ผมเป็นแอดมินและนักเขียนของ Legardy แพลตฟอร์มที่รวมทนายจากทั่วประเทศ หนึ่งในคำถามที่ผมเห็นบ่อยที่สุดในกระทู้ของเราคือ “ออกหมายเรียกใช้เวลากี่วัน” บางคนได้รับหมายเรียกแล้วตกใจ บางคนสงสัยว่าหมายเรียกนี้มาถึงช้าเกินไปหรือเปล่า หรือบางคนที่คดีเงียบหายไป ก็อดกังวลไม่ได้ว่าตัวเองจะโดนหมายจับเลยหรือเปล่า

เอาเป็นว่ามาว่ากันตรงนี้เลยครับ ถ้าคุณกำลังสงสัยว่าหมายเรียกออกใช้เวลากี่วัน? ทำไมบางคนโดนเร็วบางคนโดนช้า? แล้วถ้าได้รับหมายเรียกแล้วควรทำยังไง? บทความนี้มีคำตอบให้หมด!

ที่สำคัญ ไม่ต้องเครียด! บทความนี้จะอธิบายทุกอย่างแบบเข้าใจง่าย ใช้ภาษาคนทั่วไป ไม่ใช่ภาษาทนาย และมีตัวอย่างให้เห็นภาพ ไม่ต้องกลัวว่าจะอ่านแล้วงงเหมือนอ่านกฎหมายที่เต็มไปด้วยภาษาทางการที่แสนปวดหัว

หมายเรียกคืออะไร? ถ้าได้รับแล้วต้องตกใจไหม?

สั้น ๆ เลยนะครับ หมายเรียกคือเอกสารที่ออกโดยเจ้าหน้าที่รัฐ (ตำรวจหรือศาล) เพื่อเรียกบุคคลมาให้ปากคำ หรือมาดำเนินการทางกฎหมาย ซึ่งอาจจะเป็น ผู้ต้องหา หรือ พยาน ก็ได้

💡 สิ่งที่หลายคนเข้าใจผิดเกี่ยวกับหมายเรียก
หลายคนคิดว่าถ้าได้รับหมายเรียกแปลว่า “จะโดนจับแล้ว” แต่ความจริง หมายเรียก ≠ หมายจับ อย่าพึ่งตกใจครับ! หมายเรียกเป็นแค่ "การเชิญ" ให้คุณมาให้ปากคำ หรือมาชี้แจงเท่านั้น คุณยังไม่ได้เป็นผู้กระทำความผิดโดยอัตโนมัติ

แต่เดี๋ยวก่อน... ถ้าเพิกเฉย ไม่ไปตามหมายเรียก อันนี้แหละ อาจจะนำไปสู่หมายจับจริง ๆ! ซึ่งเราจะอธิบายในหัวข้อต่อไป

หมายเรียกมีทั้งหมดกี่ประเภท? แล้วคุณอยู่ในประเภทไหน?

การที่คุณได้รับหมายเรียก ไม่ได้แปลว่าคุณเป็นอาชญากร เพราะหมายเรียกมี 2 ประเภทใหญ่ ๆ คือ

1. หมายเรียกผู้ต้องหา – ถ้าได้รับหมายนี้ ต้องระวังให้ดี!

หมายเรียกนี้ออกให้ คนที่ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิด เช่น ตำรวจมีหลักฐานพอสมควรว่าคุณอาจเกี่ยวข้องกับคดี จึงออกหมายเรียกให้คุณมาให้ปากคำ

📌 มาตราที่เกี่ยวข้อง: ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 52
📌 ฎีกาที่เกี่ยวข้อง: ฎีกาที่ 1093/2559 (การเพิกเฉยต่อหมายเรียกอาจส่งผลให้ถูกออกหมายจับ)

2. หมายเรียกพยาน – เป็นพยานก็ควรไปศาลนะ!

หมายเรียกนี้ออกให้ คนที่ไม่ได้เป็นผู้ต้องหา แต่เกี่ยวข้องกับคดี เช่น คุณอาจเป็นพยานที่เห็นเหตุการณ์ หรือมีข้อมูลสำคัญที่เกี่ยวข้องกับคดี

📌 มาตราที่เกี่ยวข้อง: ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 55
📌 ฎีกาที่เกี่ยวข้อง: ฎีกาที่ 2258/2561

สถานการณ์ A และ B: ถ้าคุณได้รับหมายเรียกแล้วควรทำยังไง?

สถานการณ์ A: สมมติคุณได้รับหมายเรียกเป็น "ผู้ต้องหา" คุณต้องทำยังไง?

1. อ่านหมายเรียกให้ละเอียด ดูว่าต้องไปที่ไหน เมื่อไหร่ และคดีเกี่ยวกับอะไร
2. ถ้ายังไม่แน่ใจว่าเรื่องนี้เกี่ยวกับตัวคุณยังไง ควรปรึกษาทนายความก่อนตอบหมาย
3. ไปตามหมายเรียกให้ตรงเวลา เพราะถ้าไม่ไป อาจโดนออกหมายจับ

สถานการณ์ B: สมมติคุณได้รับหมายเรียกเป็น "พยาน" แต่คุณไม่อยากไป!

1. พยานมีหน้าที่ต้องไปให้ปากคำ แต่ถ้าคุณไม่สะดวกไปตามหมาย สามารถยื่นขอเลื่อนได้
2. หากไม่ไปตามหมายเรียกโดยไม่มีเหตุผลที่เหมาะสม ศาลสามารถออกหมายจับคุณได้เหมือนกัน!

ขั้นตอนการออกหมายเรียกเป็นอย่างไร? ทำไมบางคนโดนเร็ว บางคนโดนช้า?

หลายคนสงสัยว่า ทำไมบางคนได้รับหมายเรียกเร็วมากภายในไม่กี่วัน ในขณะที่บางคนเงียบไปเป็นเดือน ๆ? ความจริงแล้ว กระบวนการออกหมายเรียกนั้นมีขั้นตอนที่ต้องดำเนินการ และไม่ได้ออกได้ง่าย ๆ ทันทีที่มีการแจ้งความ

1. ตำรวจต้องทำอะไรบ้างก่อนจะออกหมายเรียก?

หลังจากมีการแจ้งความหรือกล่าวโทษ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ไม่สามารถออกหมายเรียกได้ทันที พวกเขาต้อง ทำการสืบสวนและรวบรวมหลักฐาน ก่อน โดยขั้นตอนหลัก ๆ มีดังนี้

1. รับแจ้งความ – คดีเริ่มต้นจากการที่มีผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความต่อตำรวจ
2. สืบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน – ตำรวจต้องมีหลักฐานเพียงพอว่าคุณเกี่ยวข้องกับคดี
3. เสนอออกหมายเรียก – ถ้าพบว่ามีมูลความผิด เจ้าหน้าที่จะทำเรื่องขออนุมัติหมายเรียก

💡 หมายเหตุ: คดีที่หลักฐานแน่นหนา เช่น มีคลิปวิดีโอ หรือพยานชัดเจน อาจใช้เวลาไม่นานในการออกหมายเรียก (อาจเร็วสุด 7-14 วัน!) แต่ถ้าเป็นคดีที่ต้องสอบสวนมาก อาจใช้เวลาหลายเดือน

📌 มาตราที่เกี่ยวข้อง: ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 52
📌 ฎีกาที่เกี่ยวข้อง: ฎีกาที่ 678/2560 (เกี่ยวกับระยะเวลาในการออกหมายเรียก)

2. ทำไมบางคนโดนหมายเรียกเร็ว บางคนใช้เวลานาน?

