สารบัญ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 749/2518

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 749/2518

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม. 222, 420, 438, 659

จำเลยประกอบการค้าในการรับฝากรถยนต์ จึงต้องใช้ความระมัดระวังเท่าที่เป็นธรรมดาจะต้องใช้ในการประกอบการค้าตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 659 วรรคท้าย การที่ลูกจ้างจำเลยไปทำธุระที่หลังปั๊มน้ำมันของจำเลย โดยไม่จัดผู้อื่นดูแลแทน และรถยนต์ของโจทก์ที่ฝากจำเลยไว้หายไประหว่างนั้น เป็นการไม่ใช้ความระมัดระวังเท่าที่เป็นธรรมดาจะต้องใช้

รถยนต์ของโจทก์ที่ฝากจำเลยไว้ถูกคนร้ายลักไป โจทก์ต้องจ้างรถยนต์คันอื่นบรรทุกผักแทน เป็นความเสียหายที่โจทก์ได้รับอันเนื่องมาจากโจทก์ไม่ได้ใช้รถยนต์ตามปกติที่เคยใช้ จำเลยจึงต้องชดใช้ให้โจทก์

เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 เป็นห้างหุ้นส่วนจำกัดที่จดทะเบียนแล้วมีจำเลยที่ 2 เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ จำเลยได้เปิดบริการรับฝากรถยนต์ที่ปั๊มน้ำมันของจำเลยที่ 1 สามีโจทก์นำรถยนต์บรรทุกเล็กยี่ห้อดัทสันไปจอดฝากไว้ รถยนต์โจทก์ถูกคนร้ายลักไป เพราะจำเลยไม่ใช้ความระมัดระวังสงวนทรัพย์สินที่รับฝาก จึงขอให้บังคับจำเลยใช้ราคารถยนต์30,000 บาท และค่าเสียหาย ฯลฯ

จำเลยทั้งสองให้การว่า จำเลยไม่เคยรับฝากรถยนต์ของโจทก์ไว้เลยแต่ให้ลูกค้า ของจำเลยเช่าที่จอดรถยนต์ในบริเวณปั๊มน้ำมันของจำเลย

ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า รถยนต์ของโจทก์หายไปขณะฝากไว้ที่ปั๊มนั้นโดยความประมาทเลินเล่อของนายบุญช่วยลูกจ้างของจำเลย พิพากษาให้จำเลยทั้งสองใช้ค่ารถยนต์ให้โจทก์ 30,000 บาท และค่าเสียหายที่โจทก์ต้องจ้างรถยนต์อื่นบรรทุกผักของโจทก์อีก 5,000 บาท รวมเป็นเงิน35,000 บาท

จำเลยทั้งสองอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยทั้งสองฎีกา

ศาลฎีกาฟังว่า จำเลยได้เปิดบริการรับฝากรถยนต์ หาใช่ให้เช่าสถานที่จอดรถยนต์ไม่ และคดีฟังได้ว่าโจทก์ได้ฝากรถไว้กับจำเลย

ศาลฎีกาเห็นว่า จำเลยประกอบการค้าในทางรับฝากรถยนต์ จำเลยจะต้องใช้ความระมัดระวังเท่าที่เป็นธรรมดาจะต้องใช้ในการประกอบการค้านั้นตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 659 วรรคท้ายการที่นายบุญช่วย สำรวยศรี ลูกจ้างของจำเลยไปทำธุระที่หลังปั๊ม ก็ควรจะจัดผู้อื่นดูแลแทน แต่นายบุญช่วยหรือจำเลยก็ไม่จัดการดังกล่าว เมื่อรถยนต์ของโจทก์หายไปในระหว่างนั้น เป็นการไม่ระมัดระวังดูแลรถยนต์ของโจทก์เท่าที่เป็นธรรมดาจะต้องใช้ จำเลยจึงต้องชดใช้ค่าเสียหายให้โจทก์

ในเรื่องค่าเสียหาย ศาลฎีกาเห็นว่าการเรียกให้ชำระค่าเสียหายนั้นยังมีสิทธิเรียกค่าสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายเช่นที่ตามปกติย่อมเกิดขึ้นแต่การไม่ชำระหนี้นั้นอีกได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 222 การที่โจทก์ต้องจ้างรถยนต์คนอื่นบรรทุกผักแทนเป็นความเสียหายที่โจทก์ได้รับอันเนื่องมาจากโจทก์ไม่ได้ใช้รถยนต์ตามปกติที่เคยใช้ ค่าเสียหายจำนวน 5,000 บาท ที่ศาลอุทธรณ์กำหนดให้จำเลยชดใช้ให้โจทก์เป็นการเหมาะสมแล้ว

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา nan

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ชื่อคู่ความ โจทก์ - นางสมนึก ดวงลอย หรือมานุรัตน์ จำเลย - ห้างหุ้นส่วนจำกัดสงวนชัย ที่ 1 จำเลย - นายสงวน แสงชัย ในฐานะหุ้นส่วนผู้จัดการ ที่ 2

ชื่อองค์คณะ ล้วน นิลกำแหง วิทูร เทพพิทักษ์ มงคล วัลยะเพ็ชร์

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ตัดสิน nan

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th
ติดต่อเราทาง LINE