“มาตรา 45 หรือ มาตรา 45 อาญา คืออะไร?
“มาตรา 45 ” หรือ “มาตรา 45 อาญา” คือหนึ่งในมาตราของประมวลกฎหมายอาญา
ซึ่งบัญญัติไว้ว่า “เมื่อศาลพิพากษาให้ลงโทษผู้ใด และศาลเห็นสมควรเพื่อความปลอดภัยของประชาชน ไม่ว่าจะมีคำขอหรือไม่ ศาลอาจสั่งในคำพิพากษาว่าเมื่อผู้นั้นพ้นโทษตามคำพิพากษาแล้ว ห้ามมิให้ผู้นั้นเข้าในเขตกำหนดเป็นเวลาไม่เกินห้าปี”
3 ตัวอย่างจริงของการใช้ “มาตรา 45” หรือ “มาตรา 45 อาญา” ในประเทศไทย
1. คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1124/2534
โจทก์ฟ้องกล่าวเป็นประเด็นในคำฟ้องว่า จำเลยทั้งสองยึดรถของโจทก์ไว้โดยไม่มีสิทธิและอำนาจที่จะพึงกระทำได้ โจทก์ไม่ได้กล่าวในฟ้องว่าเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจกระทำการยึดรถไว้โดยไม่มีความจำเป็นที่ต้องกระทำ ข้อเท็จจริงตามฎีกาโจทก์ที่ว่าเจ้าพนักงานไม่มีความจำเป็นต้องยึดรถโจทก์ไว้ต่อไปแล้ว จึงเป็นข้อเท็จจริงที่โจทก์เพิ่งยกขึ้นมาอ้างในชั้นฎีกา ไม่ใช่ข้อที่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ศาลฎีกาไม่วินิจฉัยให้ โจทก์อ้างว่า ตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522มาตรา 160 วรรคแรก ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือนหรือปรับไม่เกินสองพันบาทหรือทั้งจำทั้งปรับคดีจะขาดอายุความในหนึ่งปีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 95(5) พนักงานเจ้าหน้าที่จึงมีอำนาจยึดรถไว้ถึงวันที่ 1 มกราคม 2527 เท่านั้น พ้นจากนั้นอำนาจในการยึดย่อมสิ้นสุดลง และจะต้องคืนรถทันที จำเลยทั้งสองไม่คืนให้เป็นการละเมิดโจทก์ ปรากฏว่าโจทก์ฟ้องคดีนี้วันที่ 19 ธันวาคม 2526ในวันดังกล่าวจำเลยทั้งสองยังมีอำนาจยึดรถของโจทก์ไว้ได้ตามพระราชบัญญัติ จราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 78 การกระทำของจำเลยทั้งสองจึงไม่เป็นละเมิด.
2. คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 222/2488
จำเลยเล่นการพะนันตามใบอนุญาตที่เจ้าพนักงานได้ออกให้ แต่ในใบอนุญาตเจ้าพนักงานกำหนดเวลาให้เล่นเกินอำนาจที่เจ้าพนักงานจะให้อนุญาตได้ตามกฎกระทรวง ถือว่า จำเลยได้เล่นโดยได้รับอนุญาตตามความใน พ.ร.บ.การพะนัน 2478 ม.12 แล้ว จำเลยไม่มีความผิด.
3. คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 113/2488
ซื้อกะทะไว้จากผู้เก็บตกได้โดยเปิดเผย และโดยสุจริต ไม่รู้ว่า เป็นของได้มาโดยผิดกฎหมาย ไม่มีผิดฐานรับของโจร.