คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8481/2563
ประมวลกฎหมายอาญา ม. 22
ก่อนที่คดีนี้ศาลฎีกาจะมีคำพิพากษา ในคดีที่โจทก์ขอให้นับโทษต่อ ศาลฎีกาได้มีคำพิพากษาให้ลงโทษจำคุกจำเลยในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ อ.3275/2560 แม้ก่อนหน้านี้ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้อง ก็เป็นอำนาจของศาลฎีกาที่จะสั่งให้นับโทษจำเลยต่อได้
คดีสืบเนื่องจากโจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 328 และขอให้นับโทษจำคุกของจำเลยในคดีนี้ต่อจากโทษของจำเลยในคดีอาญาหมายเลขดำที่ อ.1284/2549, อ.177/2551, อ.4212/2551, อ.4883/2551, อ.404/2552, อ.1962/2552 ของศาลชั้นต้น และคดีอาญาหมายเลขดำที่ 2635/2551 ของศาลอาญากรุงเทพใต้ ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่า คดีมีมูลให้ประทับฟ้อง จำเลยให้การปฏิเสธ แต่รับว่าเป็นบุคคลคนเดียวกับจำเลยในคดีที่โจทก์ขอให้นับโทษต่อ ยกเว้นคดีอาญาหมายเลขดำที่ อ.1284/2549 ของศาลชั้นต้น ซึ่งโจทก์คดีดังกล่าวถอนฟ้องไปแล้ว ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 328 จำคุกกระทงละ 1 ปี รวม 2 กระทง จำคุก 2 ปี ให้นับโทษจำคุกของจำเลยในคดีนี้ต่อจากโทษของจำเลยในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ อ.4907/2555 ของศาลชั้นต้น ส่วนคำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยฎีกา โดยผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาและลงชื่อในคำพิพากษาศาลชั้นต้นอนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ศาลฎีกาพิพากษาแก้เป็นว่า ลดโทษให้จำเลยกระทงละกึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุกกระทงละ 6 เดือน รวม 2 กระทง จำคุก 12 เดือน นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นได้ออกหมายจำคุกเมื่อคดีถึงที่สุดให้นับโทษจำเลยในคดีนี้ต่อจากโทษของจำเลยในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ อ.4907/2555 ของศาลชั้นต้น ต่อมาจำเลยยื่นคำร้องว่า ศาลชั้นต้นและศาลฎีกาไม่มีอำนาจพิพากษาให้นับโทษจำคุกจำเลยในคดีนี้ต่อจากโทษของจำเลยในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ อ.4907/2555 ของศาลชั้นต้น ขอให้ศาลแก้ไขคำพิพากษา ยกเลิกหมายจำคุกเมื่อคดีถึงที่สุดและออกหมายจำคุกเมื่อคดีถึงที่สุดใหม่ ซึ่งศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ยกเลิกคำพิพากษาไม่ได้ ศาลฎีกามีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว และมีการออกหมายตามคำพิพากษา ยกคำร้อง ต่อมาจำเลยยื่นอุทธรณ์คำสั่งขอให้มีคำสั่งให้ศาลชั้นต้นแก้ไขคำพิพากษาเป็นไม่นับโทษจำคุกในคดีนี้ต่อจากคดีอาญาหมายเลขแดงที่ อ.4907/2555 ของศาลชั้นต้น และออกหมายจำคุกเมื่อคดีถึงที่สุดใหม่ ศาลชั้นต้นจึงเบิกตัวจำเลยมาสอบถามเมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2561 จำเลยแถลงว่าประสงค์ที่จะขอให้ศาลเพิกถอนหมายจำคุกเมื่อคดีถึงที่สุดเพราะหมายดังกล่าวให้ นับโทษจำคุกในคดีนี้ต่อจากคดีอาญาหมายเลขแดงที่ อ.4907/2555 ของศาลชั้นต้น ไม่ถูกต้อง ศาลชั้นต้นจดรายงานกระบวนพิจารณาว่า ศาลชั้นต้นตรวจสอบแล้วปรากฏว่าศาลชั้นต้นมิได้พิพากษาให้นับโทษจำคุกในคดีนี้ต่อจากโทษในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ อ.4907/2555 ของศาลชั้นต้น แต่ศาลอุทธรณ์มีการย่อคำพิพากษาศาลชั้นต้นว่า ให้นับโทษจำคุกจำเลยในคดีนี้ต่อจากโทษในคดีอาญาหมายเลขดำที่ 1962/2552 (หมายเลขแดงที่ 4907/2555) ของศาลชั้นต้น ซึ่งไม่ถูกต้อง และศาลฎีกาในคดีดังกล่าวพิพากษาแก้ลดโทษจำคุก นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ เป็นเหตุให้ศาลชั้นต้นออกหมายจำคุกเมื่อคดีถึงที่สุดโดยผิดหลงในการบังคับโทษ ศาลมีอำนาจแก้ไขให้ถูกต้องและเป็นธรรมแก่จำเลย จึงให้ยกเลิกหมายจำคุกเมื่อคดีถึงที่สุดและให้ออกหมายจำคุกเมื่อคดีถึงที่สุดใหม่ โดยไม่ต้องนับโทษจำคุกในคดีนี้ต่อจากโทษในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ อ.4907/2555 ของศาลชั้นต้น แล้วศาลชั้นต้นได้ออกหมายจำคุกเมื่อคดีถึงที่สุดใหม่ลงวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2561 ต่อมาจำเลยยื่นคำร้องขอให้หักวันต้องขัง ศาลชั้นต้นตรวจสอบแล้วมีคำสั่งให้ออกหมายจำคุกเมื่อคดีถึงที่สุดฉบับใหม่ ระบุวันนับโทษตั้งแต่วันที่ 9 สิงหาคม 2560 โดยไม่ต้องหักวันต้องขังให้แก่จำเลย และยกเลิกหมายจำคุกเมื่อคดีถึงที่สุดฉบับเดิม
