สารบัญ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 835/2545

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 835/2545

ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ม. 148 พระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 ม. 9, 14, 153

โจทก์เคยนำหนี้ภาษีการค้ามาฟ้องให้จำเลยล้มละลาย ซึ่งศาลฎีกาวินิจฉัยว่าแม้จำเลยมีหนี้สินล้นพ้นตัว แต่มีเหตุอื่นที่ไม่ควรให้จำเลยล้มละลาย จึงพิพากษายกฟ้องแต่ต่อมาโจทก์นำหนี้ภาษีการค้าดังกล่าวรวมกับหนี้เงินเพิ่มภาษีการค้าและหนี้ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดามาฟ้องจำเลยเป็นคดีแพ่งต่อศาลภาษีอากรกลาง ซึ่งศาลดังกล่าวมีคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำเลยชำระหนี้ทั้งสามจำนวนนั้น แต่จำเลยไม่ชำระ โจทก์จึงนำหนี้ตามคำพิพากษาดังกล่าวมาฟ้องจำเลยให้ล้มละลายอีก ดังนั้น การที่โจทก์นำหนี้ภาษีการค้าจำนวนเดิมรวมกับหนี้ภาษีจำนวนใหม่มาฟ้องจำเลยเป็นคดีล้มละลายนี้จึงเป็นการรื้อร้องฟ้องกันอีกในประเด็นที่ได้วินิจฉัยโดยอาศัยเหตุอย่างเดียวกัน เป็นฟ้องซ้ำต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 148 ประกอบด้วยพระราชบัญญัติล้มละลายฯ มาตรา 153 ส่วนหนี้เงินเพิ่มภาษีการค้าและหนี้ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาซึ่งเป็นหนี้จำนวนใหม่ เมื่อรวมกันแล้วมีจำนวนเพียง 40,000 บาทเศษไม่เข้าองค์ประกอบที่จะฟ้องจำเลยให้ล้มละลายได้ตามพระราชบัญญัติล้มละลายฯมาตรา 9(2)

เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องและแก้ไขคำฟ้องว่า จำเลยเป็นหนี้โจทก์ตามคำพิพากษาถึงที่สุดในคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 32/2537 ของศาลภาษีอากรกลาง ซึ่งพิพากษาให้จำเลยชำระค่าภาษีอากรจำนวน 134,895.75 บาทแก่โจทก์ หลังจากบังคับคดียึดทรัพย์สินของจำเลยขายทอดตลาดและจำเลยยอมชำระหนี้ให้บางส่วนเมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2540แล้วจำเลยยังคงค้างชำระหนี้จำนวน 131,861.17 บาท และจำเลยไม่มีทรัพย์สินอย่างหนึ่งอย่างใดที่จะพึงยึดมาชำระหนี้ได้ ต้องด้วยข้อสันนิษฐานว่าจำเลยมีหนี้สินล้นพ้นตัว ขอให้มีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของจำเลยเด็ดขาดและพิพากษาให้เป็นบุคคลล้มละลาย

จำเลยให้การว่า โจทก์เคยนำมูลหนี้ในคดีนี้ฟ้องจำเลยให้เป็นบุคคลล้มละลายต่อศาลแพ่งธนบุรี ซึ่งศาลฎีกามีคำพิพากษายืนตามศาลแพ่งธนบุรีและศาลอุทธรณ์ให้ยกฟ้อง โจทก์ฟ้องคดีนี้จึงเป็นฟ้องซ้ำต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 148 ประกอบพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 153 จำเลยมีทรัพย์สินพอจะชำระหนี้แก่โจทก์ได้ โดยจำเลยรับราชการอยู่ที่สำนักงานเขตบางเขน ตำแหน่งเจ้าหน้าที่ปกครองระดับ 3 ฝ่ายทะเบียน อัตราเงินเดือน 9,450 บาท จำเลยมิได้เป็นหนี้ผู้อื่นอีก ขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาแผนกคดีล้มละลายวินิจฉัยว่า "มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่า ฟ้องโจทก์คดีนี้เป็นฟ้องซ้ำกับคดีหมายเลขแดงที่ 4071/2535 ของศาลฎีกาหรือไม่เห็นว่า ในคดีล้มละลายศาลจะต้องพิจารณาให้ได้ความจริงว่าจำเลยเป็นผู้มีหนี้สินล้นพ้นตัวหรือไม่ และคดีมีเหตุที่ไม่ควรให้จำเลยล้มละลายหรือไม่ ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 14 ประเด็นข้อพิพาทในคดีจึงมีว่าจำเลยมีหนี้สินล้นพ้นตัวหรือไม่ และคดีมีเหตุที่ไม่ควรให้จำเลยล้มละลายหรือไม่เมื่อข้อเท็จจริงฟังเป็นยุติว่า โจทก์เคยนำหนี้ภาษีการค้าจำนวน 90,975 บาท ฟ้องจำเลยให้ล้มละลาย ซึ่งศาลฎีกาได้วินิจฉัยว่าแม้จำเลยมีหนี้สินล้นพ้นตัว แต่มีเหตุอื่นที่ไม่ควรให้จำเลยล้มละลาย พิพากษายกฟ้อง ตามคดีหมายเลขแดงที่ 4071/2535 ต่อมาโจทก์นำหนี้ภาษีการค้าดังกล่าวรวมกับหนี้เงินเพิ่มภาษีการค้าจำนวน 22,690.37 บาท และหนี้ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจำนวน 21,230.05 บาท ฟ้องจำเลยเป็นคดีแพ่งต่อศาลภาษีอากรกลาง ซึ่งศาลภาษีอากรกลางพิพากษาคดีถึงที่สุดให้จำเลยชำระหนี้ภาษีทั้งสามจำนวนนั้น แต่จำเลยไม่ชำระ โจทก์จึงนำหนี้ตามคำพิพากษาดังกล่าวฟ้องจำเลยให้ล้มละลายเป็นคดีนี้ ดังนั้น เฉพาะหนี้ภาษีการค้าจำนวน 90,975 บาท เป็นเหตุที่โจทก์เคยอ้างและศาลได้วินิจฉัยชี้ขาดไปแล้วในคดีหมายเลขแดงที่ 4071/2535 ของศาลฎีกา การที่โจทก์นำหนี้ภาษีการค้าจำนวนเดิมรวมกับหนี้ภาษีจำนวนใหม่ฟ้องจำเลยให้ล้มละลายเป็นคดีนี้ จึงเป็นการรื้อร้องฟ้องกันอีกในประเด็นที่ได้วินิจฉัยโดยอาศัยเหตุอย่างเดียวกัน เป็นฟ้องซ้ำต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 148 ประกอบด้วยพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 153 ส่วนหนี้เงินเพิ่มภาษีการค้าและหนี้ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ซึ่งเป็นหนี้ภาษีจำนวนใหม่รวมกันแล้วได้เพียง 43,920.42 บาท ไม่เข้าองค์ประกอบที่โจทก์จะฟ้องจำเลยให้ล้มละลายได้ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 9(2) ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษายกฟ้องมานั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย"

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา nan

แหล่งที่มา สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ชื่อคู่ความ โจทก์ - กรมสรรพากร จำเลย - นาย ชีพ ชูจันทร์

ชื่อองค์คณะ อรพินท์ เศรษฐมานิต ประมาณ ตียะไพบูลย์สิน สมชาย พงษธา

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ตัดสิน nan

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th
ติดต่อเราทาง LINE