สารบัญ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8407/2540

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8407/2540

ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ม. 188, 207

ผู้ที่จะมีสิทธิร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 207 นั้น นอกจากจะต้องเป็นคู่ความฝ่ายที่ถูกศาลสั่งว่าขาดนัดพิจารณาแล้ว จะต้องปรากฏว่าศาลได้มีคำพิพากษาหรือคำสั่งให้แพ้คดีในประเด็นข้อพิพาทด้วย คดีนี้ผู้คัดค้านนำคำคัดค้านและขอเลื่อนคดีมายื่นต่อศาลชั้นต้นหลังจากที่ศาลได้อ่านรายงานกระบวนพิจารณาและมีคำสั่งว่าผู้ร้องเป็นบุตรชายด้วย กฎหมายของผู้ตายเสร็จสิ้นไปก่อนแล้ว การที่ศาลมีคำสั่งไม่รับคำคัดค้านและไม่อนุญาตให้เลื่อนคดี คดีนี้จึงยังคงเป็นคดีไม่มีข้อพิพาทและไม่มีประเด็นข้อพิพาท เมื่อผู้คัดค้านมิได้ถูกศาลสั่งว่าขาดนัดพิจารณา และศาลมิได้มีคำพิพากษาหรือคำสั่งให้ผู้คัดค้านแพ้คดีในประเด็นข้อพิพาท ผู้คัดค้านจึงไม่มีสิทธิขอให้พิจารณาคดีใหม่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 207

เนื้อหาฉบับเต็ม

คดีนี้ศาลอุทธรณ์รวมการพิจารณาอุทธรณ์ของผู้คัดค้านทั้งสองฉบับเข้าด้วยกัน และเรียกนายสุริยันต์ รักอักษร ว่า ผู้คัดค้านที่ 1นางสาวนงลักษณะ รักอักษร ว่า ผู้คัดค้านที่ 2 และนางสาวบุปผารักอักษร ว่า ผู้คัดค้านที่ 3

ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งว่าผู้ร้องเป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของนายสมยศ รักอักษร ผู้ตาย

ศาลชั้นต้นประกาศวันนัดไต่สวนแล้วไม่มีผู้มาคัดค้าน และได้ไต่สวนคำร้องขอของผู้ร้องและมีคำสั่งว่า เด็กชายชัยยุทธ รักอักษรผู้ร้องเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายของนายสมสศ รักอักษร เมื่อศาลชั้นต้นได้อ่านรายงานกระบวนพิจารณาและคำสั่งดังกล่าวแล้ว ผู้คัดค้านทั้งสามได้ยื่นคำคัดค้านต่อศาลชั้นต้นและขอเลื่อนคดี โดยนายทรงพันธ์ ศรีชยันดร เสมียนทนาย ซึ่งได้รับมอบฉันทะจากนายนพดล ศรีชยันดร ทนายความของผู้คัดค้านที่ 1 และที่ 2 กับนายสุวัฒชัย สิงห์คำ ทนายความของผู้คัดค้านที่ 3 นำคำคัดค้านของผู้คัดค้านทั้งสามมายื่นต่อศาลชั้นต้น ปรากฏตามคำคัดค้านฉบับลงวันที่ 11 กันยายน 2538 ผู้รับมอบฉันทะได้แถลงเหตุที่ยื่นคำคัดค้านล่าช้าว่า เนื่องจากไม่ได้นำใบอนุญาตให้ว่าความของนายนพดล ติดมาจึงได้โทรศัพท์กลับไปที่สำนักงานเพื่อขอนำใบอนุญาตให้ว่าความดังกล่าวมาเสนอต่อศาล แต่นายสุวัฒชัยแจ้งว่านายนพดลไม่อยู่ จะให้นายนพดล มาติดตามเรื่องภายหลัง ประกอบกับผู้รับมอบฉันทะต้องรอเจ้าหน้าที่การเงินออกใบเสร็จรับเงินค่าธรรมเนียมศาล จึงทำให้ต้องยื่นคำคัดค้านล่าช้าและเสนอคำคัดค้านต่อศาลหลังจากที่ศาลชั้นต้นได้อ่านคำสั่งให้ผู้ร้องฟังแล้ว ทนายความผู้ร้องแถลงว่าผู้คัดค้านทั้งสามนำคำคัดค้านเสนอต่อศาลหลังจากศาลมีคำสั่งแล้ว ไม่มีเหตุที่จะต้องนำคดีขึ้นพิจารณาใหม่ ศาลชั้นต้นพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ผู้คัดค้านได้ยื่นคำคัดค้านหลังจากที่ศาลได้มีคำสั่งแล้วและมิได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลนำคดีขึ้นพิจารณาใหม่จึงมีคำสั่งไม่รับคำคัดค้านของผู้คัดค้านทั้งสาม

ผู้คัดค้านที่ 3 ยื่นคำร้องขอให้พิจารณาใหม่ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำร้อง

ผู้คัดค้านทั้งสามอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

ผู้คัดค้านที่ 3 ฎีกา

ศาลฎีกาแผนกคดีเยาวชนและครอบครัววินิจฉัยว่า ผู้ที่จะมีสิทธิร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 207 นั้น นอกจากจะต้องเป็นคู่ความฝ่ายที่ถูกศาลสั่งว่าขาดนัดพิจารณาแล้ว จะต้องปรากฏว่าศาลได้มีคำพิพากษาหรือคำสั่งให้แพ้คดีในประเด็นข้อพิพาทด้วย แต่คดีนี้ผู้คัดค้านที่ 3 นำคำคัดค้านและขอเลื่อนคดีมายื่นต่อศาลชั้นต้นหลังจากที่ศาลได้อ่านรายงานกระบวนพิจารณาและมีคำสั่งว่าผู้ร้องเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายของผู้ตายเสร็จสิ้นไปก่อนแล้ว การที่ศาลมีคำสั่งไม่รับคำคัดค้านและไม่อนุญาตให้เลื่อนคดี คดีนี้จึงยังคงเป็นคดีไม่มีข้อพิพาทไม่มีประเด็นข้อพิพาทแต่อย่างใด ผู้คัดค้าน 3 มิได้ถูกศาลสั่งแสดงว่าขาดนัดพิจารณา และศาลมิได้มีคำพิพากษาหรือคำสั่งให้ผู้คัดค้านที่ 3แพ้คดีในประเด็นข้อพิพาทผู้คัดค้านที่ 3 จึงไม่มีสิทธิขอให้พิจารณาคดีใหม่ได้

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา nan

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ชื่อคู่ความ ผู้ร้อง - เด็ก ชาย ชัยยุทธ รัก อักษร ผู้คัดค้าน - โดย นาง โซ๊ะหุน แซ่เล้า ผู้แทนโดยชอบธรรม ผู้คัดค้าน - นาย สุริยนต์ รัก อักษร กับพวก

ชื่อองค์คณะ สมคิด ไตรโสรัส สะสม สิริเจริญสุข วิชัย ชื่นชมพูนุท

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ตัดสิน nan

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th
ติดต่อเราทาง LINE