Q: เป็นพนักงานส่งของเดินเข้ามาส่งของให้ลูกค้าในบ้าน เค้าขู่ฟ้องบุกรุก

เราเป็นพนักงานส่งของอิสระไม่ว่าจะเป็นอาหาร หรือ สิ่งของ เมื่อสัปดาห์ที่แล้วด้วยความที่เรากำลังรีบเนื่องจากตอนนั้นเป็นเวลามืดค่ำแล้ว เราต้องวิ่งให้ครบยอดที่เราตั้งไว้ต่อวัน พอเราไปถึงบ้านลูกค้าปรากฎว่าไม่มีคนรับสาย เนื่องจากความรีบของเรา เราเลยเดินเอาอาหารเข้าไปตั้งให้ลูกค้าบริเวณโรงรถ พอดีว่าลูกค้าเดินออกมาพอดี ( ลักษณะมึนเมาเล็กน้อย ) เค้าออกมาต่อว่าผมเลยมีการถกเถียงกันเล็กน้อยก่อนผมขอโทษและเดินออกมาจากบ้าน เค้าขู่ว่าเค้ามีสิทธิ์ฟ้องผมฐานที่ผมบุกรุกเข้าบ้านเค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต เรื่องจบโดยที่สุดท้ายเค้าไม่ได้เอาผิดอะไรผมนะ แต่ผมอยากสอบถามทนายทุกท่านเป็นแนวทางว่าเค้าสามารถเอาเรื่องผมได้จริงไหมทั้งๆที่ผมนั้นไม่ได้ตั้งใจใดๆเลย และถ้าผมโดนคดีนี้จริงๆผมจะต้องติดคุกไหมครับ

เผยแพร่เมื่อ 2023-07-03

คำตอบจากทนาย (9)

A: การส่งของให้ลูกค้าควรติดต่อลูกค้าค่ะ ไม่ควรเจ้าไปในย้านเขาโดยพลการ ไม่ว่าเราตะอ้างเหตุผลอะไร เจาาามารถฟ้องยุกรุกเราได้ โดยเฉพาะในเวลากลางคืนยิ่งไม่ควรเข้าไปโดยไม่ได้รับอนุญาต เพราะเขาอาจอ้างว่าป้องกันคัวหรือคิดว่าเราเป็นขโมยได้ค่ะ ดังนั้นไม่ควรอย่าวยิ่งค่ะที่จะเข้าไปส่งของในบ้านลูกค้าโดยไม่ได้รับอนุญาตค่ะ

เผยแพร่เมื่อ: 2023-07-03

A: ความผิดฐานบุกรุกต้องเป็นการเข้าไปในเคหสถาน(บ้านที่อยู่อาศัย)ของผู้อื่น โดยไม่มีเหตุอันสมควร หากเราเข้าไปมีส่งสินค้า ส่งอาหาร น่าจะถือว่ามีเหตุอันสมควรครับ ไม่เพียงพอที่จะรับฟังว่าเป็นการบุกรุก

เผยแพร่เมื่อ: 2023-07-03

A: ความผิดฐานบุกรุกเคหะสถาน ประมวลกฎหมายอาญาบัญญัติไว้ในมาตรา 364 ว่า "...ผู้ใดปราสจากเหตุอันสมควร(ขีดเส้นใต้) เข้าไปในเคหะสถาน อาคารเก็บสินค้า สำนักงานซึ่งอยู่ในความครอบครองของผู้อื่น หรือไม่ออกไปจากสถานที่นั้นเมื่อผู้มีสิทธิไล่ ได้ไล่ให้ออก..." จากตรงที่ผมขีดเส้นใต้ หมายความว่า หากเรามีเหตุอันสมควรเราก็สามารถเข้าไปได้ โดยจากข้อเท็จจริงที่ให้มา ผมว่าการเข้าไปส่งอาหารที่เจ้าของบ้านสั่ง(ต้องเข้าไปเพื่อส่งอาหารเท่านั้นนะ) เพราะเรียกแล้วไม่มีคนออกมารับ ถือเป็นเหตุอันสมควรที่สารถเข้าไปได้ กรณีแบบนี้ไม่มีความผิดฐานบุกรุกเคหะสถานนะครับ

เผยแพร่เมื่อ: 2023-07-03

A: ยังไม่เข้าข่ายบุกรุกค่ะ เค้าไม่สามารถจะฟ้องบุกรุกได้ เพราะจะบุกรุกต้องเข้าไปเพื่อมีเจตนาครอบครองหรือกระทำการรบกวนอสังหาริมทรัพย์นั้น แต่พี่ไรเดอร์ไม่ได้มีเจตนานั้นค่ะ ยังไม่ครบองค์ประกอบความผิดและมีเจตนาเพียงนำอาหารมาส่งเท่านั้น ขอแนะนำว่าหากเกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก อย่าไปเถียงหรือทะเลาะกับเค้าค่ะ อาจจะเกิดปากเสียง โมโห ทำร้ายร่างกายกัน ทำให้เกิดเป็นคดีอื่นแทนค่ะ จากที่ไม่ผิดฐานบุกรุก จะผิดฐานทะเลาะวิวาทหรือทำร้ายร่างกายค่ะ

