สารบัญ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 875/2523

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 875/2523

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม. 291, 764, 767 พระราชบัญญัติควบคุมการขายทอดตลาดและค้าของเก่า พ.ศ.2474 ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 58 พระราชบัญญัติโรงรับจำนำ พ.ศ.2505 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ม. 249

จำเลยที่ 1 กู้เงินโจทก์ จำเลยที่ 1, ที่ 4, ที่ 5, ที่ 6 และที่ 7 ได้จำนำหุ้นซึ่งจำเลยแต่ละคนเป็นผู้ถือเพื่อเป็นการประกันหนี้ของจำเลยที่ 1 สัญญาจำนำระบุว่าผู้จำนำยอมรับผิดต่อผู้รับจำนำในฐานะเป็นลูกหนี้ร่วมกับจำเลยที่ 1 และถ้าขายทรัพย์สินที่จำนำได้เงินสุทธิต่ำกว่าต้นเงินจำนำและดอกเบี้ยที่ค้างชำระผู้จำนำยอมชดใช้เงินที่ยังขาดอีกจนครบนั้น ต้องแปลว่าจำเลยที่ 4 ถึงที่ 7 ยอมรับผิดร่วมกับจำเลยที่ 1 เต็มมูลค่าหุ้นที่จำเลยแต่ละคนนำมาจำนำ หากภายหลังขายได้เงินสุทธิน้อยกว่ามูลค่าหุ้นแล้ว ผู้จำนำยอมรับผิดในส่วนที่ยังขาดอยู่นั้น

ปัญหาว่าการขายทอดตลาดหุ้นที่จำนำและโอนหุ้นไม่ชอบด้วยกฎหมายเพราะไม่ได้รับอนุญาตให้ทำการขายทอดตลาดเป็นความผิดต่อพระราชบัญญัติควบคุมการขายทอดตลาดและค้าของเก่าพ.ศ.2474 ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 58 พ.ศ.2515 และพระราชบัญญัติโรงรับจำนำนั้น จำเลยมิได้ต่อสู้เป็นประเด็นไว้ในคำให้การ จึงมิใช่ข้อที่ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้น ทั้งมิใช่ปัญหาอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย

เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยที่ 1 ออกตั๋วสัญญาใช้เงินให้แก่โจทก์เพื่อเป็นการชำระหนี้จำเลยที่ 1 ที่ 4 ที่ 5 ที่ 6 และที่ 7 ได้นำหุ้นมาจำนำไว้กับโจทก์โดยผู้จำนำทุกคนยอมรับผิดเป็นลูกหนี้ร่วมกับจำเลยที่ 1 หากมีการบังคับจำนำได้เงินต่ำกว่าต้นเงินจำนำและดอกเบี้ยที่ค้างชำระ ผู้จำนำยอมรับชดใช้เงินส่วนที่ยังขาดอีกจนครบ หนี้ถึงกำหนดชำระ จำเลยที่ 1 ค้างต้นเงินและดอกเบี้ย โจทก์ทวงถามบอกกล่าวบังคับจำนำแล้วจำเลยไม่ชำระ โจทก์จึงบังคับจำนำขายทอดตลาดหุ้นที่จำนำ หักค่าใช้จ่ายแล้วได้เงินสุทธิไม่พอชำระหนี้ต้นเงินและดอกเบี้ยจึงฟ้องขอให้จำเลยร่วมกันใช้ดอกเบี้ยและต้นเงินที่ค้างกับดอกเบี้ยจากต้นเงินที่ค้างจากวันฟ้องไปจนกว่าจะชำระเสร็จ

จำเลยให้การปฏิเสธหลายประการและว่าจำเลยที่ 4 ที่ 5 ที่ 6 และที่ 7 ไม่ใช่ลูกหนี้ของโจทก์โดยตรงเพียงแต่ยินยอมให้เอาใบหุ้นเป็นประกันหนี้สินของจำเลยที่ 1 จำเลยทั้งสี่จึงไม่ต้องรับผิดเกินใบหุ้น และการที่โจทก์เอาใบหุ้นของจำเลยไปขายทอดตลาดทั้ง ๆ ที่จำเลยได้ทักท้วงคัดค้านแล้ว และขายไปโดยสมยอมกันได้ราคาเพียง 3 เปอร์เซ็นต์ของราคาที่แท้จริงเท่านั้น ทำให้จำเลยเสียหาย ขอให้ยกฟ้อง และฟ้องแย้งขอให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนการขายทอดตลาดและการโอนหุ้นเสีย

