สารบัญ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 999/2531

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 999/2531

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม. 113, 224, 407, 654 พระราชบัญญัติห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา พ.ศ.2475

โจทก์คิดดอกเบี้ยร้อยละ 60 ต่อปีซึ่งเกินอัตราดอกเบี้ยตามป.พ.พ. มาตรา 654 และเป็นความผิดต่อ พ.ร.บ. ห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา ฯ ข้อตกลงเรื่องดอกเบี้ยเป็นโมฆะ จำเลยไม่มีสิทธินำเงินดอกเบี้ยที่ชำระเกินไปหักเงินต้นให้ลดน้อยลงได้ตาม ป.พ.พ. มาตรา 407

การจำนองมิได้กำหนดระยะเวลาไว้ เมื่อโจทก์บอกกล่าวบังคับจำนองแล้ว โจทก์ย่อมมีอำนาจฟ้อง และมีสิทธิคิดดอกเบี้ยได้ตั้งแต่วันที่จำเลยผิดนัดในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีตาม ป.พ.พ. มาตรา 224.

เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องให้จำเลยชำระหนี้ตามสัญญาจำนองพร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 15 ต่อปี ในต้นเงิน 50,000 บาท นับแต่วันทำสัญญาจนกว่าจะชำระเงินให้โจทก์เสร็จ หากไม่ชำระให้บังคับจำนองยึดที่ดินที่จำนองขายทอดตลาดชำระหนี้แก่โจทก์

จำเลยให้การว่าได้กู้เงินโจทก์จำนวน 50,000 บาท ตกลงให้ดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี และชำระดอกเบี้ยให้โจทก์แล้ว 7,500บาท แต่เกิดโต้เถียงกัน จำเลยจึงชำระหนี้ให้โจทก์โดยโจทก์ออกใบรับเงินให้และนัดจดทะเบียนไถ่ถอนจำนองกัน แต่จำเลยทำใบรับเงินหายโจทก์จึงมาฟ้องคดีนี้ โจทก์ไม่เคยบอกกล่าวบังคับจำนอง สัญญาจำนองไม่มีกำหนดเวลาชำระหนี้ โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงินตามฟ้องให้โจทก์พร้อมด้วยดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปีนับแต่วันทำสัญญาจนกว่าจะชำระเสร็จให้แก่โจทก์ถ้าจำเลยไม่ชำระให้เอาทรัพย์จำนองออกขายทอดตลาดเอาเงินใช้หนี้ให้โจทก์

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยยังไม่ชำระเงินต้นให้โจทก์แต่ชำระดอกเบี้ยให้โจทก์แล้วเดือนละ 2,500 บาท รวม 2 เดือนแล้ววินิจฉัยว่าโจทก์คิดดอกเบี้ยร้อยละ 5 ต่อเดือนหรือร้อยละ20 ต่อปี ซึ่งเกินอัตราดอกเบี้ยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 654 และเป็นความผิดต่อพระราชบัญญัติห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา พ.ศ. 2475 ข้อตกลงเรื่องดอกเบี้ยย่อมเป็นโมฆะจำเลยไม่มีสิทธินำเงินที่ชำระเกินไปจากอัตราสูงสุดตามกฎหมายไปหักเงินต้นให้ลดน้อยไปได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 407 การจำนองรายนี้โจทก์จึงไม่มีสิทธิคิดดอกเบี้ยจากจำเลย เมื่อการจำนองรายนี้ไม่ได้กำหนดระยะเวลาไว้และในการฟ้องบังคับจำนองคดีนี้โจทก์ได้บอกกล่าวบังคับจำนองแล้ว โจทก์จึงมีอำนาจฟ้อง และจำเลยต้องชำระหนี้จำนองแก่โจทก์ ศาลล่างทั้งสองวินิจฉัยประเด็นนี้ชอบแล้ว แต่การคิดดอกเบี้ยให้นับแต่วันทำสัญญากู้เป็นการไม่ชอบเพราะฝ่าฝืนกฎหมายดังกล่าวแล้ว อย่างไรก็ตามโจทก์บอกกล่าวบังคับจำนองให้จำเลยชำระหนี้ภายในวันที่ 15 มิถุนายน 2527 จำเลยผิดนัดไม่ชำระหนี้ โจทก์จึงมีสิทธิคิดดอกเบี้ยได้ตั้งแต่วันดังกล่าวในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 224

พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยชำระเงิน 50,000 บาทพร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีในต้นเงินดังกล่าวนับแต่วันที่ 15 มิถุนายน 2527 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์นอกจากที่แก้คงเป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ส่วนค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาเห็นควรเป็นพับ.

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา nan

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ชื่อคู่ความ โจทก์ - นางสาว พวงเพชร กีรติมหาตย์ จำเลย - นาย สม พงษ์ พัฒนาวิศิษฎ์

ชื่อองค์คณะ ไมตรี กลั่นนุรักษ์ วิฑูรย์ ตั้งตรงจิตต์ เฉลิม การปลื้มจิตต์

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ตัดสิน nan

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th
ติดต่อเราทาง LINE