Q: หมาโดนรถเหยียบสามารถเรียกร้องอะไรได้บ้าง
โมโนถูกรถเหยียบขณะที่แม่พาออกมาฉี่และเดินเล่นช่วงเย็น วันที่ 16 กันยายน2566 ช่วงเวลาประมาณ 16.08 น. แม่ได้พาหมาออกไปอึฉี่ตามปกติของทุกวัน โดยแม่ได้ขับรถตามดู ไม่ ได้ปล่อยออกไปโดยภาระการณ์ ขณะที่แม่ ขับถึงปากซอยฝั่งซอยบ้านตนเอง แม่ได้เห็นกับตา ว่ามีรถเก๋ง คันนึง ขับมาโดยไม่ระมัดระวัง ขณะที่หมาของดิฉันได้วิ่งมาก่อนที่ รถยนต์คันนี้จะขับมาเหยียบ ซึ่ง เป็นพยานและผู้อยู่ในเหตุการณ์ พฤติการณ์ของผู้ขับรถยนต์ ไม่ได้ให้การระมัดระวังแต่อย่างใด เพราะแม่ ของข้าพเจ้าได้พบเห็นกับตาว่า ผู้ขับรถได้ขับรถเหยียบ ล้อหน้า แล้วยัง ขับต่อ ได้มีการเหยียบซ้ำ เป็นรอบที่สองโดยล้อหลัง และได้มีการขับต่อ ไปยังซอย 4 ซึ่งเหตุเกิดอยู่หน้าซอย 7 คือซอยบ้านของข้าพเจ้าเอง ขณะนั้นแม่ของข้าพเจ้าพบเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดจึงได้รีบจอดรถและวิ่ง ไปอุ้มหมาขึ้นหมาแต่หมาได้ชักและตายคาที่ หลังจากที่ถูกรถเหยียบ แล้ว แม่ข้าพเจ้าได้ยืนอุ้มหมา และชี้ให้รถเก๋งคันนั้น กลับมา เขาจึงกลับ มา ซึ่ง พฤติกรรมการขับรถไปต่อจนถึง ซอยที่ 4 เป็นพฤติกรรมที่มีเจตนา ตั้งใจที่จะหลบหนี เพราะ หลังจากที่กลับมาแล้ว ผู้ขับรถได้อ้างว่า ตอน แรกเข้าใจว่าตกหลุม อ้างว่ามองไม่เห็น และหมาตัวนี้มีน้ำ หนัก ประมาณ5-6กิโลกรัม ซึ่งเป็นชิวาว่ายัก จะอ้างว่าไม่เห็น คือเรื่องที่แปลก เพราะไม่ใช่ ชิวาว่าจิ๋วหมาตัวเท่ามือที่หนัก 1-2-3 โล และด้วย ระยะ เวลา เป็นช่วง เย็นที่ คนในชุมชน ได้มีการเดิน ออกกำ ลังกายบ้าง คนใน ชุมชนออกมาหากินหรือขับรถไปตลาดเป็นเวลานี้ ประจำ ผู้ขับรถควร หยุดรถหรือชะลอ เพื่อดูรถหรือทุกอย่างตรงทางแยกก่อน และแฟนผู้ขับ รถได้อ้างว่าคิดว่าขับรถตกหลุมแต่แรงนะ อันนี้คือแฟนของผู้ขับได้กล่าว อ้างกับข้าพเจ้าหลังเกิดเหตุ ในวันถัดมา คือวันที่ 17ซึ่ง เป็นทางที่ตนเองสัญจรไปมาและผ่านตลอด คงทราบดีว่า ตรงนี้ไม่ ได้มีหลุมที่ใหญ่ จนทำ ให้เกิดแรฃกระแทกแรง ในขณะที่เกิดเหตุเหยียบ สุนัขของข้าพเจ้า ได้มีการผิดปกติคือ ในตังรถกระแทกแรง แต่ยังชะล่า ใจและปล่อยผ่าน ไม่สังเกตุถึงความผิดปกติว่า ทำ เหยียบอะไรหรือไม่ ระวังอย่างไร แสดงให้เห็นถึงความประมาทและมีเจตนาที่จะหนีมากๆ ถ้าหาก ไม่ได้ตั้งใจจริงควรจะจอดและลงมาดู เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ และแสดงความรับผิดชอบ ไม่ใช้พอแม่ข้าพเจ้าใายืนอุ้มหมาและตะโกน