โจทก์ให้การแก้ฟ้องแย้งโดยปฏิเสธและว่าในการขายทอดตลาดหุ้นที่จำนำ ทนายโจทก์ได้แจ้งวันเวลาและสถานที่ที่จะทำการขายทอดตลาดให้จำเลยทุกคนทราบ ทั้งประกาศโฆษณาทางหนังสือพิมพ์ด้วย ผู้ขายทอดตลาดได้ทำการขายทอดตลาดโดยสุจริตและเปิดเผย มีผู้มาประมูลหลายคน ในที่สุดผู้ให้ราคาสูงสุดประมูลได้ การขายทอดตลาดและการโอนหุ้นได้ทำถูกต้องตามกฎหมาย จำเลยไม่มีสิทธิขอให้เพิกถอนขอให้ยกฟ้องแย้ง

ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า จำเลยที่ 1 กู้เงินโจทก์และออกตั๋วสัญญาใช้เงินให้โจทก์ จำเลยที่ 2 และที่ 3 ซึ่งเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ และเป็นหุ้นส่วนจำพวกไม่จำกัดความรับผิด จะต้องร่วมรับผิดต่อโจทก์ในหนี้สินที่ค้างชำระตามตั๋วสัญญาใช้เงิน ส่วนจำเลยที่ 4 ถึงที่ 7 ต้องร่วมรับผิดไม่เกินราคาหรือค่าของหลักทรัพย์ที่แต่ละคนนำไปจำนำ โจทก์ได้มีหนังสือบอกกล่าวให้จำเลยชำระหนี้ก่อนที่จะบังคับจำนำแล้ว โจทก์มีสิทธินำหุ้นที่จำนำออกขายทอดตลาดได้ และมิใช่เป็นการขายโดยสมยอมกันจึงไม่มีเหตุที่จะเพิกถอน พิพากษาให้จำเลยที่ 1 ที่ 2 ที่ 3 ร่วมกันใช้ต้นเงินพร้อมด้วยดอกเบี้ยโดยหักเงินสุทธิที่ได้จากการขายทอดตลาดใบหุ้นใช้ดอกเบี้ยที่ค้างชำระให้จำเลยที่ 4 ถึงที่ 7 ร่วมกันรับผิดต่อโจทก์ในหนี้สินของจำเลยที่ 1 ตามมูลค่าหุ้นที่จำนำพร้อมด้วยดอกเบี้ยในต้นเงินซึ่งแต่ละคนต้องรับผิดจนกว่าจะชำระเสร็จโดยหักเงินสุทธิที่ได้จากการขายทอดตลาดใบหุ้นของจำเลยแต่ละคนใช้ดอกเบี้ยที่ค้างชำระ

โจทก์อุทธรณ์ว่า จำเลยที่ 4 ถึงที่ 7 ต้องรับผิดร่วมกับจำเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 3 ในต้นเงินและดอกเบี้ยเต็มจำนวนตามฟ้อง

จำเลยทั้ง 7 อุทธรณ์เฉพาะประเด็นขอให้ศาลสั่งเพิกถอนการขายทอดตลาดและการโอนหุ้นตามฟ้องแย้งของจำเลย