ปัจจัยที่มีผลต่อความเร็วของหมายเรียก:

• คดีอาญาร้ายแรง เช่น ฆาตกรรม ฉ้อโกงจำนวนมาก – ออกหมายเรียกได้เร็ว เพราะมีผลกระทบสูง
• คดีเล็ก ๆ หรือคดีแพ่ง – ใช้เวลานานกว่า เพราะต้องสอบสวนรายละเอียด
• หลักฐานแน่นหนา vs หลักฐานอ่อน – ถ้าหลักฐานชัดเจน ตำรวจสามารถดำเนินการได้เร็วขึ้น
• ผู้ต้องหาอยู่ในพื้นที่หรือไม่ – ถ้าผู้ถูกกล่าวหาอยู่ต่างจังหวัด อาจทำให้การออกหมายล่าช้า

🔴 กรณีที่น่าสนใจ: เคยมีคดีที่ตำรวจออกหมายเรียกช้าเกินไปจนทำให้ผู้ต้องหาหลบหนีออกนอกประเทศ

3. หมายเรียกออกโดยใคร? ศาลเกี่ยวข้องหรือไม่?

แม้ว่าหมายจับต้องได้รับการอนุมัติจากศาล แต่หมายเรียกนั้น ตำรวจสามารถออกได้เอง ตาม มาตรา 52 ของ ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา

อย่างไรก็ตาม ในบางกรณี ตำรวจอาจต้องเสนอหมายเรียกต่อศาล เพื่อให้มีอำนาจบังคับมากขึ้น เช่น ในกรณีที่เกี่ยวข้องกับบุคคลที่มีตำแหน่งสูง หรือเป็นคดีที่ซับซ้อน

📌 มาตราที่เกี่ยวข้อง: ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 53
📌 ฎีกาที่เกี่ยวข้อง: ฎีกาที่ 1247/2562 (เกี่ยวกับอำนาจของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการออกหมายเรียก)

4. ถ้าผมคิดว่าหมายเรียกออกไม่เป็นธรรม ทำอะไรได้บ้าง?

หากคุณคิดว่าหมายเรียกที่ได้รับ ไม่มีมูลความจริง หรือถูกกลั่นแกล้ง คุณสามารถยื่นเรื่องเพื่อ ให้ทนายความตรวจสอบ และ ร้องขอให้ยกเลิกหมายเรียก ได้

📌 บริการของ Legardy: หากคุณได้รับหมายเรียกและไม่แน่ใจว่าควรทำอย่างไร ปรึกษาทนายของเราได้เลย ติดต่อทนาย

💡 สรุป: กระบวนการออกหมายเรียก ไม่ได้ใช้เวลาคงที่ และขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย บางคนอาจได้รับหมายเรียกเร็วภายในไม่กี่วัน แต่บางคนอาจต้องรอเป็นเดือน ๆ ดังนั้น ถ้าคุณกังวลว่าทำไมหมายเรียกยังไม่มา ควรปรึกษาทนายเพื่อประเมินสถานการณ์ของคุณ

ออกหมายเรียกใช้เวลากี่วัน? ความจริงที่หลายคนเข้าใจผิด!

หลายคนคิดว่า "หมายเรียกต้องออกภายใน 7 วัน" หรือ "ตำรวจต้องแจ้งภายใน 30 วัน" แต่ความจริงไม่ได้เป็นแบบนั้นเสมอไป! การออกหมายเรียก ไม่มีระยะเวลาตายตัว และขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ความซับซ้อนของคดี การรวบรวมหลักฐาน และดุลยพินิจของพนักงานสอบสวน

1. หมายเรียกใช้เวลากี่วัน? ขึ้นอยู่กับปัจจัยอะไรบ้าง?

จากที่เห็นในกระทู้ของเรา หลายคนสงสัยว่าทำไมบางคดีออกหมายเรียกเร็วมากภายในไม่กี่วัน ในขณะที่บางคดีเงียบไปเป็นเดือน ๆ ความเร็วของหมายเรียกขึ้นอยู่กับปัจจัยต่อไปนี้:

• คดีอาญาร้ายแรง เช่น ฆาตกรรม ฉ้อโกงจำนวนมาก หรือคดีที่มีผลกระทบสูง → หมายเรียกมักออกเร็ว
• คดีที่มีหลักฐานแน่นหนา เช่น มีพยานเห็นเหตุการณ์ หรือหลักฐานชัดเจน → กระบวนการออกหมายเร็วกว่าปกติ
• คดีแพ่งหรือคดีที่ต้องสืบสวนเพิ่มเติม → อาจใช้เวลานานหลายเดือนหรือเป็นปี
• ผู้ต้องหาอยู่ในพื้นที่หรือต่างจังหวัด → หากผู้ถูกกล่าวหาอยู่ไกล อาจทำให้การส่งหมายล่าช้า

📌 มาตราที่เกี่ยวข้อง: ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 52
📌 ฎีกาที่เกี่ยวข้อง: ฎีกาที่ 2145/2555 (เกี่ยวกับระยะเวลาการดำเนินคดีและออกหมายเรียก)

2. ถ้าไม่ได้รับหมายเรียกภายใน 30 วัน แปลว่ารอดแล้วหรือไม่?

ไม่ใช่เลย! ไม่มีข้อกฎหมายที่บอกว่าถ้าหมายเรียกไม่ออกภายใน 30 วัน คดีจะหมดอายุ คดีบางประเภทมีอายุความนานถึง 10-20 ปี ซึ่งหมายความว่า เจ้าหน้าที่สามารถออกหมายเรียกได้ตลอดระยะเวลานั้น ถ้ายังไม่หมดอายุความ

💡 ตัวอย่างคดีที่หมดอายุความช้า-เร็ว:

• คดีลหุโทษ → อายุความ 1 ปี
• คดีฉ้อโกง → อายุความ 10 ปี
• คดีฆาตกรรม → ไม่มีอายุความ! หมายจับออกเมื่อไหร่ก็ได้

📌 มาตราที่เกี่ยวข้อง: ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 95
📌 ฎีกาที่เกี่ยวข้อง: ฎีกาที่ 3157/2561 (เกี่ยวกับอายุความและการออกหมายเรียก)

3. มีวิธีเร่งให้หมายเรียกออกเร็วขึ้นไหม?

มีหลายกรณีที่ผู้เสียหายต้องการให้เจ้าหน้าที่ออกหมายเรียกเร็วขึ้น เช่น ในคดีฉ้อโกง หรือคดีที่มีผลกระทบทางธุรกิจ ถ้าคุณเป็นฝ่ายผู้เสียหาย สามารถทำเรื่องร้องเรียนเพื่อเร่งรัดคดีได้

👉 สิ่งที่ทำได้:

1. ติดตามคดีที่สถานีตำรวจ – ตรวจสอบว่าตำรวจดำเนินการถึงไหนแล้ว
2. ยื่นหนังสือร้องเรียนต่อผู้บังคับบัญชา – ถ้าคดีเงียบไปนานสามารถร้องเรียนได้
3. ใช้บริการทนายเพื่อช่วยเร่งรัดคดี – ทนายสามารถช่วยยื่นหนังสือและติดตามกระบวนการได้

📌 บริการของ Legardy: หากคุณต้องการเร่งรัดคดีและต้องการคำแนะนำทางกฎหมาย ทนายของเราพร้อมช่วยเหลือ! ติดต่อ Legardy

4. ถ้าหมายเรียกมาช้า มีผลต่อคดีไหม?

