Q: ทะเลาะวิวาทนักศึกษาต่างสถาบัน ระยะเวลาการดำเนินคดี

เมื่อเดือนตุลาคม ปี 2557 ได้มีเรื่องทะเลาะวิวาทนักศึกษาต่างสถาบัน ซึ่งผมมาเรียนคนเดียว แล้วถูกนักศึกษาต่างสถาบันเข้าทำร้าย 3 คนโดยมีอาวุธมีดเข้ามาขู่แทง และกระทืบทำร้ายผมบนรถเมย์ ซึ่งตอนนั้นมีวินมอเตอร์ไซค์หลายคนขึ้นมาช่วยผมนำส่ง รพ. ช่วงที่ผมกำลังเย็บแผล 3 คนที่ทำร้ายได้โดนตำรวจจราจรจับและนำตัวไปส่งโรงพัก พอผมเย็บแผลเสร็จมีตำรวจให้เข้าไปร่วมสอบสวนที่ สน.เดียวกัน ผมพบว่าทางคู่กรณีคนที่ 1 ได้แจ้งข้อกล่าวหาว่าผมว่าผมได้เริ่มทำร้ายเขาก่อนและได้ชักมีดไปฟันเขา และคู่กรณีที่ 2 และที่ 3 ตามมาเข้าทำร้ายผมเพราะว่าเห็นเพื่อนโดนทำร้าย ทั้งที่จริงผมไม่ได้กระทำอย่างที่คู่กรณีได้กล่าวหาเลย ผมจึงแจ้งว่า 3 คนนั้นได้เข้ามาทำร้ายผมพร้อมกัน และคู่กรณีที่ 1 ได้ชักมีดจะมาแทงที่หน้าอกและได้ขโมยแหวนสถาบันไป โดย ทั้งหมดได้รุมทำร้ายผม โดยที่ผมไม่ได้ต่อสู้อะไรเลย และผมไม่มีมีดตามที่เขาแจ้งมาเลย ทางพนักงานสอบสวนจึงเขียนสำนวนพร้อมกัน โดยผู้ต้องหาที่ 1 ,2 และ 3 คือคู่กรณี 1,2 และ3 ที่ได้กล่าวมา โดยตัวผมเป็นผู้ต้องหาที่ 4 ในสำนวนที่พนักงานสอบสวนได้พิมไปนั้น แต่ละผู้ต้องหาก็ได้เล่าเรื่องราวที่ผมได้กล่าวมาข้างต้น ต่างฝ่าย ต่างไม่ยอมความกัน (วัตถุพยานไม่พบ) ทางตำรวจจึงให้ไปพิมพ์ลายนิ้วมือทั้งหมด เพื่อส่งฟ้องกันที่ศาล (จึงเป็นที่มาผมมีคดีทำร้ายร่างกาย และจิตใจติดในรายชื่อ) ต่อมาเดือน พฤศจิกานยน ปี 2561 ผมได้ขึ้นศาลในฐานะพยาน และเป็นผู้เสียหาย โดยโจทย์คืออัยการพิเศษแขวง และจำเลยคือคู่กรณีทั้ง 3 คน โดยทั้ง 3 คนให้การยอมรับทั้งหมด และได้จ่ายค่าสินไหมมาให้ผมจำนวนหนึ่ง ศาลจึงพิพากษาตัดสินคดีเป็นอันสิ้นสุด โดยรอลงอาญา 2 ปี กับคู่กรณีทั้ง 3 คน ตรงนี้เองซึ่งในส่วนตัวผมแล้วไม่ทราบขั้นตอนต่างๆ ของตรงนี้ จึงคิดไปเองว่าคดีของผมนั้นได้จบสิ้นไปเรียบร้อยแล้ว ต่อมาเดือนตุลาคม ปี 2566 ผมได้สอบติดบรรจุเป็นพนักงานรัฐวิสาหกิจขององค์กรหนึ่ง ซึ่งให้ผมไปตรวจประวัติพิมพ์ลายนิ้วมือ ซึ่งให้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติส่งไห้กับทางองค์กรเอง และทางองค์กรได้พบว่าผมมีประวัติดคีทำร้ายร่างกาย และจิตใจ จึงให้ผมหาใบบริสุทธ์ ใบสิ้นสุดคดี หรือคำพิพากษาสิ้นสุด ซึ่งผมให้คำพิพากษาที่ผมเป็นผู้เสียหาย แต่ทางองค์กรบอกไม่มีชื่อของคุณเลย และผมมาทราบภายหลังว่าคดีของผมไม่มีอยู่ที่ศาล ผมจึงโทรไปสอบถามทางศาลอัยการแขวง และพบว่าทางอัยการได้ส่งสำนวนในคดีที่ผมเป็นผู้ถูกกล่าวหา ไปให้กับทาง สน. แก้ไขสำนวน ตั้งแต่ปี 2558 โดยมีเลขคดีอาญาแล้ว แต่ทาง สน. กลับไม่ได้แก้สำนวนเพิ่มเติมส่งให้อัยการ และพนักงานสอบสวนเจ้าของเรื่องได้ย้ายไปเปลี่ยนตำแหน่งไปที่อื่นแล้ว ผมจึงไปเร่งกับทาง สน. ขอให้รีบแก้ไขและส่งสำนวนให้อัยการให้เร็วที่สุด เพื่อจะได้จบคดีเร็วๆ แล้วจะได้รับส่งใบจบให้กับทางองค์กร (โดยผมยังไม่ทราบขั้นตอนการพิจารณาว่าต้องผ่านที่ไหนบ้างอย่างไร) ต่อมาวันที่ 1 พฤศจิกายน ปี 2566 ทาง สน. ได้แก้ไขสำนวนแล้วส่งให้กับอัยการพร้อมตัวผม (โดยผมเซ็นต์ยอมรับคำกล่าวหาทั้งหมด เพราะผมอยากให้เรื่องพิจารณาโดยเร็วที่สุด) ปัจจุบันวันที่ 27 พฤศจิกายน 2566 สำนวนที่ผมเป็นผู้ถูกกล่าวหาว่า ทำร้ายร่างกาย และจิตใจ อยู่ในการพิจารณาของอัยการศาลแขวงแล้ว ........ 1.ผมอยากทราบว่าผลคดีของผมจะออกไปในทางไหน เพราะทางองค์กรรัฐวิสาหกิจ ตั้งคุณสมบัติไว้ว่า ต้องมีคำพิพากษาสูงสุดว่าจำคุก (ปัจจุบันผมยังไม่ได้เข้าทำงานเพราะองค์กรรอเรื่องนี้ให้จบ 2.ระยะเวลาการดำเนินคดี และส่งให้อัยการนานมาก มีระเบียบตัวไหนที่พอช่วยเรื่องผมได้บ้างครับ (เรื่องเกิดปี 57 - ปี 66 ปัจจุบันอัยการกำลังพิจารณาสั่งฟ้อง หรือไม่สั่งฟ้อง)

