Q: กอดผู้หญิงในผับที่คิดว่าเป็นแฟนโดนเอาเรื่องอนาจาร

ผมกอดผู้หญิงแปลกหน้าจากข้างหลังโดนคิดว่าเค้าเป็นแฟน เค้าแจ้งตำรวจพร้อมจะเอาเรื่องผม โดยจริงๆผมไม่มีเจตนาใดๆทั้งสิ้น ขอโทษแล้วแต่เค้ายังยืนยันจะเอาเรื่องให้ที่สุด โดยขอหลักฐานกล้องวงจรปิดจากที่ผับแล้ว เราควรตอบโต้ยังไงดีครับ ถ้าเป็นเรื่องจริงๆ ผมไม่อยากติดคุก

เผยแพร่เมื่อ 2023-07-04

คำตอบจากทนาย (6)

A: หากเรื่องถึงพนักงานสอบสวน หรือชั้นศาล และเรายืนยันว่าเข้าใจผิดประกอบกับมีหลักฐาน (เช่นในวันนั้นแฟนไปด้วยเลยเข้าใจผิด บริเวณที่เกิดเหตุแสงสว่างน้อยทำให้เข้าใจผิดคิดง่าเป็นแฟนของตัวเอง) ก็ให้การไปตามข้อเท็จจริงของเราครับ

เผยแพร่เมื่อ: 2023-07-04

A: เขาสามารถฟ้องร้องเราได้ค่ะ แม้จะไม่เจตนา แต่คดีนี้สามารถยอมความได้ค่ะ สามารถเจราชดใช้ค่าเสียหายหรือค่าตกใจได้ค่ะ ขอให้ตกลงกันได้นะค่ะ

เผยแพร่เมื่อ: 2023-07-04

A: ถ้าตามข้อเท็จจริงนี้ไม่ผิดเพราะขาดเจตนา แต่ต้องพิสูจน์ให้ได้เช่น แฟนคุณไปเที่ยวด้วย รูปร่างหน้าตา การแต่งตัว เสื้อผ้า ของผู้เสียคล้ายกับแฟนคุณในวันนั้น ลำพังแค่คำพูดอย่างเดียวมันพิสูจน์ว่าไม่เจตนายากครับ

เผยแพร่เมื่อ: 2023-07-04

A: การกระทำความผิดฐานอนาจารจะต้องมีเจตนาที่จะกระทำผิดด้วย การที่เราคิดว่สเป็นแฟนตัวเองจริงไม่ครบองค์ประกอบของความผิด จึงไม่มีความผิด แต่การดำเนินคดีเราต้องมีพยานหลักฐานให้ตำรวจแล้วศาลเชื่อตามเราว่าเราไม่มีเจตนาจริงๆ หรือถ้าต้องการตัดปัญหาเราอาจจะต้องยอมรับและชำระค่าเสียหายตามสมควร ก็จะไม่ต้องโทษถึงกับติดคุกครับ หรือถ้าสงสัยสามารถปรึกษาเพิ่มเติมได้ครับ

เผยแพร่เมื่อ: 2023-07-04

A: หากคุณบริสุทธิ์ใจจริงๆ ก็จะต้องยกข้อต่อสู้ไปค่ะ ว่าไม่มีเจตนาใดๆ โดยอาจอ้างถึงพยานบุคคลหรือพยานหลักฐานอื่น เช่น กล้องวงจรปิด เป็นต้น เพื่อยืนยันว่าคุณมิได้มีเจตนากระทำการอนาจารหรือกระทำการอันเข้าข่ายอนาจาร พูดง่ายๆก็คือ เหตุการณ์ตอนนั้นเป็นอย่างไร เมื่อคุณกอดผู้หญิงคนนั้นแล้วเมื่อรู้ตัวว่าผู้หญิงคนนั้นมิใช่แฟนหรือภรรยาของคุณ คุณหยุดการกระทำนั้นโดยทันทีและมีการอธิบายหรือขอโทษหรือไม่ หรือรู้อยู่แล้วยังทำต่อ หรือมีการใช้กำลังกรณีมีการขัดขืนหรือไม่ ต้องพิจารณาจากพฤติการณ์ทั้งหมดค่ะ หากคุณไม่ได้เจตนาจริงก็แนะนำให้สู้ด้วยเหตุผลดังกล่าวค่ะ “มาตรา 278 ผู้ใดกระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่าสิบห้าปีโดยขู่เข็ญด้วยประการใด ๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยบุคคลนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ หรือโดยทำให้บุคคลนั้นเข้าใจผิดว่าตนเป็นบุคคลอื่น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสิบปี หรือปรับไม่เกินสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ” การกระทำต่อเนื้อตัวบุคคลที่ไม่สมควรทางเพศ รวมถึงการกระทำให้อับอายขายหน้าในทางเพศด้วย คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4836/2547 คำว่า “อนาจาร” มีความหมายว่าเป็นการกระทำต่อเนื้อตัวบุคคลที่ไม่สมควรทางเพศซึ่งมิได้หมายความเฉพาะการประเวณีหรือความใคร่เท่านั้น แต่รวมถึงการกระทำให้อับอายขายหน้าในทางเพศด้วย การที่จำเลยกอดเอวโจทก์ร่วม จับมือและดึงแขนโจทก์ร่วมเช่นนั้นจึงเป็นการกระทำอนาจารแก่โจทก์ร่วมโดยใช้กำลังประทุษร้าย เป็นความผิดตาม ป.อ. มาตรา 278 แม้บางตอนจำเลยจะได้กระทำขณะอยู่ในรถยนต์กระบะแต่การที่จำเลยจับมือและดึงแขนโจทก์ร่วมให้เข้าไปในห้องพักของโรงแรมขณะอยู่ต่อหน้าพนักงานโรงแรมเช่นนั้นเป็นการกระทำโดยเปิดเผยในที่ซึ่งอาจมีคนเห็นได้ แม้ไม่มีผู้ใดเห็นในขณะกระทำนั้นก็เป็นธารกำนัลแล้ว เพราะการกระทำต่อหน้าธารกำนัลมิได้หมายความเฉพาะแต่กระทำโดยประการที่ให้บุคคลอื่นได้เห็นโดยแท้จริงเท่านั้น เพียงแต่กระทำในลักษณะที่เปิดเผยให้บุคคลอื่นสามารถเห็นได้ก็เป็นต่อหน้าธารกำนัลแล้ว ดังนั้น เมื่อจำเลยกระทำอนาจารแก่โจทก์ร่วมโดยใช้กำลังประทุษร้ายต่อหน้าธารกำนัล จึงเป็นความผิดที่มิใช่ความผิดอันยอมความได้

เผยแพร่เมื่อ: 2023-07-04

A: จะมีความผิดจากข้อหาอนาจารครับ หากไม่อยากให้เรื่องถึงศาลคงต้องตกลงเรื่องค่าเสียหายแล้วให้ทางนั้นถอนแจ้งความ หากยังไม่สามารถตกลงกันได้ก็ต้องนำสืบว่าวันนั้นแฟนคุณแต่งตัวยังไงเพื่อบอกศาลว่าคิดว่าเป็นแฟนคุณ มีข้อต่อสู้ครับ ยินดีรับทำคดีนะครับ

เผยแพร่เมื่อ: 2023-07-04

คำถามที่คุณอาจสนใจ

Loading...
ทนายที่ให้คำปรึกษามากที่สุด
เดือน
ติดต่อเราทาง LINE