว่าวันที่ 5 เดือนของหน้า คุณจะไม่มีเงินผ่อนชำระเเล้ว ให้คุณปฏิบัติดังนี้ค่ะ ยกตัวอย่างให้เห็นภาพชัดๆ หากคุณชำระเงินค่างวดรถตรงตามที่กำหนดในสัญญาในวันที่ 5 เดือนกรกฎาคม 2566 แต่คุณไม่สามารถหาเงินมาผ่อนต่อในงวดวันที่ 5 สิงหาคม 2566 ได้เเล้ว ให้คุณติดต่อบริษัทที่คุณซื้อรถยนต์หรือไฟแนนซ์ เพื่อนำรถยนต์ไปคืน ณ ที่สำนักงานทำการของบริษัทที่คุณซื้อรถยนต์นะคะ
'สำคัญมาก! ทำไมสัญญาต้องทำเป็นหนังสือ หาคำตอบได้ที่นี่ คลิกเลย!'
ขณะไปคืนรถยนต์ให้มีคนไปเป็นพยานด้วย 1 คน ให้พยานถ่ายรูปขณะคุณนำรถมาส่งมอบ ณ สำนักงานที่ทำการบริษัท ท่านควรเตรียมเอกสารให้บริษัทที่เช่าซื้อหรือไฟแนนซ์เซ็นต์หรือลงลายมือชื่อเพื่อรับรถยนต์ที่ท่านคืนให้ด้วย เช่น มีเนื้อควาในทำนองว่า ท่านชื่อ-สกุล ผู้เช่าซื้อ ขอส่งมอบรถยนต์ ยี่ห้อ.. รุ่น.. สี.. ป้ายทะเบียน.. คืน ณ สำนักงานที่ทำการของบริษัทที่เช่าซื้อหรือไฟแนนซ์ ให้ลงวันที่ที่ส่งมอบรถยนต์คืนไว้ด้วย และให้ตัวแทนหรือเจ้าหน้าที่บริษัทลงชื่อในเอกสาร
'ดูตัวอย่างคำปรึกษาจริง พร้อมคำตอบจากทนายความ ได้ที่ลิงค์ข้างล่าง คลิกเลย!'
Q: คืนรถยนต์ให้ไฟแนนซ์ไปแล้ว แล้วเขาให้เราจ่ายค่าส่วนต่าง แต่เขาไปฟ้องคนค้ำคะ ต้องทำไงคะ
Q: คืนรถแล้ว เค้ายังมาเรียกค่าส่วนต่างจากเราทำยังไงดีคะ
ทีนี้เราก็มีหลักฐานการส่งมอบรถยนต์คืนเเล้วนะคะ คือ
1.รูปถ่าย
2.เอกสารส่งมอบรถ
3.พยาน
**ข้อสำคัญคือคุณต้องส่งมอบรถยนต์คืนก่อนครบกำหนดจ่ายค่างวดวันที่ 5 สิงหาคม 2566 นะคะ อย่ารอให้ผิดนัดชำระหนี้ก่อนเเล้วถึงส่งมอบรถยนต์คืนนะคะ**
'ไขข้อสงสัย! คนค้ำประกันต้องจ่าค่าขาดประโยชน์ด้วยไหม? อ่านบทความได้ที่นี่ คลิก!'
ทีนี้เมื่อคุณทำทุกขั้นตอนที่ทนายแนะนำแล้ว แต่คุณยังถูกบริษัทหรือไฟแนนซ์ฟ้องเรียกค่าขาดประโยชน์จะมีข้อต่อสู้อย่างไร
การที่คุณไม่ได้ผิดสัญญาชำระค่าเช่าซื้อติดต่อกัน 3 งวด ถือว่าคุณไม่ใช่ฝ่ายผิดสัญญาเช่าซื้อรถยนต์ และการที่คุณนำรถยนต์ไปส่งมอบคืนให้กับบริษัทหรือไฟแนนซ์ด้วยตนเองแล้ว บริษัทที่เช่าซื้อหรือไฟแนนซ์รับรถยนต์คืนไว้โดยไม่ได้โต้แย้ง ณ สำนักงานของบริษัทเช่าซื้อ ถือได้ว่าทั้งสองฝ่ายผู้ให้เช่าซื้อและคุณในฐานะผู้เช่าซื้อสมัครใจเลิกสัญญากันโดยปริยายในวันที่มีการส่งมอบรถคืน ทั้งนี้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 573 ผู้เช่าจะบอกเลิกสัญญาในเวลาใดเวลาหนึ่งก็ได้ด้วยส่งมอบทรัพย์สินกลับคืนให้แก่เจ้าของโดยเสียค่าใช้จ่ายของตน ดังนั้น คู่สัญญาทั้งบริษัทผู้ให้เช่าซื้อและคุณในฐานะผู้เช่าซื้อ จึงไม่มีสิทธิและหน้าที่ระหว่างกันตามสัญญาเช่าซื้ออีกต่อไป ผู้ให้เช่าซื้อจะฟ้องเรียกค่าขาดราคาจากการขายทรัพย์ที่เช่าซื้อหรือราคาทรัพย์ส่วนที่ขาดตามข้อสัญญาเช่าซื้อที่ระงับไปแล้วหาได้ไม่ กล่าวง่ายๆ การที่คุณผู้เช่าซื้อบอกเลิกสัญญาโดยการส่งมอบรถยนต์คืนรถ ขณะที่ไม่ผิดนัดชำระหนี้ต่อบริษัทผู้ให้เช่าซื้อ คุณไม่ต้องรับผิดในค่าส่วนต่างจากการขายทอดตลาด หรือค่าขาดประโยชน์จากผู้ให้เช่าซื้อนั่นเอง
*อ้างอิงจากคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 861/2565 และคำพิพากษาฎีกาที่ 1203/2565
ปรึกษาทนายตัวจริง
สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว
สมัครเป็นทนายออนไลน์
แพล็ทฟอร์มรวบรวม
งานกฎหมายจากทั่วประเทศ
ติดต่อเรา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันได้ที่
