สารบัญ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8086/2543

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8086/2543

ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ม. 234

จำเลยทราบคำสั่งที่ศาลไม่อนุญาตให้ขยายเวลายื่นอุทธรณ์วันที่ 9 เมษายน 2542 เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ของจำเลยในวันเดียวกับที่สั่งยกคำร้อง จำเลยต้องยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งที่ไม่รับอุทธรณ์ภายใน 15 วันนับแต่วันที่ 9 เมษายน 2542 ซึ่งถือว่าเป็นวันที่ทราบคำสั่ง ซึ่งครบกำหนดวันที่ 24 เมษายน 2542 อันเป็นวันเสาร์ จำเลยมีสิทธิยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งได้ในวันที่ 26 เมษายน 2542 ซึ่งเป็นวันแรกที่เปิดทำงานใหม่ แต่จำเลยกลับยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งวันที่ 6 พฤษภาคม 2542 ซึ่งพ้นกำหนด 15 วันนับแต่ศาลมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ ที่ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งยกคำร้องอุทธรณ์คำสั่งของจำเลย ชอบแล้ว

เนื้อหาฉบับเต็ม

คดีนี้สืบเนื่องจากศาลชั้นต้นพิพากษาให้ขับไล่จำเลยและบริวารออกไปจากห้องเช่า และส่งมอบห้องเช่าในสภาพเรียบร้อยคืนแก่โจทก์ ให้จำเลยชำระเงินจำนวน 93,381.58 บาท พร้อมค่าเสียหายเป็นเบี้ยปรับอัตราร้อยละ 2 ต่อเดือน ของต้นเงิน 43,381.58 บาท และดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงิน 50,000 บาท นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ และให้จำเลยใช้ค่าเสียหายเป็นค่าขาดประโยชน์อัตราวันละ 500 บาท นับแต่วันฟ้องจนกว่าจำเลยและบริวารขนย้ายทรัพย์สินออกไปจากห้องเช่าและส่งมอบห้องเช่าในสภาพเรียบร้อยคืนแก่โจทก์

จำเลยอุทธรณ์พร้อมกับยื่นคำร้องขออนุญาตขยายระยะเวลาวางเงินค่าธรรมเนียม ศาลชั้นต้นอนุญาต แต่เมื่อถึงวันครบกำหนดที่อนุญาตไว้จำเลยยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลาอีก 45 วัน ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ในวันอื่นหลังจากนั้นโดยมีตรายางประทับให้มาทราบคำสั่งในวันที่ 9 เมษายน 2542

จำเลยยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งไม่รับอุทธรณ์ของศาลชั้นต้นดังกล่าวอ้างว่า จำเลยไม่สามารถหาเงินมาชำระค่าธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ได้ทัน จึงได้ยื่นคำร้องขอขยายเวลายื่นอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งว่า คดีนี้ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์จำเลยและจำเลยทราบคำสั่งเมื่อวันที่ 9 เมษายน 2542 แต่จำเลยมายื่นอุทธรณ์เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2542 พ้นกำหนดระยะเวลายื่นอุทธรณ์ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 234 จึงให้ยกคำร้อง ค่าคำร้องเป็นพับ

จำเลยยื่นคำร้องฎีกาคำสั่ง (ที่ถูกต้องทำเป็นฎีกาคำสั่ง)

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่จำเลยฎีกาว่าจำเลยเพิ่งทราบคำสั่งศาลไม่อนุญาตให้ขยายเวลายื่นอุทธรณ์วันที่ 23 เมษายน 2542 เนื่องจากสำนวนยังไม่ลงมาจากผู้พิพากษา และตามแผ่นการ์ดของเจ้าหน้าที่อุทธรณ์ไม่ได้ลงคำสั่งไว้จนกระทั่งถึงวันที่ 23 เมษายน 2542 นั้น เห็นว่า จำเลยมิได้มีเอกสารใดมาแสดงเพื่อให้น่าเชื่อถือจึงเป็นเพียงข้ออ้างของจำเลยลอย ๆ ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า จำเลยทราบคำสั่งที่ศาลไม่อนุญาตให้ขยายเวลายื่นอุทธรณ์วันที่ 9 เมษายน 2542 เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ของจำเลยในวันเดียวกับที่สั่งยกคำร้อง จำเลยต้องยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งที่ไม่รับอุทธรณ์ภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ 9 เมษายน 2542 ซึ่งถือว่าเป็นวันที่ทราบคำสั่ง ซึ่งครบกำหนดวันที่ 24 เมษายน 2542 อันเป็นวันเสาร์ จำเลยมีสิทธิยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งได้ในวันที่ 26 เมษายน 2542 ซึ่งเป็นวันแรกที่เปิดทำงานใหม่ แต่จำเลยกลับยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งวันที่ 6 พฤษภาคม 2542 ซึ่งพ้นกำหนด 15 วันนับแต่ศาลมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ ที่ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งยกคำร้องอุทธรณ์คำสั่งของจำเลย ชอบแล้ว ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น

พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ.

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา nan

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ชื่อคู่ความ โจทก์ - บริษัทตะวันนา ไนท์บาซาร์ จำกัด จำเลย - นางสาวปณิตา โมกขสุทธิวงศ์

ชื่อองค์คณะ อภิชาต สุขัคคานนท์ สกนธ์ กฤติยาวงศ์ รุ่งโรจน์ รื่นเริงวงศ์

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ตัดสิน ศาลแพ่งชั้นต้น - นายจำเริญศักดิ์ สารธิมา ศาลอุทธรณ์ - นายนุรักษ์ มาประณีต

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th
ติดต่อเราทาง LINE