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์และจำเลยทั้ง 7 ฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่าจำเลยที่ 1 กู้เงินโจทก์ โดยออกตั๋วสัญญาใช้เงินจำเลยที่ 1 ที่ 4 ที่ 5 ที่ 6 และที่ 7 ได้จำนำหุ้นซึ่งจำเลยแต่ละคนเป็นผู้ถือเพื่อเป็นการประกันหนี้ของจำเลยที่ 1 สัญญาจำนำระบุว่าผู้จำนำยอมรับผิดต่อผู้รับจำนำในฐานะเป็นลูกหนี้ร่วมกับจำเลยที่ 1 และถ้าขายทรัพย์สินที่จำนำได้เงินสุทธิต่ำกว่าต้นเงินจำนำและดอกเบี้ยที่ค้างชำระ ผู้จำนำยอมชดใช้เงินที่ยังขาดอีกจนครบนั้น ต้องแปลว่าจำเลยที่ 4 ถึงที่ 7 ยอมรับผิดร่วมกับจำเลยที่ 1 เต็มมูลค่าหุ้นที่จำเลยแต่ละคนนำมาจำนำ หากภายหลังขายได้เงินสุทธิน้อยกว่าเงินค่าหุ้นแล้ว ผู้จำนำยอมรับผิดในส่วนที่ยังขาดอยู่นั้น หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งให้ผู้จำนำแต่ละคนร่วมรับผิดในหนี้ของจำเลยที่ 1 ตามราคาทรัพย์สินที่นำมาจำนำคือเท่ากับมูลค่าของหุ้นที่ผู้จำนำแต่ละคนนำมาจำนำนั่นเอง ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาให้จำเลยที่ 4 ถึงที่ 7 ร่วมรับผิดกับจำเลยที่ ในหนี้เงินต้น ตามมูลค่าของหุ้นที่จำเลยแต่ละคนจำนำกับดอกเบี้ยที่ค้างชำระนั้นชอบแล้ว ฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น สำหรับปัญหาข้อที่จำเลยฎีกาว่าการขายทอดตลาดหุ้นที่จำนำและการโอนหุ้นไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะโจทก์ไม่ได้รับอนุญาตให้ทำการขายทอดตลาด การกระทำของโจทก์เป็นความผิดต่อพระราชบัญญัติ ควบคุมการขายทอดตลาดและค้าของเก่า พ.ศ. 2474 ประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 58 พ.ศ. 2515 และพระราชบัญญัติโรงรับจำนำนั้น เห็นว่าปัญหาข้อนี้จำเลยไม่ได้ต่อสู้เป็นประเด็นไว้ในคำให้การจึงมิใช่ข้อที่ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้น ทั้งมิใช่ปัญหาอันเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย ที่จำเลยฎีกาว่าจำเลยที่ 4 ถึงที่ 7 ไม่เคยได้รับคำบอกกล่าวบังคับจำนำและการขายทอดตลาดนั้น ฟังได้ว่าโจทก์ได้บอกกล่าวบังคับจำนำและแจ้งวันเวลาสถานที่ซึ่งจะขายทอดตลาดชอบด้วยกฎหมายแล้ว ส่วนข้อฎีกาของจำเลยที่ว่าหุ้นที่ขายทอดตลาดมีมูลค่ากว่า 1,000,000บาท แต่ขายได้เพียง 33,450 บาท โจทก์ทำการขายทอดตลาดโดยพลการแทนที่จะฟ้องศาล โจทก์ใช้สิทธิโดยไม่สุจริตนั้น เหตุที่ขายได้น้อยเพราะราคาหุ้นไม่มีราคา และไม่มีการซื้อขายหุ้นดังกล่าวในท้องตลาด ส่วนการที่โจทก์เอาหุ้นที่จำนำออกขายทอดตลาดก็เป็นไปตามบทบัญญัติมาตรา 764 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ซึ่งให้อำนาจโจทก์ผู้รับจำนำไว้โดยไม่ต้องฟ้องศาล จึงหาใช่โจทก์ใช้สิทธิโดยไม่สุจริตไม่ ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้นเช่นกัน

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา nan

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ชื่อคู่ความ โจทก์ - บริษัทบางกอกโนบูระ อินเตอร์เนทชั่นแนลซีเคียวริตี้ จำเลย - ห้างหุ้นส่วนจำกัดอุดมทรัพย์การทุน กับพวก

ชื่อองค์คณะ ภิญโญ ธีรนิติ ไพบูลย์ ไวกาสี ภักดิ์ บุณย์ภักดี

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ตัดสิน nan

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th
ติดต่อเราทาง LINE