Q: ถูกธนาคารทวงค่าส่วนต่างรถยนต์ หลังจากคืนรถยนต์ให้กับทางธนาคารแล้ว จำเป็นต้องยอมจ่ายหรือไม่ค่ะ

อดีตสามี ซึ่งยังไม่ได้เลิกกัน นำรถซึ่งเป็นชื่อดิฉัน และพึ่งรีไฟแนนมา จำนวนเงิน 290,000 บาท เอาไปใช้งาน โดยบอกว่าจะผ่อนรถทุกเดือน เดือนละ 5400.- บาท แต่ผ่อนไปได้ 2 งวด หลังจากนั้นก็ไม่ผ่อน ปล่อยค้างค่างวดไปจนถึง 4 งวด จนธนาคารได้ส่งหนังสือขอยกเลิกสัญญาและขอให้คืนรถยนต์มาที่บ้านดิฉัน ระหว่างนั้นดิฉันได้เลิกกับสามีเนื่องจากจับได้ว่าอดีตสามีมีชู้ ดิฉันไม่สามารถผ่อนรถต่อได้เอง และขับรถยนต์ไม่เป็นด้วย ดิฉันจึงตามทวงรถกับอดีตสามี เพื่อนัดคืนรถกับเจ้าหน้าที่ของธนาคาร วันนัดคืนรถ ดิฉัน กับเจ้าหน้าที่ ก็มีการตรวจเช็คสภาพรถ และเซ็นเอกสารคืนรถให้กับธนาคาร ต่อมาประมาณ 2 เดือน ธนาคารส่ง นส. แจ้งการนำรถไปขายถ่ายทอดตลาดโดยวิธีการประมูล โดยแจ้งวัน และเวลา สถานที่มาอย่างชัดเจน และราคาประมูลรถยนต์เริ่มต้น 130,000.- บาท ผ่านไป 2 อาทิตย์ เจ้าหน้าที่ธนาคารได้โทรมาแจ้งว่า รถของดิฉันถูกประมูลไปแล้ว ในราคา 130,000 บาท จึงขอให้ดิฉันจ่ายค่าส่วนต่างที่เหลือ จำนวน 150,000 บาท เพื่อปิดบัญชี โดยขอให้จ่ายภายในสิ้นเดือนนี้ คือภายใน 2 อาทิตย์นี้ค่ะ จึงอยากปรึกษาคุณทนายว่า เราจำเป็นต้องจ่ายตามราคาที่ธนาคารทวงมาไหมค่ะ..หรือเราสามารถต่อรองราคาให้ต่ำกว่านี้ได้ไหมค่ะ..หรือจะรอให้ฟ้องศาลเพื่อไกเกลี่ยในชั้นศาล หรือ ไม่จ่ายเลยได้ไหมค่ะ แต่ถ้าต้องจ่ายจริงดิฉันก็ไม่สามารถจ่ายได้ คงต้องไปกู้สหกรณ์มาปิดยอดรถค่ะ.. เพื่อนบอกว่าให้ดิฉันไปฟ้องอดีตสามี เพื่อเรียกร้องค่าส่วนต่างรถยนต์ แต่ดิฉันคิดว่า คงฟ้องไม่ได้เนื่องจากรถเป็นชื่อเรา และไม่ได้จดทะเบียนสมรสกันด้วยค่ะ ขอคำแนะนำจากคุณทนายหน่อยนะคะ..ตอนนี้เครียดมากเลยค่ะ..ขอบคุณค่ะ

เผยแพร่เมื่อ 2023-10-17

คำตอบจากทนาย (1)

A: 1.คุณเป็นฝ่ายผิดสัญญาแล้วเจ้าหนี้ได้บอกเลิกสัญญาโดยชอบแล้วเจ้าหนี้มีสิทธิเรียกค่าเสื่อมราคาได้(ค่าส่วนต่าง) แต่ต้องคิดจากราคารถในขณะที่เจ้าหนี้ขายทอดตลาดจะคิดจากยอดหนี้ตามสัญญาเดิมไม่ได้ 2.สามารถไกล่เกลี่ยขอลดได้ 3.หรืออาจรอให้เจ้าหนี้ฟ้องและไปคุยกันที่ศาลให้ศาลช่วยเป็นตัวกลางในการไกล่เกลี่ยได้ 4.ข้อตกลงที่ให้สามีไปผ่อนรถต่อเป็นสัญญาโอนสิทธิการเช่าแม้ไม่ได้มีการดำเนินการให้ถูกต้องก็สามารถใช้บังคับกันได้ระหว่างคุณกับสามีซึ่งเป้นคู่สัญญาเมื่อสามีไม่ทำตามที่ตกลงเท่ากับผิดสัญญาสามารถฟ้องสามีเรียกค่าเสียหายที่เกิดขึ้นได้ 5.ไม่ต้องไปกู้มาเพิ่มหากไม่มีก็ปลอยให้เจ้าหนี้ตามยึดทรัพย์ไปเพราะก็มีค่าเท่าเดิมในเมื่อคุณไม่มีอยู่แล้วจะไปทำให้เรื่องมันยุ่งขึ้นไปอีกทำไม 6.คดีพวกนี้เป็นคดีเกี่ยวกับทรัพย์สินคุณไม่ได้ไปฆ่าใครตายอย่างมากก็แค่โดนยึดทรัพย์ไม่ตายก็หาไม่ได้ครับไม่ต้องไปกังวนขนาดนั้น

เผยแพร่เมื่อ: 2023-10-18

คำถามที่คุณอาจสนใจ

Loading...
ทนายที่ให้คำปรึกษามากที่สุด
เดือน
ติดต่อเราทาง LINE