“มาตรา 142 หรือ มาตรา 142 อาญา คืออะไร?
“มาตรา 142 ” หรือ “มาตรา 142 อาญา” คือหนึ่งในมาตราของประมวลกฎหมายอาญา
ซึ่งบัญญัติไว้ว่า “ผู้ใดทำให้เสียหาย ทำลาย ซ่อนเร้น เอาไปเสีย หรือทำให้สูญหาย หรือไร้ประโยชน์ซึ่งทรัพย์สิน หรือเอกสารใด ๆ อันเจ้าพนักงานได้ยึด รักษาไว้ หรือสั่งให้ส่งเพื่อเป็นพยานหลักฐาน หรือเพื่อบังคับการให้เป็นไปตามกฎหมาย ไม่ว่าเจ้าพนักงานจะรักษาทรัพย์หรือเอกสารนั้นไว้เอง หรือสั่งให้ผู้นั้นหรือผู้อื่น ส่งหรือรักษาไว้ก็ตาม ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
[อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา ๔ แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ๒๖) พ.ศ. ๒๕๖๐]”
3 ตัวอย่างจริงของการใช้ “มาตรา 142” หรือ “มาตรา 142 อาญา” ในประเทศไทย
1. คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7504/2561
ความผิดตาม ป.อ. มาตรา 142 เป็นกรณีที่ผู้ใดทำให้เสียหาย ทำลาย ซ่อนเร้น เอาไปเสีย หรือทำให้สูญหาย หรือไร้ประโยชน์ซึ่งทรัพย์สิน หรือเอกสารใด ๆ อันเจ้าพนักงานได้ยึด รักษาไว้หรือสั่งให้ส่งเพื่อเป็นพยานหลักฐาน... ไม่ว่าเจ้าพนักงานจะรักษาทรัพย์หรือเอกสารนั้นไว้เอง... ต้องระวางโทษจำคุก... เป็นการกระทำความผิดต่อเจ้าพนักงานและรัฐเท่านั้นที่เป็นผู้เสียหาย กฎหมายมิได้บัญญัติถึงองค์ประกอบความผิดในส่วนที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้อื่นหรือประชาชนไว้ ดังนั้น บุคคลทั่วไปหรือประชาชนจึงไม่อาจเป็นผู้เสียหายในความผิดตาม ป.อ. มาตรา 142 ได้
2. คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 9567/2544
เจ้าพนักงานตำรวจผู้จับกุม ป. สั่งให้ ป. ส่งเมทแอมเฟตามีนที่ ป. ถืออยู่เพื่อเป็นพยานหลักฐาน การที่จำเลย นำถุงบรรจุเมทแอมเฟตามีนจากมือของ ป. หลบหนีไป เป็นการเอาไปเสียซึ่งเมทแอมเฟตามีนที่เจ้าพนักงานสั่งให้ ส่งเพื่อเป็นพยานหลักฐาน มีความผิดตาม ป.อ. มาตรา 142
3. คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3964/2532
การกระทำที่จะเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 184จะต้องเป็นการกระทำเพื่อจะช่วยผู้อื่นมิให้ต้องรับโทษหรือให้รับโทษน้อยลง การที่จำเลยซึ่งดำรงตำแหน่งป่าไม้อำเภอได้ร่วมกับพวกเผาไม้ท่อน 12 ท่อน ที่พนักงานสอบสวนได้ยึดและรักษาไว้เพื่อเป็นพยานหลักฐานในการกระทำความผิดตามกฎหมายว่าด้วยป่าไม้ โดยไม้ดังกล่าวมีดวงตราประจำตัวของจำเลยตีประทับที่หน้าตัดของไม้ทุกท่อน และกำลังอยู่ในระหว่างตรวจสอบว่าเป็นไม้ซึ่งได้ถูกตัดมาโดยถูกต้องตามขั้นตอนและระเบียบกฎหมายหรือไม่นั้น จำเลยกระทำไปด้วยเจตนาเพื่อช่วยตนเองให้พ้นจากความผิดที่ตนอาจได้รับ การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 184 แต่เป็นความผิดตามมาตรา 142