กรณีที่หมายเรียกออกช้ากว่าปกติ อาจส่งผลต่อรูปคดีได้ เช่น

• พยานหลักฐานอาจหายไป หรือเสื่อมสภาพ ทำให้คดีอ่อนลง
• ผู้ต้องหาอาจหลบหนี เพราะรู้ว่าตัวเองจะโดนดำเนินคดี
• อาจถูกยกฟ้อง ถ้าหมายเรียกออกช้าจนกระทบสิทธิของผู้ต้องหา

📌 ฎีกาที่เกี่ยวข้อง: ฎีกาที่ 1524/2563 (เกี่ยวกับผลกระทบของหมายเรียกที่ล่าช้า)

💡 สรุป: การออกหมายเรียกใช้เวลากี่วัน ขึ้นอยู่กับประเภทของคดี ความซับซ้อนของหลักฐาน และการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ ไม่มีระยะเวลาตายตัว ดังนั้น ถ้าคุณได้รับหมายเรียก อย่านิ่งนอนใจ และอย่าคิดว่าถ้ายังไม่ได้รับหมายเรียกแปลว่ารอดแล้ว!

การส่งหมายเรียกต้องใช้เวลากี่วัน? ถ้าเปลี่ยนที่อยู่ ตำรวจจะหาตัวเจอไหม?

หลายคนคิดว่าเมื่อหมายเรียกออกแล้ว จะต้องส่งถึงมือผู้รับทันที แต่ความจริงไม่ใช่แบบนั้น กระบวนการส่งหมายเรียกอาจใช้เวลา ตั้งแต่ไม่กี่วันไปจนถึงเป็นเดือน ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น วิธีการส่ง การอยู่ในพื้นที่หรือต่างจังหวัด และตัวผู้รับเองที่อาจมีการเปลี่ยนที่อยู่

1. การส่งหมายเรียกทำอย่างไร?

ทันทีที่หมายเรียกถูกออกโดยพนักงานสอบสวน หมายเรียกต้องถูกส่งไปยังที่อยู่ของบุคคลที่เกี่ยวข้อง โดยปกติจะส่งโดย

• เจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ดูแลคดี
• เจ้าหน้าที่ศาล ในกรณีที่เป็นหมายเรียกจากศาล
• ไปรษณีย์หรือตัวแทนของรัฐ ซึ่งใช้กับหมายเรียกบางประเภท

เมื่อส่งหมายเรียกแล้ว ผู้รับต้องเซ็นรับเอกสาร หากไม่พบตัวผู้รับ ตำรวจสามารถแจ้งให้บุคคลที่อยู่ในบ้านรับแทน หรือหากไม่มีใครอยู่ ตำรวจจะต้องนำหมายเรียกไปติดไว้ที่ที่พักอาศัยของบุคคลนั้น

2. หมายเรียกจะส่งถึงมือภายในกี่วัน?

ไม่มีระยะเวลาตายตัวในการส่งหมายเรียก แต่โดยทั่วไปแล้ว หมายเรียกจะถูกส่ง ภายใน 7-14 วัน หลังจากที่ออกหมาย อย่างไรก็ตาม บางกรณีอาจใช้เวลานานกว่านั้น เช่น

• ถ้าอยู่ต่างจังหวัดหรือพื้นที่ห่างไกล อาจใช้เวลา 2-4 สัปดาห์
• ถ้าเจ้าหน้าที่ติดตามที่อยู่ไม่เจอ อาจต้องใช้เวลาค้นหาที่อยู่ใหม่ ทำให้การส่งหมายเรียกล่าช้า
• ถ้าเป็นคดีที่ซับซ้อน หรือมีผู้เกี่ยวข้องหลายคน ตำรวจอาจต้องใช้เวลาเรียกตัวบุคคลอื่น ๆ ก่อน

📌 มาตราที่เกี่ยวข้อง: ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 54
📌 ฎีกาที่เกี่ยวข้อง: ฎีกาที่ 3428/2560 (เกี่ยวกับการส่งหมายเรียกที่ล่าช้าและผลที่ตามมา)

3. ถ้าเปลี่ยนที่อยู่ จะได้รับหมายเรียกไหม?

มีหลายคนที่ย้ายที่อยู่บ่อย ๆ และสงสัยว่าหากมีหมายเรียก ตำรวจจะหาตัวเจอหรือไม่ คำตอบคือ ตำรวจมีวิธีติดตามที่อยู่ของคุณหลายช่องทาง ไม่ว่าคุณจะย้ายบ้านหรือเปลี่ยนที่อยู่ก็ตาม

ตำรวจสามารถสืบหาที่อยู่ของคุณผ่าน

• ทะเบียนบ้าน ซึ่งเป็นข้อมูลหลักที่ตำรวจใช้
• ข้อมูลจากหน่วยงานราชการ เช่น ข้อมูลจากกรมการปกครอง
• ที่อยู่ที่คุณเคยให้ไว้กับหน่วยงานราชการ เช่น การต่อทะเบียนรถ หรือที่อยู่บัตรประชาชน
• พยานบุคคล เช่น เพื่อนบ้าน นายจ้าง หรือญาติ

ดังนั้น หากคุณได้รับหมายเรียกแล้วคิดจะย้ายหนี ต้องเข้าใจว่าตำรวจสามารถติดตามคุณได้อยู่ดี และหากตำรวจไม่สามารถส่งหมายเรียกให้คุณได้ อาจมีผลให้ศาลออกหมายจับแทน

📌 ฎีกาที่เกี่ยวข้อง: ฎีกาที่ 5621/2561 (เกี่ยวกับการหลีกเลี่ยงหมายเรียกและผลกระทบ)

4. ถ้าหมายเรียกส่งมาถึงช้า มีผลต่อคดีหรือไม่?

การส่งหมายเรียกที่ล่าช้า อาจส่งผลต่อคดีได้ หากทำให้ผู้ต้องหาหรือพยานไม่ได้รับโอกาสในการชี้แจงหรือให้ปากคำตามกำหนด บางกรณีศาลอาจพิจารณาว่าเป็นการดำเนินการที่ไม่เป็นธรรม

อย่างไรก็ตาม ถ้าผู้รับหมายเรียกจงใจหลบเลี่ยงหรือไม่รับหมาย จะไม่มีผลให้คดีหมดไป แต่กลับกลายเป็นข้อเสียต่อผู้ถูกเรียกเอง เพราะอาจนำไปสู่หมายจับในภายหลัง

📌 มาตราที่เกี่ยวข้อง: ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 55
📌 ฎีกาที่เกี่ยวข้อง: ฎีกาที่ 1987/2559 (เกี่ยวกับผลกระทบของหมายเรียกที่ส่งล่าช้า)

เรื่องจริงที่เกิดขึ้น: กรณีที่หมายเรียกถูกส่งล่าช้าจนคดีมีปัญหา

เคยมีกรณีที่ผู้ต้องหาในคดีฉ้อโกงถูกออกหมายเรียก แต่ตำรวจส่งหมายล่าช้าถึง 6 เดือน ทำให้ผู้ต้องหาเดินทางออกนอกประเทศก่อนจะได้รับหมายเรียก สุดท้ายคดีต้องดำเนินการออกหมายจับแทน

ในกรณีนี้ ผู้เสียหายต้องใช้เวลาอีกหลายปีในการดำเนินการขอให้ส่งผู้ร้ายข้ามแดน เพราะตำรวจส่งหมายเรียกช้าเกินไป

ดังนั้น หากคุณเป็นผู้เสียหาย ควรติดตามการดำเนินคดีและกระบวนการส่งหมายเรียกกับเจ้าหน้าที่อย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาเช่นนี้

📌 บริการของ Legardy: ถ้าคุณเป็นผู้เสียหายและต้องการให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีเร็วขึ้น สามารถใช้บริการทนายของเราเพื่อติดตามคดีและเร่งรัดการส่งหมายเรียก ติดต่อ Legardy

สรุป: หมายเรียกส่งใช้เวลากี่วัน? ต้องทำอย่างไรถ้าหมายเรียกมาถึงช้า?