ร้องเรียกอยู่กลางถนน จึงค่อยกลับมา ซึ่งข้าพเจ้า นางสาวอภิญญา มหา ธรรม และครอบครัว เป็นผู้เสียหายในเหตุนี้ ข้าพเจ้า เสียทรัพย์ ซึ่งเป็น สุนัขที่ข้าพเจ้า รักมากๆ และมีผลต่อจิตใจของข้าพเจ้ามากๆ โดย ข้าพเจ้าป่วยเป็นซึมเศร้า มีภาวะเครียดวิตกกังวัล นอนหลับยากต้องพึ่ง ยานอนหลับ และมีสุนัขเป็นเพื่อนในแต่ละวัน และต้องได้นอนกับสุนัข ของข้าพเจ้าทุกคืน ข้าพเจ้า ถึงจะรู้สึกสงบและอุ่นใจ เหตุนี้ทำ ให้ตัวข้าพเจ้าเองได้รับผลกระทบต่อจิตใจ เป็นอย่างมาก ข้าพเจ้าได้ร้องไห้เสียใจและนอนไม่หลับ คิดถึงสุนัขตัวโปรดของ ข้าพเจ้าทุกวัน ข้าพเจ้า ได้ไปคุยกับผู้ที่ขับรถเหยียบสุนัขของข้าพเจ้า แล้วแต่เหมือนเขาตะเถียงและขึ้นเสียงตะคอกใส่ข้าพเจ้าโดยมั่นใจและ แสดงออกมาเหมือนไม่อยากรับผิดชอบใดๆ ในความเสียหายที่เกิดขึ้น ในครั้งนี้แถมยังได้มีการพูดใส่ร้ายให้หมาของข้าพเจ้าอีกด้วยว่า หมาตัว นี้ของข้าพเจ้าชอบเห่าไล่กัดคน ซึ่งไม่ใช่ความจริง เพราะหมาตัวนี้ของ ข้าพเจ้าชื่อโมโนไม่เคยกัดคน มีแต่ วิ่งและร่าเริง เป็นมิตร นั่งสวัสดี ติด เจ้าของ เก่าคุย เป็นการตอบรับ สื่อสารปกติ ตามประสาหมา ที่ค่อนข้าง รู้จักความมากๆ ไม่เคยกัดคนแต่อย่างใด เพราะข้าพเจ้ามีคลิปและ หลักฐานที่ได้พาหมาไปวิ่งเล่นเดินที่หนองประจักษ์หรือที่คนพลุกพล่าน สุนัขของข้าพเจ้า เป็นหมาอารมณ์ดีและไม่เคยกัดหรือไล่คน ตามที่ คู่กรณีกล่าวหาว่าให้สุนัขของข้าพเจ้าข้าพเจ้าจึงจะมาขอแจ้งความร้องทุกข์ เพื่อนำ เอกสารไปประกอบในการ ขอภาพกล้องวงจรปิดจากเทศบาล เพื่อนำ ไปเป็นพยานหลักฐานว่าหมา ข้าพเจ้าได้วิ่งมาถึงก่อนที่รถจะขับมาถึง เพื่อเรียกร้อง ค่าสินไหมทดแทน เพื่อเป็นการเยียวยา จิตใจของข้าพเจ้า และค่า เลี้ยงดูของสุนัขที่ข้าพเจ้า รักและเสียใจเป็นอย่างมาก ซึ่งรถที่เหยียบหมาข้าพเจ้า ได้ขับมาอย่างประมาทโดยไม่ชะลอความเร็วเลยเมื่อถึงทางแยกในเขตชุมชนช้าพเจ้าได้มีคลิปกล้องวงจรปิดเห็นได้ชัดเจน
คำตอบจากทนาย (1)
A: กรณีนี้หากคุณพิสูจน์ได้ว่าคนขับรถโดยประมาทจนมาเหยียบสุนัขของคุณจริง โดยแม่ของคุณได้ดูแลสุนัขอย่างดี ใช้ความระมัดระวังตอนพาเดินออกไปข้างนอกแล้ว คนขับรถจะเป็นคนทำละเมิดจนทำให้ทรัพย์สินของคุณเสียหาย คุณสามารถเรียกค่าสินไหมทดแทน เช่น ราคาสุนัขได้ค่ะ แต่ในส่วนที่คุณบอกว่าต้องเสียใจมากจากการที่ต้องเสียสุนัขไป ส่วนนี้ไม่สามารถเรียกค่าเสียหายอย่างค่าเสียใจ/นอนไม่หลับ ไม่ได้นะคะ เพราะกฎหมายไม่ได้เปิดช่องไว้ค่ะ
เดือน