Q: กู้ยืมเงินที่ต่างประเทศทำสัญญาระบุเป็นตราต่างประเทศ
เพื่อนยืมเงินที่ประเทศไต้หวัน มีทั้งการโอนเป็นเงินไทยเข้าบัญชีเพื่อนและบุคคลอื่นที่เพื่อนให้โอน และยืมเป็นเงินสด หลายครั้งทั้งแชทยืมและยืมด้วยวาจา และต่อมาได้ตกลงทำสัญญากู้เงินขึ้น โดยระบุจำนวนเงินกู้เป็นเงินไต้หวัน ผู้กู้ได้นำบัตรประชาชนตัวจริง สมุดบัญชีธนาคารไต้หวัน และเอทีเอ็ม ให้ผู้ใก้กู้ไว้เป็นหลักประกัน ต่อมาผู้กู้ขาดการติดต่อและหนี้กลับไทย คำถาม 1 สัญญาที่ทำขึ้นฟ้องร้องได้ไหม 2 ควรฟ้องตามแชทยืมหรือสัญญา เนื่องจากในแชทยอดเงินไม่ถึงยอดที่ยืมจริง ส่วนสัญญาทำขึ้นภายหลังแต่ลงวันที่ตามแชทที่ผู้กู้กู้เงินครั้งแรกโดยระบุยอดเป็นเงินไต้หวันเกินกว่าจำนวนจริงโดยรวม แต่ได้ลงลายมือชื่อต่อหน้าพยาน
คำตอบจากทนาย (2)
A: 1.สัญญากูยืมต้องมีข้อความในลักษณะที่อ่านแล้วเข้าใจว่า ผู้กู้ได้รับเงินแล้ว+จะให้คืน+ลงชื่อผู้ต้องรับผิดก็สามารถใช้บังคับกันได้ครับลองไปพิจารณาสัญญาของตัวเองดู 2.ถ้าจำเลยมีภูมิลำเนาอยู่ในประเทศไทยแม้สัญญาทำขึ้นที่ต่างประเทศก็สามารถฟ้องร้อง ณ. ภูมิลำเนาของจำเลยได้ 3.ฟ้องตามสัญญาเพราะการกู้ยืมกฏหมายไม่ได้กำหนดว่าต้องทำสัญญากันขณะกู้ยืม สามารถทำสัญญากันภายหลังได้แต่ต้องทำไว้ก่อนฟ้องคดีแต่จะนำสืบจำนวนเงินเกินกว่าที่กำหนดไว้ตามสัญญาไม่ได้ 4.ข้อตกลงระบุบจำนวนเงินเป็นเงินต่างประเทศสามารถใช้เป็นเงินไทยได้โดยคิดอัตราแลกเปลี่ยนในวันที่ใช้เงินครับ
A: 1. สามารถนำสัญญากู้ยืมที่ทำกันไว้ที่ไต้หวันมาฟ้องร้องบังคับคดีที่ศาลไทยได้ครับ 2. ควรฟ้องตามสัญญากู้ยืม โดยใช้บรรดาแชทข้อความโต้ตอบต่างๆ รวมถึงหลักฐานการโอนเงิน เป็นพยานหลักฐานประกอบในส่วนที่มาของการทำสัญญากู้และการส่งมอบเงิน / ส่วนประเด็นที่ว่าในแชทยอดไม่ถึงจำนวนเงินที่กู้ยืมตามสัญญากู้ หากผู้กู้ปฎิเสธก็สามารถนำพยานบุคคลมาสืบประกอบได้ว่ามีการส่งมอบเงินกันเป็นเงินสดส่วนหนึ่ง / ส่วนกรณีที่สัญญากู้ยืมได้ทำย้อนหลังไปในวันที่มีการกู้ยืมกันครั้งแรกทำให้มียอดเงินกู้ยืมในสัญญาเกินไปกว่าที่กู้ยืมกันไปในครั้งแรกนั้น ก็ไม่มีผลกับจำนวนเงินกู้แต่ย่างใด เพราะสาระสำคัญของการกู้ยืมเงินคือต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือลงชื่อผู้กู้เป็นสำคัญ และได้ส่งมอบเงินกู้ให้ผู้กู้จนครบถ้วนตามสัญญาแล้วเท่านั้น.
เดือน
ติดต่อเรา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันได้ที่