การส่งหมายเรียกใช้เวลาประมาณ 7-14 วัน ในกรณีปกติ แต่ถ้าผู้รับหมายอยู่ห่างไกล หรือเจ้าหน้าที่ต้องสืบหาที่อยู่ใหม่ อาจใช้เวลาหลายสัปดาห์

หากหมายเรียกส่งมาถึงช้า ควรตรวจสอบว่าเป็นเพราะตำรวจดำเนินการล่าช้า หรือเพราะที่อยู่ของคุณไม่ตรงกับทะเบียนบ้าน และหากคุณเป็นผู้เสียหาย ควรติดตามการส่งหมายเรียกกับเจ้าหน้าที่ เพื่อให้คดีดำเนินการได้รวดเร็วขึ้น

💡 หมายเรียกมาแล้ว อย่าตกใจ! อ่านต่อในหัวข้อถัดไปว่าคุณควรทำอย่างไรหากได้รับหมายเรียก

ได้รับหมายเรียกแล้วต้องทำอย่างไร? ต้องรีบไป หรือขอเลื่อนได้?

เมื่อคุณได้รับหมายเรียก ไม่ว่าจะเป็นหมายเรียกผู้ต้องหา หรือหมายเรียกพยาน สิ่งที่ต้องทำคือ อ่านให้ละเอียด แล้วตัดสินใจอย่างรอบคอบ ไม่ใช่ว่าจะต้องรีบไปตามหมายทันที หรือคิดว่าถ้าไม่ไปจะไม่มีผลอะไร

หลายคนได้รับหมายเรียกแล้วตกใจ บางคนคิดว่าต้องไปโดยไม่มีทางเลือก บางคนกังวลจนอยากจะหนีไปก่อน แต่ความจริงคือ คุณมีทางเลือกมากกว่าที่คิด

1. สิ่งแรกที่ต้องทำเมื่อได้รับหมายเรียก

เมื่อคุณได้รับหมายเรียก ให้ตรวจสอบเอกสารอย่างละเอียด ดูว่าหมายเรียกนี้เกี่ยวข้องกับอะไร ถูกส่งมาจากหน่วยงานไหน และต้องไปให้ปากคำที่ไหน วันและเวลาเป็นอย่างไร และที่สำคัญที่สุด คุณถูกเรียกไปในฐานะอะไร?

หมายเรียกมี 2 แบบหลัก ๆ คือหมายเรียกในฐานะ ผู้ต้องหา และหมายเรียกในฐานะ พยาน ซึ่งมีผลกระทบแตกต่างกัน

หากคุณได้รับหมายเรียกในฐานะ ผู้ต้องหา แปลว่าคุณถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิด อาจมีการแจ้งข้อกล่าวหาและการสอบสวนที่จริงจัง ถ้าหมายเรียกที่คุณได้รับเป็นหมายเรียก พยาน คุณอาจถูกเรียกไปให้ข้อมูลเกี่ยวกับคดีที่คุณไม่ได้เป็นผู้กระทำความผิดโดยตรง

ไม่ว่าคุณจะได้รับหมายเรียกแบบไหน สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการเตรียมตัวให้พร้อม การไปตามหมายโดยไม่ได้เตรียมตัวอาจทำให้คุณเสียเปรียบทางคดี

📌 มาตราที่เกี่ยวข้อง: ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 55

2. ต้องไปตามหมายเรียกทันทีหรือไม่? สามารถขอเลื่อนได้หรือเปล่า?

หากคุณไม่สะดวกไปตามหมายเรียกในวันที่กำหนด คุณสามารถขอเลื่อนได้ โดยต้องมีเหตุผลที่เหมาะสม การขอเลื่อนต้องทำโดยยื่นคำร้องไปยังหน่วยงานที่ออกหมายเรียก เช่น ตำรวจ ศาล หรือพนักงานอัยการ

เหตุผลที่สามารถใช้ขอเลื่อนได้ เช่น

• ป่วยหนักจนไม่สามารถเดินทางได้ (ต้องมีใบรับรองแพทย์)
• อยู่ต่างประเทศหรือมีภารกิจสำคัญที่ไม่สามารถเลื่อนออกไปได้
• มีเหตุสุดวิสัย เช่น ภัยพิบัติ หรือข้อจำกัดในการเดินทาง

อย่างไรก็ตาม การขอเลื่อนต้องทำอย่างเป็นทางการ ไม่สามารถเพิกเฉยต่อหมายเรียกโดยไม่แจ้งอะไรเลยได้ เพราะถ้าคุณไม่ไปและไม่แจ้งขอเลื่อน ตำรวจสามารถออกหมายเรียกครั้งที่สอง และถ้ายังไม่ไปอีก อาจนำไปสู่หมายจับได้

📌 ฎีกาที่เกี่ยวข้อง: ฎีกาที่ 1345/2560 (เกี่ยวกับการขอเลื่อนหมายเรียกและผลทางกฎหมาย)

3. ถ้าไปตามหมายเรียกแล้วต้องทำอะไรบ้าง?

เมื่อถึงวันนัดหมาย ให้ไปตามเวลาที่กำหนด เตรียมเอกสารที่เกี่ยวข้องไปด้วย เช่น บัตรประชาชน เอกสารที่เกี่ยวข้องกับคดี และถ้าคุณเป็นผู้ต้องหา ควรมีทนายไปด้วยเสมอ

ขั้นตอนการให้ปากคำอาจใช้เวลา ตั้งแต่ไม่กี่นาทีไปจนถึงหลายชั่วโมง ขึ้นอยู่กับรายละเอียดของคดี พนักงานสอบสวนอาจสอบถามคุณเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น หากคุณเป็นพยาน คุณมีหน้าที่ให้ข้อมูลที่เป็นความจริง แต่ถ้าคุณเป็นผู้ต้องหา คุณมีสิทธิที่จะไม่ให้การในบางกรณี และนี่คือเหตุผลที่คุณควรมีทนายไปด้วย

มีหลายคนที่คิดว่าการไปตามหมายเรียกคือการ "ไปฟังเฉย ๆ" แต่ในความเป็นจริง การให้ปากคำต่อเจ้าหน้าที่สามารถส่งผลกระทบต่อคดีของคุณได้อย่างมหาศาล การตอบคำถามผิด หรือให้ข้อมูลที่ไม่ครบถ้วน อาจทำให้คุณเสียเปรียบในคดีโดยไม่รู้ตัว

📌 มาตราที่เกี่ยวข้อง: ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 56

4. ถ้าหมายเรียกมีข้อผิดพลาด หรือออกหมายเรียกผิดคน ทำอย่างไร?

มีหลายกรณีที่หมายเรียกถูกออกผิด เช่น

• ชื่อผิด หรือรายละเอียดของผู้ถูกเรียกไม่ตรงกับความเป็นจริง
• คดีที่คุณถูกเรียกไปเกี่ยวข้อง อาจเป็นคดีที่คุณไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเลย
• มีการแอบอ้างชื่อคุณ หรือข้อมูลของคุณถูกใช้ในคดีโดยที่คุณไม่รู้ตัว

หากคุณสงสัยว่าหมายเรียกที่ได้รับมีข้อผิดพลาด สิ่งแรกที่ควรทำคือการติดต่อหน่วยงานที่ออกหมายเรียกโดยตรง เพื่อขอให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง หากพบว่าหมายเรียกออกผิด สามารถขอให้ยกเลิกหมายเรียกได้

ในบางกรณี การออกหมายเรียกผิดคน อาจทำให้เกิดปัญหาทางกฎหมายต่อเจ้าหน้าที่ที่ออกหมายเรียกได้

📌 ฎีกาที่เกี่ยวข้อง: ฎีกาที่ 1782/2559 (เกี่ยวกับกรณีที่หมายเรียกออกผิดพลาด)

5. ถ้าได้รับหมายเรียกและไม่แน่ใจว่าควรทำอย่างไร ควรปรึกษาทนายหรือไม่?

