“มาตรา 203 หรือ มาตรา 203 อาญา คืออะไร?
“มาตรา 203 ” หรือ “มาตรา 203 อาญา” คือหนึ่งในมาตราของประมวลกฎหมายอาญา
ซึ่งบัญญัติไว้ว่า “ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ปฏิบัติการให้เป็นไปตามคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาล ป้องกันหรือขัดขวางมิให้การเป็นไปตามคำพิพากษาหรือคำสั่งนั้น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
[อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา ๔ แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ๒๖) พ.ศ. ๒๕๖๐]”
3 ตัวอย่างจริงของการใช้ “มาตรา 203” หรือ “มาตรา 203 อาญา” ในประเทศไทย
1. คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 253/2503
จำเลยได้รับการแต่งตั้งให้ปฏิบัติงานในโรงงานสุราสังกัดกรมโรงงานอุตสาหกรรมตามระเบียบข้อบังคับของโรงงานสุราแม้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมจะเป็นผู้บรรจุแต่งตั้งก็ตาม ไม่ต้องผ่านการสอบคัดเลือก ไม่ต้องรับอนุมัติจาก ก.พ.การถอดถอนหรือให้ออกจากตำแหน่งเป็นไปตามข้อบังคับของโรงงานสุรา ไม่ต้องดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการ จำเลยได้รับเงินเดือนจากรายได้ของโรงงานสุราไม่ได้รับจากงบประมาณแผ่นดินเมื่อจะออกจากงานก็ไม่ได้รับบำเหน็จบำนาญตามกฎหมายว่าด้วยบำเหน็จบำนาญจำเลยทำงานอยู่ในโรงงานสุราโดยมีค่าจ้าง ฐานะของจำเลยเป็นเพียงลูกจ้างของโรงงานสุราเท่านั้น ถือว่า จำเลยไม่ใช่เจ้าพนักงานตามกฎหมาย
ฟ้องว่าจำเลยเป็นเจ้าพนักงานทุจริตต่อหน้าที่เมื่อได้ความตามทางพิจารณาในเบื้องต้นว่าจำเลยไม่ใช่เจ้าพนักงานตามกฎหมายและถ้าตามฟ้องก็ไม่อาจจะลงโทษจำเลยในความผิดฐานอื่นได้เช่นนี้ ศาลย่อมพิพากษายกฟ้องได้เลยทีเดียว ไม่จำเป็นที่จะให้สืบพยานที่เหลือกันต่อไปเพราะไม่เป็นประโยชน์แก่คดี
2. คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 682/2490
โจทก์บรรยายฟ้องว่าฯลฯ "จำเลยมีธนบัตรไว้ในครอบครอง ซึ่งจำเลยแล้วว่าเป็นธนบัตรปลอมและจำเลยใช้ธนบัตรปลอมรายชื่อนี้ชำระหนี้แก่ อ. เจ้าพนักงานจับธนบัตรใบละร้อยบาท 1 ฉบับได้ ชนิด 20 บาท 1 ฉบับได้" เป็นฟ้องที่สมบูรณ์ตาม ม. 158(5)แล้ว
3. คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 552/2485
การนำวัตถุอื่นอันเป็นโลหะธาตุที่เลวกว่าเงินมาทำปลอมสตางค์ชนิดที่เป็นเหรียญเงิน ไม่ใช่เป็นเรื่องที่เข้าอยู่ในบังคับแห่งกฎหมายอาญามาตรา 208.