สารบัญ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 9782/2539

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 9782/2539

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม. 205, 900 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ม. 84, 142

โจทก์ไม่ปฎิบัติตามสัญญาโดยโจทก์มิได้ตรวจซ่อมระบบแอร์และการปรับอากาศให้สมบูรณ์ตามที่กำหนดไว้ในสัญญาเมื่อเช็คพิพาทเป็นเช็คที่จำเลยสั่งจ่ายเพื่อชำระหนี้ตามสัญญาดังกล่าวและโจทก์เป็นฝ่ายผิดสัญญาจำเลยจึงมีสิทธิไม่ชำระหนี้ให้โจทก์โดยมีคำสั่งว่าให้ธนาคารระงับการจ่ายเงินตามเช็คพิพาทได้ เมื่อศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงว่าระบบแอร์และการปรับอากาศไม่สมบูรณ์มีข้อบกพร่องเนื่องจากการติดตั้งของโจทก์และโจทก์ไม่ได้ซ่อมแซมให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ก่อนกำหนดตามสัญญาเช่นนี้ถือได้ว่าจำเลยได้นำสืบหักล้างข้อสันนิษฐานของประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา900และประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความมาตรา84แล้วเห็นว่าจำเลยมีสิทธิไม่ชำระหนี้ตามเช็คพิพาทศาลอุทธรณ์จึงฟังข้อเท็จจริงไม่ผิดจากพยานหลักฐานในสำนวนและวินิจฉัยพยานหลักฐานตรงตามประเด็นตรงตามภาระการพิสูจน์และหน้าที่นำสืบของจำเลยตามกฎหมายแล้ว

เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อประมาณต้นเดือนตุลาคม 2535 จำเลยสั่งจ่ายเช็คธนาคารกรุงเทพ จำกัด สาขาถนนพระรามที่ 9 ลงวันที่31 ตุลาคม 2535 จำนวนเงิน 301,720 บาท ชำระหนี้ค่าเครื่องปรับอากาศพร้อมอุปกรณ์แก่โจทก์ เมื่อเช็คถึงกำหนดชำระโจทก์เรียกเก็บเงินตามเช็คไม่ได้ โดยธนาคารตามเช็คปฎิเสธการจ่ายเงินเมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2535 จำเลยมีหน้าที่ชำระเงินตามเช็คแก่โจทก์พร้อมด้วยดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินถึงวันฟ้องเป็นเงินค่าดอกเบี้ย 22,620บาท ขอให้บังคับจำเลยชำระเงินจำนวน 324,340 บาท และดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงิน 301,320 บาท นับแต่วันถัดจากวันฟ้องถึงวันชำระเสร็จแก่โจทก์

จำเลยให้การและฟ้องแย้งว่า จำเลยสั่งจ่ายเช็คพิพาทแต่สั่งจ่ายโดยมีเงื่อนไขว่า โจทก์ต้องแก้ไขซ่อมเครื่องปรับอากาศและระบบการติดตั้งซึ่งจำเลยซื้อจากโจทก์ให้เรียบร้อยก่อนวันที่ 15 ตุลาคม 2535 โจทก์ปฎิบัติผิดสัญญาที่ตกลงกันไว้จำเลยจึงมีคำสั่งระงับการจ่ายเงินตามเช็คดังกล่าว การที่โจทก์ไม่ปฎิบัติตามสัญญาทำให้เกิดความเสียหายแก่จำเลยหลายรายการรวมเป็นเงินค่าเสียหายทั้งสิ้น 510,000 บาท ซึ่งโจทก์มีหน้าที่ต้องชำระเงินจำนวนดังกล่าวแก่จำเลยพร้อมด้วยดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันที่ 15 ตุลาคม 2535 จนถึงวันชำระเสร็จ ขอให้ยกฟ้องและบังคับให้โจทก์ชำระเงิน 510,000 บาทพร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันที่ 15 ตุลาคม2535 จนกว่าจะชำระเสร็จแก่จำเลย