เผยแพร่เมื่อ: 2023-07-03

A: ไม่ผิดฐานบุกรุกครับ เพราะขาดเจตนาทุจริต คือเราเข้าไปในบ้านเขา เพื่อไปส่งของ ถือได้ว่ามีเหตุอันควรในการเข้าไป แต่ตามกฎหมายเจ้าของบ้านสามารถฟ้องเราฐานบุกรุกได้ แล้วเมื่อเค้าฟ้องเราก็มีหน้าที่ต้องไปแถลงต่อศาลว่าเราไม่ได้มีเจตนาทุจริต ซึ่งจะก่อภาระให้กับเราโดยไม่จำเป็น ดังนั้น ขอแนะนำว่าอย่าเข้าไปในบ้านของลูกค้าดีที่สุดครับ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาดังกล่าว ขอให้มีความสุขกับการทำงานนะครับ

เผยแพร่เมื่อ: 2023-07-03

A: พฤติการณ์ของคุณเข้าข่ายบุกรุกอยู่พอสมควรนะครับ ถ้าเขาจะเอาเรื่องคุณจริงๆก็ทำได้ ขณะเดียวกันคุณก็สามารถต่อสู้ได้ว่าไม่มีเจตนา ซึ่งในที่สุดก็ต้องอยู่ที่ศาลว่าจะเชื่อพยานหลักฐานของฝ่ายใด ถ้าศาลเห็นว่าคุณผิดก็มีโทษถึงจำคุกครับ ทางที่ดีคราวหน้าคราวหลังก็ระวังหน่อย อย่าทำอะไรเสี่ยงๆ แบบนั้นอีก

เผยแพร่เมื่อ: 2023-07-03

A: ข้อหาบุกรุกต้องมีเจตนาครอบครองอสังหาริมทรัพย์ของผู้อื่น เช่น เข้าไปสร้างเพิงพักในที่คนอื่น หรือ เข้าไปทำการรบกวนการครองครองของเจ้าของทรัพย์ ตามที่เล่าแค่เอาอาหารไปวางยังไม่ผิดข้อหาบุกรุกครับ เพราะไม่ได้รบกวนการครอบครองใดๆ

เผยแพร่เมื่อ: 2023-07-03

A: ข้อหาความผิดฐานบุกรุก เป็นความผิดอันยอมความได้ แต่กรณีนี้เวลาเลย 6 โมงเย็น หรือตะวันตกดินแล้ว อาจเข้าข่ายบุกรุกในเวลากลางคืนโทษจะหนักขึ้น การที่เราไม่มีเจตนาเข้าไป ก็ไม่ควรที่จะเข้าไปโดยพละการ เจ้าของบ้านสามารถแจ้งความข้อหาบุกรุกได้ครับ ส่วนหากมีการแจ้งความดำเนินคดีจริง ก็ต้องไปต่อสู้กันที่ศาลครับ

เผยแพร่เมื่อ: 2023-07-03

A: ความผิดฐานบุกรุก จะต้องมีการกระทำด้วยเจตนา (ขาดเจตนา) เข้าไปในอสังหาริมทรัพย์ของผู้อื่นเพื่อถือการครอบครอง (ไม่ได้ยึดถือการครอบครองอะไร) การเข้าไปโรงจอดรถ(บางส่วน) หรือเข้าไปกระทำการรบกวนการครอบครอง (ไม่รบกวนอะไรเอาของกินไปให้กิน ถ้าการเอาหารไปให้กินถือว่าเป็นการรบกวนก็หนักแล้วครับ ) จึงไม่ผ่านหลักเกณฑ์ ข้อ 1 ข้อ 2 ข้อ 3 แต่เป็นพฤติการณ์น่าจะเป็นลักษณะการถือวิสาสะ เข้าไปโดยพลการมากกว่าครับ ถ้าเป็นกลางคืนยิ่งไม่ควรทำอาจทำให้เจ้าของบ้านเข้าใจ ผิดได้ ซึ่งการที่คุณขอโทษเขาก็ถือว่าถูกต้องแล้ว และสมควรทำไม่ควรโต้เถียงให้ปานปลาย เรื่องจะได้จบง่ายๆ ต่อไปจะได้ระมัดระวัง เจ้าของบ้านแต่ละคนใจดีไม่เหมือนกัน ทุกคนครับ

เผยแพร่เมื่อ: 2023-07-15

คำถามที่คุณอาจสนใจ

Loading...
ทนายที่ให้คำปรึกษามากที่สุด
เดือน
ติดต่อเราทาง LINE