Q: เลื่อนนัดศาลคดีบัตรเครดิต

A: หากตกลงไม่ได้และเราไม่ได้ยื่นคำให้การต่อสู้คดีไว้ ศาลก็จะพิพากษาตามคำฟ้องของโจทก์ครับ แต่ทั้งนี้ศาลอาจปรับลดยอดให้ เฉพาะส่วนที่ศาลมองว่าเป็นเบี้ยปรับครับ

A: ครั้งที่ 2 โจทย์อาจจะไม่ให้เลือดแล้วนะครับ ส่วนท่านก็จะตัดสินตามต้นเงินแล้วตัดดอกเบี้ยบางส่วนครับ แนะนำให้ยื่นคำให้การต่อสู้คดีในกรณีหากเป็นการขายหนี้ให้กับบริษัท รับซื้อหนี้เสียครับ หรือให้ดูเรื่องอายุความในการชำระหนี้ครั้งสุดท้ายเป็นหลักครับ/#ทนายสิชัยต้นเปา_cnx

A: แนวทาง นี้ คือคำแนะนำ ย้ำว่า แนะนำนะนะครับ หากไกล่เดลี่ยังไม่ได้ ก็ต้องปล่อยให้ศาลมีคำพิพากษาไป ก่อน จากนั้น เมื่อถึงขั้นบังคับคดี ค่อยไกล่เกลี่ยกับเจ้าหนี้ จะทำง่ายกว่า เนื่องจาก คนที่มาฟ้องท่าน ส่วนใหญ่เป็นบริษัท รับทวงหนี้ ไม่มีอำนาจมากขนาดนั้น แต่พอคดีจบ เค้าก็จะส่งให้ เจ้าหนี้ ที่แท้จริง อีกครั้ง ตรงนั้นแหละที่เราขอไกล่เกลี่ยผ่อนได้ ครับ

A: คดีนี้เป็นคดีบัตรเครดิต อันเป็นคดีผู้บริโภค ซึ่งการฟ้องของโจทก์ในฐานะผู้ประกอบการ จ้อมจะต้องมีการคิดอัตราดอกเบี้ยซึ่งจะต้องเป็นไปตามกฎหมาย ถ้าเป็นสถาบันการเงินอันเป็นธนาคารพาณิชย์ การคิดดอกเบี้ยจะเป็นไปตามประกาศของธนาคารแห่งประเทศไทย และผู้เป็นโจทก์จะต้องคิดค่าใช้จ่ายในการทวงถามและค่าใช้จ่ายอื่นๆ แฝงเข้ามาในคำฟ้องเป็นปกติอยู่แล้ว ดังนั้นในการไปศาลในครั้งแรกเพื่อที่จะตกลงกันสามารถทำได้เป็นปกติ แต่เมื่อตกลงกันไม่ได้ในนัดครั้งแรกนั้น ก็สามารถมาเจรจาไกล่เกลี่ยหนี้กันในครั้งที่ 2 ได้ แนะนำให้ผู้ถามใช้บริการทนายความ เพื่อรักษาสิทธิ์ของตนในการเจรจา จะเป็นการดีที่สุด#ทนายเสกสรร#