โจทก์ให้การแก้ฟ้องแย้งว่า จำเลยสั่งจ่ายเช็คพิพาทให้โจทก์เพื่อชำระหนี้ค่าซื้อขายและติดตั้งเครื่องปรับอากาศซึ่งโจทก์ได้ส่งมอบให้จำเลยตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม 2535 จำเลยรับไว้โดยไม่โต้แย้งคัดค้าน ต่อมาจำเลยแจ้งให้โจทก์ทราบถึงส่วนที่ต้องซ่อมบางรายการ โจทก์จัดการซ่อมให้เสร็จเรียบร้อยก่อนวันที่ 15 ตุลาคม 2535 จำเลยฟ้องแย้งเกินกว่า 1 ปี แล้วคดีของจำเลยขาดอายุความ ขอให้ยกฟ้องแย้ง

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงิน 301,720 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับตั้งแต่วันที่ 2 พฤศจิกายน2535 จนถึงวันที่ชำระเสร็จแก่โจทก์ แต่ดอกเบี้ยคำนวณถึงวันฟ้องต้องไม่เกิน 22,620 บาท ให้ยกฟ้องแย้ง

จำเลย อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ พิพากษากลับ ให้ยก ฟ้อง

โจทก์ ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า โจทก์ฎีกาว่า จำเลยนำสืบไม่ได้ว่าโจทก์ไม่ปฎิบัติตามสัญญาทำให้จำเลยเสียหายต้องชำระหนี้ตามเช็คพิพาทให้โจทก์ ข้อนี้ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อเท็จจริงฟังได้ตามที่จำเลยนำสืบว่า โจทก์ไม่ปฎิบัติตามสัญญาโดยโจทก์มิได้ตรวจซ่อมระบบแอร์และการปรับอากาศให้สมบูรณ์ตามที่กำหนดไว้ในเอกสารหมายจ.2 ข้อ 2 เมื่อเช็คพิพาทเป็นเช็คที่จำเลยสั่งจ่ายเพื่อชำระหนี้ตามเอกสารดังกล่าว และโจทก์เป็นฝ่ายผิดสัญญา จำเลยจึงมีสิทธิไม่ชำระหนี้ให้โจทก์โดยมีคำสั่งว่าให้ธนาคารระงับการจ่ายเงินตามเช็คพิพาทได้

ที่โจทก์ฎีกาต่อไปว่า ศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงผิดจากพยานหลักฐานในสำนวน วินิจฉัยพยานหลักฐานไม่ตรงตามประเด็น ไม่ตรงตามภาระการพิสูจน์และหน้าที่นำสืบของจำเลยตามกฎหมายนั้น เห็นว่าเมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าระบบแอร์และการปรับอากาศไม่สมบูรณ์มีข้อบกพร่องเนื่องจากการติดตั้งของโจทก์และโจทก์ไม่ได้ซ่อมแซมให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ก่อนกำหนดตามเอกสารหมาย ล.2 จำเลยได้นำสืบหักล้างข้อสันนิษฐานของประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา900 และประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 84 แล้วว่าจำเลยไม่ชำระหนี้ตามเช็คพิพาท ศาลอุทธรณ์จึงฟังข้อเท็จจริงไม่ผิดจากพยานหลักฐานในสำนวน และวินิจฉัยพยานหลักฐานตรงตามประเด็นตรงตามภาระการพิสูจน์และหน้าที่นำสืบของจำเลยตามกฎหายแล้ว

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา nan

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ชื่อคู่ความ โจทก์ - บริษัทสยามพาสโก้ (ประเทศไทย) จำกัด จำเลย - นาย วิรัตน์ มีนชัยนันท์

ชื่อองค์คณะ สถิตย์ ไพเราะ ปรีชา เฉลิมวิณิชย์ วุฒิ คราวุฒิ

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ตัดสิน nan

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th
ติดต่อเราทาง LINE