Q: ค้ำประกันแล้วได้รับจดหมายแจ้งจากทนายให้ผู้กู้และผู้ค้ำชำระเงินต้องทำอย่างไร

A: เรื่องถึงไหนแล้ว มีหนังสือจากบังคับคดีมายังครับ ถ้ามีหนังสือจากบังคับคดีมาก็ต้องคุยกับเขาก่อน

A: กรณีนี้ "แม่" ซึ่งเป็นคู่สมรสของ "พ่อ" ไม่ได้ให้ความยินยอมให้ "พ่อ" ค้ำประกันหนี้ แต่ "พ่อ" กลับเซ็นเอกสารค้ำประกันแทน "แม่" การกระทำเช่นนี้เข้าข่ายเป็นการค้ำประกันโดยไม่ได้รับความยินยอมจากคู่สมรส ทำให้สัญญาค้ำประกันเป็นโมฆียะได้ ฎีกาที่เป็นประโยชน์: ฎีกาที่ 725/2517, ฎีกาที่ 642/2520 ข้อควรพิจารณา: "แม่" สามารถยกประเด็นสัญญาค้ำประกันเป็นโมฆียะขึ้นต่อสู้ เพื่อให้พ้นจากความรับผิดในฐานะผู้ค้ำประกันได้ 2. การปรับลดอัตราการชำระหนี้โดยไม่แจ้งผู้ค้ำประกัน ความหมาย: ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 683 การเปลี่ยนแปลงแก้ไขสัญญาระหว่างเจ้าหนี้กับลูกหนี้ อาจมีผลให้ผู้ค้ำประกันหลุดพ้นจากความรับผิดได้ หากการเปลี่ยนแปลงนั้นเป็นการเพิ่มภาระหรือทำให้สิทธิของผู้ค้ำประกันเสียเปรียบไป วิเคราะห์: กรณีนี้ "เพื่อนพ่อ" ไปติดต่อธนาคารเพื่อปรับลดอัตราการชำระหนี้โดย "พ่อ" ซึ่งเป็นผู้ค้ำประกันไม่ทราบ การกระทำดังกล่าวอาจถือเป็นการเปลี่ยนแปลงแก้ไขสัญญา ซึ่งอาจมีผลให้ "พ่อ" หลุดพ้นจากความรับผิดในฐานะผู้ค้ำประกันได้ ฎีกาที่เป็นประโยชน์: ฎีกาที่ 376/2500, ฎีกาที่ 1165/2501 ข้อควรพิจารณา: ต้องพิจารณาว่าการปรับลดอัตราการชำระหนี้นั้น มีผลเป็นการเพิ่มภาระหรือทำให้สิทธิของ "พ่อ" เสียเปรียบไปหรือไม่ หากใช่ "พ่อ" อาจหลุดพ้นจากความรับผิดได้ 3. การโอนทรัพย์สินก่อนได้รับจดหมายทวงถาม ความหมาย: ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 239 การโอนทรัพย์สินโดยเจตนาที่จะฉ้อโกงเจ้าหนี้ เป็นโมฆียะ เจ้าหนี้สามารถฟ้องร้องขอให้เพิกถอนนิติกรรมนั้นได้ วิเคราะห์: กรณีนี้ "พ่อ" มีการโอนที่ดินให้น้องก่อนได้รับจดหมายจากทนายความ แต่ระหว่างนั้นได้รับจดหมายแจ้งจากธนาคารบ่อยครั้งว่าผู้กู้ไม่ชำระหนี้ จึงอาจเข้าข่ายเป็นการโอนทรัพย์สินโดยเจตนาที่จะฉ้อโกงเจ้าหนี้ ทำให้การโอนที่ดินเป็นโมฆียะได้ ฎีกาที่เสียประโยชน์: ฎีกาที่ 1225/2502, ฎีกาที่ 3610/2537 ข้อควรพิจารณา: ต้องพิจารณาเจตนาของ "พ่อ" ในการโอนที่ดิน หากมีเจตนาที่จะฉ้อโกงเจ้าหนี้ การโอนที่ดินจะเป็นโมฆียะ แต่หาก "พ่อ" สามารถพิสูจน์ได้ว่าไม่มีเจตนาเช่นนั้น การโอนที่ดินก็จะสมบูรณ์