หากคุณได้รับหมายเรียกและไม่แน่ใจว่าควรทำอย่างไร การปรึกษาทนายคือทางเลือกที่ดีที่สุด เพราะทนายสามารถให้คำแนะนำเกี่ยวกับสิทธิและหน้าที่ของคุณ และช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างถูกต้อง

หากคุณเป็นผู้ต้องหา ทนายสามารถช่วยคุณเตรียมเอกสาร ให้คำแนะนำเกี่ยวกับสิ่งที่ควรพูดและไม่ควรพูด และหากคดีซับซ้อน ทนายสามารถช่วยต่อรองหรือยื่นคำร้องขอความเป็นธรรมได้

📌 บริการของ Legardy: หากคุณได้รับหมายเรียกและต้องการคำแนะนำจากทนาย สามารถปรึกษาทนายของเราได้ทันที ติดต่อ Legardy

สรุป: ได้รับหมายเรียกแล้วต้องทำอย่างไร?

การได้รับหมายเรียก ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย และไม่ควรละเลยหรือคิดว่ามันจะหมดอายุไปเอง หากคุณได้รับหมายเรียก ควรตรวจสอบรายละเอียดของหมายเรียกให้ชัดเจน และตัดสินใจว่าจะไปตามหมายหรือขอเลื่อนดี

หากคุณไม่แน่ใจว่าควรทำอย่างไร ให้ปรึกษาทนายความ เพื่อให้คุณสามารถปกป้องสิทธิของตัวเองได้อย่างดีที่สุด

💡 ต่อไป เราจะมาดูกันว่าถ้าคุณไม่ไปตามหมายเรียก จะเกิดอะไรขึ้น และผลทางกฎหมายจะเป็นอย่างไร?

ไม่ไปตามหมายเรียกจะเกิดอะไรขึ้น? ผลทางกฎหมายที่ต้องระวัง!

คนจำนวนไม่น้อยได้รับหมายเรียกแล้วเลือก “เมินเฉย” หรือ “คิดว่าเดี๋ยวมันก็เงียบไปเอง” บางคนคิดว่าไม่ตอบหมายเรียกแล้วคดีจะจบ หรือถ้าไม่ไปรับหมาย ตำรวจคงไม่ตามต่อ แต่นี่เป็นความคิดที่ ผิดมหันต์ และอาจทำให้สถานการณ์ของคุณเลวร้ายลงมากกว่าที่คิด

1. ถ้าไม่ไปตามหมายเรียกครั้งแรก จะมีผลอะไรบ้าง?

เมื่อคุณได้รับหมายเรียกครั้งแรกแต่ เพิกเฉย ไม่ไปรายงานตัว และไม่แจ้งขอเลื่อน สิ่งที่จะเกิดขึ้นก็คือ ตำรวจจะออกหมายเรียกครั้งที่สอง นี่คือ โอกาสสุดท้าย ที่คุณจะไปให้ปากคำโดยไม่มีผลทางกฎหมายที่รุนแรง

หมายเรียกครั้งที่สองมักถูกส่งออก ภายใน 15-30 วัน หลังจากที่หมายเรียกครั้งแรกถูกละเลย ตำรวจอาจพยายามติดต่อตัวคุณอีกครั้ง หากยังไม่สามารถติดต่อคุณได้ หรือหากคุณยังคงไม่ไปตามนัด สถานการณ์จะเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง

📌 มาตราที่เกี่ยวข้อง: ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 56

2. ถ้าไม่ไปตามหมายเรียกครั้งที่สอง จะถูกหมายจับทันทีหรือไม่?

หากหมายเรียกครั้งที่สองถูกเพิกเฉย ตำรวจมีสิทธิออกหมายจับได้ทันที การออกหมายจับจะต้องผ่านการพิจารณาจากศาล ถ้าศาลเห็นว่าคุณจงใจหลบเลี่ยง และคดีมีมูลเพียงพอ ศาลจะอนุมัติหมายจับโดยไม่ต้องแจ้งให้คุณทราบล่วงหน้า

คนจำนวนมากคิดว่า "ถ้าผมไม่ไปแล้วตำรวจไม่มาเคาะประตูบ้านก็คงไม่เป็นไร" แต่จริง ๆ แล้ว ถ้าหมายจับออกเมื่อไหร่ ตำรวจสามารถเข้าจับกุมคุณได้ทุกที่ ไม่ว่าจะที่บ้าน ที่ทำงาน หรือแม้แต่ระหว่างเดินทาง และที่สำคัญที่สุด ถ้าคุณเดินทางไปยังสถานที่ราชการหรือผ่านด่านตรวจ ชื่อของคุณจะอยู่ในระบบของตำรวจทันที

📌 ฎีกาที่เกี่ยวข้อง: ฎีกาที่ 4521/2561 (เกี่ยวกับการออกหมายจับกรณีเพิกเฉยต่อหมายเรียก)

3. ถ้าไม่ไปตามหมายเรียก แต่ย้ายที่อยู่หนี จะช่วยให้รอดได้หรือไม่?

บางคนเลือกวิธี "หนี" คิดว่าถ้าไม่อยู่ที่บ้าน ตำรวจจะหาไม่เจอ แล้วสุดท้ายเรื่องจะเงียบไปเอง แต่ขอให้รู้ไว้เลยว่า นี่เป็นทางเลือกที่ผิดมหันต์ และอาจทำให้คุณติดคุกเร็วขึ้นกว่าเดิม

ตำรวจมีหลายวิธีในการติดตามตัวคุณ ไม่ว่าจะเป็น

• การเช็คทะเบียนบ้านและข้อมูลจากหน่วยงานราชการ
• การสอบถามญาติ เพื่อน หรือคนรู้จัก
• การใช้เทคโนโลยีติดตาม เช่น การเช็คข้อมูลจากบัตรประชาชน บัญชีธนาคาร หรือแม้แต่เบอร์โทรศัพท์ที่คุณใช้

และถ้าคดีของคุณเป็นคดีอาญาร้ายแรง ศาลสามารถอนุมัติ หมายจับข้ามจังหวัด หรือแม้แต่ หมายจับข้ามประเทศ ได้ การหลบหนีจึงไม่ใช่ทางออกที่ปลอดภัยเลย

📌 ฎีกาที่เกี่ยวข้อง: ฎีกาที่ 5612/2559 (เกี่ยวกับผลของการหลบหนีและการออกหมายจับข้ามจังหวัด)

4. ถ้าไม่ไปตามหมายเรียก แล้วไปมอบตัวภายหลัง จะช่วยให้โทษเบาลงหรือไม่?

การเพิกเฉยต่อหมายเรียกแล้วไปมอบตัวเองภายหลัง อาจช่วยให้คุณได้รับการพิจารณา ลดโทษบางส่วน ได้ เพราะศาลอาจมองว่าคุณไม่ได้พยายามหลบหนีอย่างจริงจัง แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาลด้วย

แต่ต้องเข้าใจว่า การไม่ไปตามหมายเรียกแต่แรก ย่อมสร้างความไม่ไว้วางใจต่อเจ้าหน้าที่ และอาจถูกมองว่าคุณจงใจหลีกเลี่ยงกระบวนการยุติธรรม ถ้าคุณมีเหตุผลที่เหมาะสม เช่น เจ็บป่วย หรือไม่สามารถไปตามนัดได้ การแจ้งขอเลื่อนแต่เนิ่น ๆ ย่อมเป็นทางเลือกที่ดีกว่า

📌 มาตราที่เกี่ยวข้อง: ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 57

5. ถ้าคุณได้รับหมายจับแล้ว ควรทำอย่างไร?