โจทก์ยื่นคำร้องขอให้ศาลหมายเรียกจำเลยมารับโทษให้ถูกต้องตามกฎหมายเพราะการที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่นับโทษจำคุกในคดีนี้ต่อจากโทษในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ อ.4907/2555 ของศาลชั้นต้น ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ขัดกับคำพิพากษาศาลฎีกา ขอให้ศาลเพิกถอนคำสั่งในรายงานกระบวนพิจารณาฉบับลงวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2561 และหมายเรียกจำเลยมารับโทษตามคำพิพากษาศาลฎีกา
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำร้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำสั่งศาลชั้นต้นที่ไม่ให้นับโทษจำคุกของจำเลยในคดีนี้ต่อจากโทษจำคุกของจำเลยในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ อ.4907/2555 ของศาลชั้นต้น และยกเลิกหมายจำคุกเมื่อคดีถึงที่สุดของจำเลยเลขที่ อท 229/2561 ลงวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2561 กับให้ศาลชั้นต้นออกหมายจำคุกเมื่อคดีถึงที่สุดใหม่เพื่อบังคับตามคำพิพากษาศาลฎีกาต่อไป
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า มีปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามฎีกา ของจำเลยว่าที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ยกคำสั่งศาลชั้นต้นที่ไม่ให้นับโทษจำคุกของจำเลยในคดีนี้ต่อจากโทษจำคุกของจำเลยในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ อ.4907/2555 ของศาลชั้นต้น และยกเลิกหมายจำคุกเมื่อคดีถึงที่สุดของจำเลยเลขที่ อท 229/2561 ลงวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2561 กับให้ศาลชั้นต้นออกหมายจำคุกเมื่อคดีถึงที่สุดใหม่เพื่อบังคับคดีตามคำพิพากษาศาลฎีกาต่อไป ซึ่งมีผลทำให้ต้องนับโทษจำคุกจำเลยคดีนี้ต่อจากโทษจำคุกของจำเลยในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ อ.4907/2555 ของศาลชั้นต้นนั้นชอบหรือไม่ เห็นว่า การนับโทษต่อจากคดีเรื่องใดนั้น เป็นข้อยกเว้นของการบังคับโทษจำคุกตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 22 ที่มิให้เริ่มนับโทษจำคุกในคดีหลักนับแต่วันมีคำพิพากษา โดยมีหลักเกณฑ์ว่าคดีที่ขอให้นับโทษต่อนั้น ศาลต้องมีคำพิพากษาลงโทษจำคุกก่อนที่คดีหลักจะมีคำพิพากษา โดยมิพักต้องคำนึงว่าคดีนั้นถึงที่สุดแล้วหรือไม่ ดังนั้น ตราบใดที่คดีหลักยังไม่ถึงที่สุด ศาลชอบที่จะนับโทษจำคุกของจำเลยต่อจากโทษในคดีที่ขอให้นับโทษต่อได้ เมื่อข้อเท็จจริงฟังเป็นยุติว่า ก่อนที่คดีนี้ศาลฎีกาจะมีคำพิพากษา ในคดีที่โจทก์ขอให้นับโทษต่อ ศาลฎีกาได้มีคำพิพากษาให้ลงโทษจำคุกจำเลยเป็นคดีอาญาหมายเลขแดงที่ อ.3275/2560 แม้ก่อนหน้านี้ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษายกฟ้อง ก็เป็นอำนาจของศาลฎีกาที่จะสั่งให้นับโทษจำเลยต่อตามหลักเกณฑ์ดังกล่าวได้ ประกอบกับคดีนี้ในชั้นอุทธรณ์และฎีกา จำเลยก็อุทธรณ์และฎีกาเพียงว่าจำเลยไม่ได้กระทำความผิด ไม่ได้โต้แย้งคำพิพากษาศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ในเรื่องการนับโทษต่อว่าไม่ชอบแต่อย่างใด จำเลยเพิ่งยกข้อต่อสู้นี้ขึ้นกล่าวอ้างภายหลังจากคดีนี้ศาลฎีกามีคำพิพากษาแล้ว ซึ่งหาอาจกระทำได้ไม่เนื่องจากล่วงเลยระยะเวลาอุทธรณ์และฎีกาแล้ว จึงเท่ากับจำเลยยอมรับในเรื่องคดีที่ขอให้นับโทษต่อ ดังนั้น เมื่อคดีนี้ศาลฎีกาเพียงพิพากษาแก้ในส่วนที่เกี่ยวกับโทษจำคุกของจำเลย และพิพากษาต่อไปว่านอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ จึงเท่ากับศาลฎีกามีคำพิพากษาให้นับโทษจำเลยต่อด้วย อันเป็นการกล่าววันที่เริ่มนับโทษจำคุกไว้เป็นอย่างอื่นในคำพิพากษา กรณีหาใช่เป็นการพิพากษาให้นับโทษต่อโดยไม่มีโทษจำคุกให้นับ และเป็นการพิพากษาเพิ่มเติมโทษจำเลยดังที่จำเลยอ้างในฎีกาไม่ ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษามานั้นชอบแล้ว ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน
หมายเลขคดีดำศาลฎีกา อ.1352/2563
แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ชื่อคู่ความ โจทก์ - นาย อ. จำเลย - นาย จ.
ชื่อองค์คณะ ชัยเจริญ ดุษฎีพร วรงค์พร จิระภาค ชูชีพ ปิณฑะสิริ
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ตัดสิน ศาลอาญา - นายสุรจิต ศรีบุญมา ศาลอุทธรณ์ - นายวิชัย ตัญศิริ