เผยแพร่เมื่อ 2023-11-29

คำตอบจากทนาย (1)

A: 1. ผลคดีที่คาดการณ์ แม้คุณจะเซ็นยอมรับคำกล่าวหาทั้งหมด แต่ไม่ได้หมายความว่าศาลจะพิพากษาลงโทษจำคุกเสมอไป ศาลจะพิจารณาพยานหลักฐานต่างๆ ประกอบ เช่น พฤติการณ์แห่งคดี เหตุจูงใจ ความร้ายแรงของการกระทำ ผลที่เกิดขึ้น รวมถึงพฤติการณ์หลังเกิดเหตุ ในกรณีนี้ คุณเป็นผู้เสียหายที่ถูกทำร้ายร่างกายก่อน และคู่กรณีก็ได้รับโทษในส่วนของคดีที่พวกเขากระทำผิดต่อคุณไปแล้ว ประกอบกับระยะเวลาผ่านมานานกว่า 9 ปี ซึ่งแสดงให้เห็นว่าคุณไม่ได้มีพฤติการณ์ก่อเหตุร้ายแรงซ้ำ ศาลอาจพิจารณา รอการลงโทษ หรือ ยกฟ้อง ก็เป็นได้ 2. ระยะเวลาการดำเนินคดีที่ล่าช้า ระยะเวลาการดำเนินคดีนับตั้งแต่เกิดเหตุ (ปี 2557) จนถึงปัจจุบัน (ปี 2566) กินเวลานานกว่า 9 ปี ซึ่งถือว่าล่าช้ามาก โดยปกติแล้ว ระยะเวลาการสอบสวนไม่ควรเกิน 6 เดือน (ป.วิ.อ. มาตรา 132) เว้นแต่มีความจำเป็น สาเหตุแห่งความล่าช้าในกรณีนี้ เกิดจากพนักงานสอบสวนไม่ได้ดำเนินการแก้ไขสำนวนและส่งให้อัยการ ซึ่งถือเป็น การละเลยต่อหน้าที่ กฎหมายที่เกี่ยวข้อง ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา โดยเฉพาะบทบัญญัติว่าด้วยระยะเวลาการสอบสวน การส่งสำนวนให้อัยการ และอำนาจหน้าที่ของพนักงานสอบสวน พระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2547 ว่าด้วยวินัยและการลงโทษข้าราชการตำรวจ ระเบียบการดำเนินคดีอาญาของพนักงานอัยการ พ.ศ. 2563 โดยเฉพาะส่วนที่เกี่ยวกับระยะเวลาในการพิจารณาสั่งคดี

เผยแพร่เมื่อ: 2024-10-05

คำถามที่คุณอาจสนใจ

Loading...
ทนายที่ให้คำปรึกษามากที่สุด
เดือน
ติดต่อเราทาง LINE