หากคุณได้รับหมายจับแล้ว ทางเลือกที่ดีที่สุดคือการติดต่อทนายความและไปมอบตัว เพราะหากปล่อยให้ตำรวจต้องมาตามจับเอง อาจทำให้คุณถูกควบคุมตัวโดยไม่มีโอกาสเตรียมการ หรือขอประกันตัวล่วงหน้า

ทนายสามารถช่วยคุณยื่นขอประกันตัว และเตรียมเอกสารเพื่อให้คุณได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวได้ ถ้าคดีของคุณเป็นคดีที่มีโทษไม่ร้ายแรง และคุณไม่มีพฤติกรรมหลบหนี โอกาสได้รับการประกันตัวจะสูงขึ้น

📌 บริการของ Legardy: หากคุณได้รับหมายจับ และต้องการความช่วยเหลือจากทนายในการขอประกันตัว สามารถติดต่อทีมทนายของเราได้ที่นี่ ติดต่อ Legardy

สรุป: ไม่ไปตามหมายเรียก = เสี่ยงโดนหมายจับ!

หากคุณได้รับหมายเรียก อย่าคิดว่าไม่ไปแล้วเรื่องจะเงียบ เพราะตำรวจจะออกหมายเรียกครั้งที่สอง และหากยังไม่ไป อาจนำไปสู่หมายจับได้ในที่สุด

การเพิกเฉยต่อหมายเรียกอาจทำให้สถานการณ์ของคุณแย่ลงอย่างมาก ถ้าคุณมีเหตุผลที่ทำให้ไม่สามารถไปได้ ควรแจ้งขอเลื่อนตั้งแต่เนิ่น ๆ อย่าปล่อยให้ตำรวจต้องมาตามหา เพราะเมื่อถึงจุดนั้นแล้ว คุณอาจไม่มีโอกาสเลือกทางที่ดีที่สุดให้กับตัวเองอีก

💡 ในหัวข้อถัดไป เราจะมาดูกันว่า มีกรณีตัวอย่างจริง ๆ ที่คนไม่ไปตามหมายเรียกแล้วถูกจับแบบไหนบ้าง รวมถึงกรณีที่หมายเรียกออกช้า แล้วส่งผลต่อคดีอย่างไร? ติดตามต่อได้เลย!

กรณีศึกษาจริง: หมายเรียกที่มาถึงช้าและผลกระทบที่ตามมา

มีหลายกรณีที่หมายเรียกถูกออกล่าช้า จนส่งผลกระทบต่อคดีอย่างมหาศาล หลายคนอาจคิดว่า "ถ้าหมายเรียกมาช้า เราจะรอดตัวไหม?" หรือบางคนสงสัยว่า "ทำไมบางคนไม่ได้หมายเรียกเลย แล้วจู่ ๆ ก็โดนจับ?" เรื่องเหล่านี้เกิดขึ้นจริง และบางกรณีอาจเป็นความผิดพลาดของระบบยุติธรรมที่ทำให้เกิดผลกระทบใหญ่หลวง

1. คดีที่หมายเรียกออกช้าเกินไปจนผู้ต้องหาหลบหนีได้สำเร็จ

ในปีหนึ่ง มีคดีฉ้อโกงรายใหญ่ที่เกิดขึ้นในกรุงเทพฯ ผู้ต้องหาถูกแจ้งความว่าฉ้อโกงเงินลูกค้าหลายสิบล้านบาท ตำรวจได้รับแจ้งความตั้งแต่ต้นปี แต่การออกหมายเรียกกลับล่าช้าเกินไป เนื่องจากต้องมีการสอบสวนพยานจำนวนมาก

กว่าที่หมายเรียกจะถูกออกจริง ๆ เวลาก็ผ่านไปเกือบ 6 เดือน เมื่อเจ้าหน้าที่ไปส่งหมายเรียกที่บ้านของผู้ต้องหา ปรากฏว่าบ้านถูกขายไปแล้ว และเพื่อนบ้านแจ้งว่าเจ้าตัวเดินทางออกนอกประเทศไปได้หลายเดือนแล้ว

แม้ว่าภายหลังศาลจะออกหมายจับ และตำรวจพยายามติดตามตัว แต่การขอส่งตัวกลับประเทศไทย (extradition) นั้นเป็นกระบวนการที่ใช้เวลานานมาก ผู้เสียหายต้องใช้เวลากว่า 3 ปี ในการดำเนินคดีเพิ่มเติม สุดท้ายผู้ต้องหาใช้ช่องว่างของระบบกฎหมายเพื่อขอลี้ภัยในต่างประเทศ และจนถึงวันนี้ ยังไม่สามารถนำตัวกลับมาดำเนินคดีได้

📌 ฎีกาที่เกี่ยวข้อง: ฎีกาที่ 5628/2560 (เกี่ยวกับความล่าช้าในการออกหมายเรียกและผลกระทบต่อการดำเนินคดี)

2. หมายเรียกที่ส่งผิดที่อยู่ ทำให้ผู้ต้องหาพลาดโอกาสแก้ต่าง

กรณีหนึ่งที่เกิดขึ้นในภาคเหนือ ผู้ต้องหาถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการปลอมแปลงเอกสารราชการ ตำรวจออกหมายเรียกไปที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน แต่ปัญหาคือผู้ต้องหาไม่ได้อาศัยอยู่ที่บ้านหลังนั้นมานานหลายปีแล้ว

เมื่อหมายเรียกส่งไปที่บ้านเดิม คนที่อาศัยอยู่ในบ้านไม่ได้แจ้งเรื่องให้เจ้าตัวทราบ ตำรวจพยายามติดตามตัวแต่ไม่พบ และเมื่อเวลาผ่านไป หมายจับถูกออกมาโดยที่เจ้าตัวไม่เคยรู้เรื่องเลย

หลายเดือนต่อมา ขณะที่กำลังเดินทางไปทำธุระที่สำนักงานเขต ตำรวจพบว่ามีหมายจับติดตัว และเข้าจับกุมทันที เจ้าตัวตกใจเพราะไม่เคยได้รับหมายเรียกมาก่อน และพลาดโอกาสในการเข้าชี้แจงตั้งแต่แรก

สุดท้าย แม้ว่าผู้ต้องหาจะสามารถยื่นคำร้องเพื่อขอให้ศาลพิจารณาคดีใหม่ได้ แต่ก็ต้องถูกควบคุมตัวก่อนระหว่างกระบวนการพิจารณา ซึ่งสร้างผลกระทบต่อชีวิตและธุรกิจของเขาอย่างมาก

📌 ฎีกาที่เกี่ยวข้อง: ฎีกาที่ 3945/2559 (เกี่ยวกับการส่งหมายเรียกผิดที่อยู่ และผลกระทบต่อสิทธิของผู้ต้องหา)

3. หมายเรียกที่มาถึงช้า ทำให้พยานหลักฐานหายไป และส่งผลให้คดีอ่อนลง

มีคดีหนึ่งที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับการลักทรัพย์ในบ้านพักตากอากาศ ตำรวจได้รับแจ้งความและเริ่มสืบสวน แต่หมายเรียกผู้ต้องสงสัยออกช้ากว่าปกติ เนื่องจากต้องรอผลการตรวจสอบจากนิติวิทยาศาสตร์

เมื่อหมายเรียกออกมาแล้ว ผู้ต้องหาได้ใช้เวลาช่วงที่หมายเรียกยังมาไม่ถึงไป "เคลียร์หลักฐาน" บางส่วน ในวันที่ตำรวจไปถึงบ้านผู้ต้องหา กล้องวงจรปิดที่เป็นหลักฐานสำคัญถูกลบไปหมดแล้ว ตำรวจไม่สามารถกู้ข้อมูลได้ และทำให้พยานหลักฐานที่สำคัญที่สุดในคดีหายไป

ผลสุดท้าย คดีนี้ต้องพึ่งพาหลักฐานทางอ้อม และพยานบุคคลมากขึ้น ศาลยังคงตัดสินให้ผู้ต้องหามีความผิด แต่โทษที่ได้รับเบาลงมาก เนื่องจากขาดหลักฐานชัดเจนในการยืนยันการกระทำผิดโดยตรง

📌 ฎีกาที่เกี่ยวข้อง: ฎีกาที่ 5123/2558 (เกี่ยวกับผลของหมายเรียกที่ล่าช้าจนส่งผลต่อพยานหลักฐานในคดี)

บทเรียนสำคัญจากกรณีเหล่านี้: หมายเรียกที่ล่าช้าอาจเปลี่ยนแปลงคดีได้อย่างไร?

