สารบัญ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 734/2539

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 734/2539

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม. 572

สัญญาเช่าซื้อคือสัญญาซึ่งเจ้าของเอาทรัพย์สินออกให้เช่าและให้คำมั่นว่าจะขายทรัพย์สินนั้นหรือว่าจะให้ทรัพย์สินนั้นตกเป็นสิทธิแก่ผู้เช่าโดยเงื่อนไขที่ผู้เช่าได้ใช้เงินเป็นจำนวนเท่านั้นเท่านี้คราวแต่สัญญาฉบับที่โจทก์นำมาฟ้องสาระสำคัญไม่มีลักษณะที่จำเลยทั้งสองนำทรัพย์สินออกให้เช่าและให้คำมั่นว่าจะขายทรัพย์สินนั้นให้โจทก์แม้จะระบุว่าเป็นสัญญาเช่าซื้อสัญญาดังกล่าวก็หาเป็นสัญญาเช่าซื้อไม่

เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยทั้งสองจดทะเบียนโอนที่ดินตามสัญญาเช่าซื้อให้โจทก์ ณ สำนักงานที่ดินอำเภอหนองบัวระเหว ถ้าไม่ปฏิบัติตามให้ถือคำพิพากษาแสดงเจตนาทำนิติกรรมแทนจำเลยทั้งองให้จำเลยทั้งสองเสียดอกเบี้ยแก่โจทก์

จำเลยทั้งสองให้การว่าไม่เคยให้โจทก์เช่าซื้อที่ดิน น.ส.3 ก.เลขที่ 1366 และไม่เคยได้รับเงินจำนวน 75,000 บาท จากโจทก์สัญญาเช่าซื้อที่โจทก์นำมาฟ้องไม่สมบูรณ์ตามกฎหมาย ขอให้ยกฟ้อง

ระหว่างพิจารณาศาลชั้นต้นเห็นว่า คดีพอวินิจฉัยได้แล้วจึงให้งดสืบพยานโจทก์และจำเลยทั้งสอง

ศาลชั้นต้น พิพากษายก ฟ้อง

โจทก์ อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ ภาค 1 พิพากษายืน

โจทก์ ฎีกา

ระหว่างพิจารณาของศาลฎีกา จำเลยที่ 1 ถึงแก่กรรมนางสมหวัง สายสุวรรณทายาทของจำเลยที่ 1 ยื่นคำร้องขอเข้าเป็นคู่ความแทน ศาลฎีกาอนุญาต

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า "มีปัญหาข้อกฎหมายต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่าสัญญาที่โจทก์นำมาฟ้องเป็นสัญญาเช่าซื้อและมีผลบังคับได้ตามกฎหมายหรือไม่ เห็นว่าสัญญาเช่าซื้อนั้นคือสัญญาซึ่งเจ้าของเอาทรัพย์สินออกให้เช่า และให้คำมั่นว่าจะขายทรัพย์สินนั้น หรือว่าจะให้ทรัพย์สินนั้นตกเป็นสิทธิแก่ผู้เช่า โดยเงื่อนไขที่ผู้เช่าได้ใช้เงินเป็นจำนวนเท่านั้นเท่านี้คราวดังที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 572 แต่ตามสัญญาฉบับที่โจทก์นำมาฟ้องนั้นไม่มีลักษณะที่จำเลยทั้งสองนำทรัพย์สินออกให้เช่า และให้คำมั่นว่าจะขายทรัพย์สินนั้นให้โจทก์ แม้สัญญาจะระบุว่าเป็นสัญญาเช่าซื้อ แต่สาระสำคัญในสัญญาไม่เข้าลักษณะสัญญาเช่าซื้อแล้ว สัญญาดังกล่าวก็หาเป็นสัญญาเช่าซื้อตามบทกฎหมายดังกล่าวข้างต้นไม่ ดังนั้น เมื่อประเด็นข้อพิพาทมีเพียงว่าจำเลยทั้งสองให้โจทก์เช่าซื้อที่ดินพิพาทหรือไม่ และโจทก์ชำระค่าเช่าซื้อที่ดินแก่จำเลยทั้งสองครบถ้วนแล้วหรือไม่ จึงไม่มีประโยชน์ที่จะสืบพยานต่อไปเพราะตามคำฟ้องโจทก์บังคับไม่ได้อยู่แล้ว โดยไม่ต้องพิจารณาว่าจำเลยทั้งสองจะให้การต่อสู้อย่างไรและไม่จำต้องวินิจฉัยปัญหาอื่นตามฎีกาของโจทก์ต่อไป ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษายกฟ้องโจทก์ชอบแล้ว ฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น"

พิพากษายืน แต่ไม่ตัดสิทธิโจทก์ฟ้องคดีใหม่ภายในกำหนดอายุความ

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา nan

แหล่งที่มา สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ชื่อคู่ความ โจทก์ - นาย สันติพงษ์ นิมิตรดี จำเลย - นาย ดื้อ อดทน กับพวก

ชื่อองค์คณะ สุทธิ นิชโรจน์ สุชาติ ถาวรวงษ์ สุประดิษฐ์ หุตะสิงห์

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ตัดสิน nan

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th
ติดต่อเราทาง LINE