“มาตรา 150 หรือ มาตรา 150 อาญา คืออะไร?
“มาตรา 150 ” หรือ “มาตรา 150 อาญา” คือหนึ่งในมาตราของประมวลกฎหมายอาญา
ซึ่งบัญญัติไว้ว่า “ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน กระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งโดยเห็นแก่ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด ซึ่งตนได้เรียก รับ หรือยอมจะรับไว้ก่อนที่ตนได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าพนักงานในตำแหน่งนั้น ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท
[อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา ๗ แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ๒๖) พ.ศ. ๒๕๖๐]”
อ่านบทความเพิ่มเติมเรื่อง "เจ้าพนักงาน" ได้ที่นี่ คลิกเลย !
ค้นหาคำปรึกษาจริง, บทความเพิ่มเติมเรื่อง "เจ้าพนักงาน " ได้ที่นี่ คลิกเลย !
3 ตัวอย่างจริงของการใช้ “มาตรา 150” หรือ “มาตรา 150 อาญา” ในประเทศไทย
1. คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3100/2532
การที่จะกล่าวอ้างว่าตนเป็นเจ้าพนักงานฆ่าผู้ตายเพราะเหตุจากการปฏิบัติราชการตามหน้าที่ หรือผู้ตายตายอยู่ในระหว่างการควบคุมของตน ซึ่งเป็นการปฏิบัติราชการตามหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 143 วรรคสามนั้นต้องได้กล่าวอ้างขึ้นในชั้นที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้กระทำความผิดเพื่อพนักงานสอบสวนจะได้เสนอสำนวนการสอบสวนความเห็นต่อพนักงานอัยการตามมาตรา 142 หรือต่ออธิบดีกรมอัยการ หรือผู้รักษาการแทนตามมาตรา 143 วรรคสามได้ถูกต้องเมื่อมิได้มีการกล่าวอ้างเช่นว่านั้น ในชั้นที่ถูกกล่าวหาแล้วการที่พนักงานสอบสวนดำเนินการสอบสวนเช่นคดีอาญาธรรมดารวมทั้งการที่พนักงานอัยการออกคำสั่งฟ้อง จึงเป็นการชอบด้วยกฎหมายแล้ว.
2. คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3100/2532
การที่จะกล่าวอ้างว่าตนเป็นเจ้าพนักงานฆ่าผู้ตายเพราะเหตุจากการปฏิบัติราชการตามหน้าที่ หรือผู้ตายตายอยู่ในระหว่างการควบคุมของตน ซึ่งเป็นการปฏิบัติราชการตามหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 143 วรรคสามนั้นต้องได้กล่าวอ้างขึ้นในชั้นที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้กระทำความผิดเพื่อพนักงานสอบสวนจะได้เสนอสำนวนการสอบสวนความเห็นต่อพนักงานอัยการตามมาตรา 142 หรือต่ออธิบดีกรมอัยการ หรือผู้รักษาการแทนตามมาตรา 143 วรรคสามได้ถูกต้องเมื่อมิได้มีการกล่าวอ้างเช่นว่านั้น ในชั้นที่ถูกกล่าวหาแล้วการที่พนักงานสอบสวนดำเนินการสอบสวนเช่นคดีอาญาธรรมดารวมทั้งการที่พนักงานอัยการออกคำสั่งฟ้อง จึงเป็นการชอบด้วยกฎหมายแล้ว
3. คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1219/2505
ความผิดฐานแสดงตนเป็นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 145 นั้น จะต้องปรากฎว่าผู้กระทำผิดได้แสดงตนเป็นเจ้าพนักงาน และกระทำการเป็นเจ้าพนักงานด้วย เพียงแต่แสดงตนเป็นเจ้าพนักงานแล้วก็ขึ้นเรือนปล้นทรัพย์ ยังไม่ครบองค์ความผิดมาตรานี้
คดีฟังได้ว่าจำเลย 3 คนกับพวกอีก 2 คนเป็นคนร้ายปล้นทรัพย์ และคนร้ายได้ใช้ปืนยิงในขณะที่จะหนีเพื่อปกปิดการกระทำความผิดหรือให้พ้นจากการจับกุม กระสุนปืนถูกบุตรีของเจ้าทรัพย์บาดเจ็บสาหัส จำเลยทั้งสามจะมีความผิดฐานพยายามฆ่า เมื่อไม่ได้ความว่าใครเป็นคนยิงและผู้ที่ไม่ได้ยิงได้ร่วมกระทำความผิดในการพยายามฆ่าด้วยหรือไม่ ย่อมลงโทษจำเลยตามมาตรานี้ไม่ได้