กรณีทั้งหมดที่กล่าวมาชี้ให้เห็นว่า หมายเรียกที่มาช้า หรือถูกส่งผิด อาจมีผลกระทบมหาศาล ทั้งต่อผู้เสียหาย และต่อผู้ที่ถูกกล่าวหา

สำหรับ ผู้เสียหาย หมายเรียกที่ออกช้าอาจทำให้

• ผู้ต้องหามีเวลาหลบหนี
• หลักฐานสำคัญถูกทำลาย
• คดีต้องใช้เวลานานขึ้นกว่าปกติ

สำหรับ ผู้ต้องหา หมายเรียกที่ผิดพลาดอาจทำให้

• พลาดโอกาสในการปกป้องสิทธิของตัวเอง
• ต้องถูกจับกุมโดยไม่รู้ตัว
• ได้รับผลกระทบทางอาชีพและชีวิตส่วนตัว แม้ว่าสุดท้ายอาจพิสูจน์ได้ว่าตัวเองบริสุทธิ์

📌 บริการของ Legardy: หากคุณเป็นผู้เสียหายและต้องการให้หมายเรียกออกเร็วขึ้น หรือหากคุณเป็นผู้ถูกเรียกตัวและต้องการให้ตรวจสอบความถูกต้องของหมาย สามารถติดต่อทีมทนายของเราได้ทันที ติดต่อ Legardy

สรุป: หมายเรียกช้า มีผลต่อคดีมากกว่าที่คิด

หมายเรียกที่มาถึงล่าช้าอาจส่งผลกระทบต่อทั้งสองฝ่ายในคดีอย่างรุนแรง การตรวจสอบและติดตามคดีอย่างใกล้ชิดเป็นสิ่งสำคัญ หากคุณเป็นผู้เสียหาย คุณควรติดตามกระบวนการกับตำรวจเพื่อให้คดีเดินหน้าเร็วขึ้น และหากคุณเป็นผู้ต้องหา ควรตรวจสอบว่าหมายเรียกที่ได้รับถูกต้องหรือไม่ และหากพบข้อผิดพลาด ต้องรีบแก้ไขทันที

การเข้าใจว่าหมายเรียกสำคัญแค่ไหน และต้องดำเนินการอย่างไรเมื่อได้รับหมาย เป็นสิ่งที่สามารถช่วยให้คุณรับมือกับกระบวนการทางกฎหมายได้อย่างถูกต้อง

💡 หัวข้อถัดไป เราจะมาพูดถึงวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันตัวเองเมื่อได้รับหมายเรียก และการใช้ทนายเพื่อช่วยให้คุณมีโอกาสที่ดีที่สุดในกระบวนการยุติธรรม ติดตามต่อได้เลย!

คำแนะนำจากทนาย: ได้รับหมายเรียก ควรทำยังไงให้ดีที่สุด?

1. ได้รับหมายเรียกแล้วต้องทำอะไรเป็นอันดับแรก? ห้ามตื่นตระหนก แต่ต้องอ่านให้ละเอียด

คนที่ได้รับหมายเรียกครั้งแรกมักตกใจ บางคนคิดว่านี่คือ "คำตัดสิน" ไปแล้วว่าตัวเองผิด หรือบางคนรีบไปรับสารภาพทั้งที่อาจไม่ได้ทำผิดจริง ๆ ซึ่งเป็นข้อผิดพลาดร้ายแรงที่สุดที่เกิดขึ้นในกระบวนการยุติธรรม

สิ่งที่ควรทำอันดับแรก คือสงบสติอารมณ์และอ่านหมายเรียกให้ละเอียด หมายเรียกนั้นระบุชัดเจนว่าคุณถูกเรียกตัวในฐานะอะไร ระบุว่าเกี่ยวข้องกับคดีอะไร และต้องไปพบเจ้าหน้าที่ที่ไหน วันเวลาเท่าไหร่ หลายคนละเลยจุดนี้ รีบไปโดยไม่เข้าใจสิทธิของตัวเอง และกลายเป็นฝ่ายเสียเปรียบ

สิ่งที่คุณต้องสังเกตให้ดีบนหมายเรียกคือ

• หมายออกโดยใคร? เป็นตำรวจ ศาล หรือหน่วยงานพิเศษ
• ถูกเรียกตัวไปในฐานะอะไร? เป็นพยาน หรือผู้ต้องหา
• กำหนดวันนัดเมื่อไหร่? มีเวลากี่วันก่อนต้องไป
• คดีเกี่ยวกับอะไร? อ่านให้เข้าใจว่าเรื่องที่ถูกกล่าวหาเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไร

หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับเนื้อหาในหมายเรียก อย่าเดาเอง หรือฟังความข้างเดียวจากคนรอบตัว ควรสอบถามเจ้าหน้าที่ที่ออกหมาย หรือขอให้ทนายช่วยตรวจสอบเพื่อความแน่ใจ

📌 มาตราที่เกี่ยวข้อง: ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 55

2. ถ้าคุณไม่ได้ทำผิด แต่ได้รับหมายเรียก ต้องทำยังไง?

กรณีที่มีคนได้รับหมายเรียกโดยที่ตนเองไม่ได้เกี่ยวข้องกับคดีจริง ๆ มีเกิดขึ้นอยู่บ่อย ๆ บางครั้งเป็นเพราะเจ้าหน้าที่สอบสวนผิดพลาด หรือบางครั้งอาจมีคนกล่าวหาโดยไม่มีหลักฐานเพียงพอ

หากคุณมั่นใจว่าตัวเองไม่เกี่ยวข้องกับคดี แต่ได้รับหมายเรียก อย่าเพิกเฉย เพราะการไม่ไปตามหมายเรียกจะทำให้คุณดูเหมือนมีพฤติกรรมหลบหนี และอาจถูกออกหมายจับได้ในภายหลัง

สิ่งที่ควรทำคือ

• ติดต่อเจ้าหน้าที่สอบสวนที่ออกหมายเรียกเพื่อสอบถามว่าทำไมคุณถึงได้รับหมาย
• ตรวจสอบรายละเอียดของคดีว่ามีข้อมูลผิดพลาดหรือไม่
• ขอทนายช่วยยื่นเอกสารคัดค้านหากคุณคิดว่ามีการออกหมายเรียกผิดพลาด

หากพบว่าเป็นกรณีที่มีการแอบอ้างชื่อของคุณ หรือมีบุคคลอื่นพยายามโยนความผิดมาให้ คุณสามารถ ยื่นคำร้องขอให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกับศาลหรือเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้มีการเพิกถอนหมายเรียก

📌 ฎีกาที่เกี่ยวข้อง: ฎีกาที่ 4289/2562 (เกี่ยวกับกรณีที่หมายเรียกออกผิดพลาด และการยื่นคำร้องขอให้เพิกถอน)

3. ถ้ากลัวว่าจะถูกดำเนินคดี ควรทำยังไงก่อนเดินทางไปพบเจ้าหน้าที่?

หากคุณได้รับหมายเรียกในฐานะผู้ต้องหา สิ่งสำคัญคือ การเตรียมตัวให้พร้อมก่อนเดินทางไปพบตำรวจหรือศาล คนจำนวนไม่น้อยเดินเข้าไปโดยไม่มีการเตรียมตัว พูดผิดพลาดในระหว่างให้ปากคำ และทำให้สถานการณ์ของตัวเองแย่ลง

สิ่งที่ควรทำก่อนเดินทางไปพบเจ้าหน้าที่คือ

• ทบทวนรายละเอียดของคดีและหาข้อมูลว่าตัวเองมีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่
• เตรียมเอกสารหรือหลักฐานที่สามารถช่วยให้คุณแสดงความบริสุทธิ์
• ปรึกษาทนายความเพื่อให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจสิทธิของตัวเอง และได้รับคำแนะนำว่าควรพูดอะไรหรือไม่ควรพูดอะไร

การมีทนายความไปด้วยในการให้ปากคำเป็นสิ่งที่ จำเป็นอย่างยิ่ง เพราะบางครั้งการพูดผิดแม้แต่เพียงเล็กน้อย อาจถูกใช้เป็นหลักฐานมัดตัวคุณในภายหลังได้

📌 มาตราที่เกี่ยวข้อง: ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 83

4. ถ้ารู้ตัวว่าผิด ควรรับสารภาพเลยไหม?

คำถามนี้เกิดขึ้นบ่อยมาก มีหลายคนที่เมื่อได้รับหมายเรียกแล้วก็คิดว่า "ไหน ๆ ก็ผิดจริง จะไปรับสารภาพเลยดีไหม?"

การรับสารภาพในคดีอาญา มีผลกระทบอย่างมาก และอาจส่งผลต่ออนาคตของคุณในระยะยาว การรับสารภาพโดยไม่ได้พิจารณาให้รอบคอบ อาจทำให้คุณเสียโอกาสในการใช้สิทธิ์ตามกฎหมาย

สิ่งที่ต้องเข้าใจก่อนตัดสินใจรับสารภาพคือ

• การรับสารภาพอาจทำให้คุณได้รับโทษเบาลง แต่ไม่ใช่ทุกกรณี
• หากมีพยานหลักฐานที่สามารถช่วยให้คุณต่อสู้คดีได้ คุณควรพิจารณาใช้สิทธิ์นั้นก่อน
• ศาลพิจารณาจากข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานเป็นหลัก ไม่ใช่เพียงเพราะคุณพูดว่าผิดหรือไม่ผิด

หากคุณอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่แน่ใจ อย่าตัดสินใจรับสารภาพโดยไม่มีการปรึกษาทนายก่อน เพราะทนายสามารถช่วยวิเคราะห์คดี และดูว่ามีทางออกอื่นที่ดีกว่าหรือไม่

📌 ฎีกาที่เกี่ยวข้อง: ฎีกาที่ 5523/2558 (เกี่ยวกับผลของการรับสารภาพในคดีอาญา)

5. การมีทนายช่วยให้คุณได้เปรียบในคดีได้อย่างไร?

หลายคนคิดว่าทนายความจำเป็นเฉพาะในคดีใหญ่ ๆ เท่านั้น แต่ความจริงแล้ว แม้แต่คดีที่ดูเหมือนเล็กน้อย ก็สามารถส่งผลกระทบต่อชีวิตของคุณได้

การมีทนายช่วยในคดีมีประโยชน์อย่างมาก เช่น

• ทนายสามารถช่วยให้คุณเข้าใจสิทธิของตัวเอง และป้องกันไม่ให้คุณพูดผิดพลาดในการให้ปากคำ
• ทนายสามารถเจรจากับพนักงานสอบสวนหรืออัยการเพื่อให้คดีของคุณได้รับการพิจารณาอย่างเป็นธรรม
• ทนายสามารถช่วยเตรียมเอกสารและหลักฐานเพื่อใช้ในการต่อสู้คดี

หากคุณได้รับหมายเรียกและต้องการความช่วยเหลือจากทนาย ควรรีบติดต่อทันที อย่ารอให้คดีดำเนินไปจนถึงจุดที่ไม่มีทางแก้ไขแล้ว

📌 บริการของ Legardy: หากคุณต้องการคำปรึกษาจากทนายเกี่ยวกับหมายเรียก สามารถติดต่อทีมทนายของเราได้ที่นี่ ติดต่อ Legardy

สรุป: หมายเรียกใช้เวลากี่วัน และต้องทำอย่างไรเมื่อได้รับหมาย?

1. หมายเรียกคืออะไร และออกใช้เวลากี่วัน?

หมายเรียกเป็นเอกสารที่ออกโดยตำรวจหรือศาลเพื่อให้บุคคลมาให้ปากคำหรือดำเนินการทางกฎหมาย ระยะเวลาในการออกหมายเรียกไม่มีระยะเวลาตายตัว โดยทั่วไปอาจใช้เวลา 7-30 วัน ขึ้นอยู่กับประเภทของคดี ความซับซ้อนของหลักฐาน และกระบวนการพิจารณาของเจ้าหน้าที่

2. ได้รับหมายเรียกแล้วต้องทำอย่างไร?

เมื่อได้รับหมายเรียก ห้ามเมินเฉย และห้ามตกใจจนทำอะไรไม่ถูก ควรตรวจสอบเนื้อหาของหมายว่าเกี่ยวข้องกับอะไร คุณถูกเรียกในฐานะอะไร และต้องไปที่ไหน ควรปรึกษาทนายความทันทีหากไม่แน่ใจว่าควรดำเนินการอย่างไร

3. ถ้าไม่ไปตามหมายเรียก จะเกิดอะไรขึ้น?

หากไม่ไปตามหมายเรียกครั้งแรก ตำรวจจะออกหมายเรียกครั้งที่สอง และหากยังเพิกเฉย อาจนำไปสู่การออกหมายจับ ซึ่งสามารถทำให้คุณถูกจับกุมและควบคุมตัวโดยไม่คาดคิด แม้ว่าจะไม่ได้ตั้งใจหลบหนี

4. หมายเรียกที่ล่าช้ามีผลกระทบต่อคดีหรือไม่?

หากหมายเรียกมาถึงล่าช้า อาจทำให้คดีเปลี่ยนแปลงไปได้ เช่น หลักฐานหายไป พยานให้การได้ไม่ชัดเจน หรือผู้ต้องหาหลบหนีออกนอกประเทศ จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้เสียหายควรติดตามกระบวนการทางกฎหมายอย่างใกล้ชิด

5. การมีทนายความช่วยให้คุณได้เปรียบอย่างไร?

การได้รับหมายเรียกอาจเป็นเรื่องใหญ่โดยที่คุณไม่ทันตั้งตัว การมีทนายความช่วยดูแลตั้งแต่ต้น จะช่วยให้คุณเข้าใจสิทธิของตัวเองและไม่ทำผิดพลาด หากคุณเป็นผู้ต้องหา ทนายสามารถช่วยเตรียมหลักฐานและให้คำแนะนำเกี่ยวกับแนวทางในการดำเนินคดีได้

6. Legardy สามารถช่วยอะไรคุณได้บ้าง?

หากคุณได้รับหมายเรียกและต้องการคำแนะนำจากทนายความ Legardy มีทีมทนายที่เชี่ยวชาญในทุกด้านของกฎหมาย พร้อมให้คำปรึกษาและช่วยเหลือคุณตลอดกระบวนการ สามารถติดต่อเราเพื่อรับคำปรึกษาได้ที่ Legardy.com

บทสรุปสุดท้าย: หมายเรียกไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่ต้องกลัวจนขาดสติ

สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ต้องเข้าใจสิทธิของตัวเอง ดำเนินการตามกฎหมาย และเตรียมตัวให้พร้อม ไม่ว่าจะในฐานะพยานหรือผู้ต้องหา การมีข้อมูลที่ถูกต้องและมีทนายความช่วยเหลือ จะทำให้คุณสามารถรับมือกับหมายเรียกได้อย่างถูกต้องและปลอดภัยที่สุด