สารบัญ

คำสั่งคำร้องที่ 73/2545

คำสั่งคำร้องที่ 73/2545

ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ม. 229, 234, 247

ความว่า จำเลยทั้งสองฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า จำเลยทั้งสองฎีกาขอให้ศาลฎีกามีคำพิพากษากลับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 4 จึงต้องนำเงินค่าธรรมเนียม ซึ่งจะต้องใช้แก่คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งตามคำพิพากษาหรือคำสั่งมาวางศาลพร้อมฎีกา ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 229 ประกอบมาตรา 247 แต่จำเลยทั้งสองไม่ดำเนินการดังกล่าว จึงเป็นฎีกาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย จึงไม่รับฎีกา

จำเลยทั้งสองเห็นว่า จำเลยทั้งสองฎีกาคำสั่งศาลชั้นต้นที่ไม่อนุญาตให้จำเลยทั้งสองเลื่อนคดีและงดสืบพยานจำเลยเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา จำเลยทั้งสองมีหน้าที่เพียงแต่วางเงินค่าขึ้นศาลตามที่กฎหมายกำหนด การที่ศาลชั้นต้นสั่งให้จำเลยปฏิบัติตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 229 จึงเป็นการไม่ชอบ โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของจำเลยทั้งสองไว้พิจารณาต่อไป

หมายเหตุ สืบเนื่องจากศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้จำเลยทั้งสองเลื่อนคดี และให้งดสืบพยานจำเลยทั้งสอง แล้วพิพากษาให้จำเลยทั้งสองชำระเงินจำนวน 21,501,116.21บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 19.75 ต่อปี ของต้นเงินจำนวน 15,000,000 บาท นับถัดจากวันฟ้อง (ฟ้องวันที่ 21 กรกฎาคม 2541) จนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ ทั้งนี้หากมีการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยตามประกาศธนาคารแห่งประเทศไทยและประกาศของโจทก์ให้คิดอัตราตามประกาศฉบับใหม่ แต่ไม่ให้เกินอัตราร้อยละ 19.75 ต่อปี ฯลฯ

จำเลยทั้งสองอุทธรณ์คำสั่งที่ไม่อนุญาตให้เลื่อนคดี

ศาลอุทธรณ์ภาค 4 วินิจฉัยว่า จำเลยทั้งสองมิได้นำเงินค่าธรรมเนียมซึ่งจะต้องใช้แก่คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งตามคำพิพากษาหรือคำสั่งมาวางศาลพร้อมอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 229 จึงเป็นอุทธรณ์ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายพิพากษายกอุทธรณ์ของจำเลยทั้งสอง คืนค่าธรรมเนียมศาลชั้นอุทธรณ์ทั้งหมดแก่จำเลยทั้งสอง ค่าทนายความชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ

จำเลยทั้งสองฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว (อันดับ 136)

จำเลยทั้งสองจึงยื่นคำร้องนี้ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าเป็นกรณีที่จำเลยทั้งสองอุทธรณ์คำสั่งไม่รับฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 234 ประกอบมาตรา 247 จึงมีคำสั่งให้จำเลยทั้งสองนำเงินค่าฤชาธรรมเนียมทั้งปวงมาวางศาล และนำเงินมาชำระตามคำพิพากษาหรือหาประกันให้ไว้ต่อศาลชั้นต้นภายในกำหนด 15 วันจำเลยทั้งสองไม่ดำเนินการดังกล่าว ศาลชั้นต้นจึงมีคำสั่งให้ส่งสำนวนไปศาลฎีกา(อันดับ 138)

คำสั่ง

คดีนี้ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษายกอุทธรณ์ของจำเลยทั้งสองคืนค่าธรรมเนียมศาลชั้นอุทธรณ์แก่จำเลยทั้งสอง ค่าทนายความชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ จึงไม่มีเงินค่าฤชาธรรมเนียมที่จำเลยทั้งสองต้องนำมาวาง และไม่มีเงินตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 4 ที่จำเลยทั้งสองต้องนำมาชำระหรือหาประกันให้ไว้ต่อศาล พร้อมคำร้องอุทธรณ์คำสั่งไม่รับฎีกา ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 234 ประกอบมาตรา 247 จึงให้รับคำร้องอุทธรณ์คำสั่งไม่รับฎีกาของจำเลยทั้งสองไว้พิจารณา

พิเคราะห์แล้ว ตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 4 ดังกล่าวข้างต้น ไม่ปรากฏว่ามีเงินค่าฤชาธรรมเนียมซึ่งจะต้องใช้แก่คู่ความอีกฝ่ายตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 4ที่จำเลยทั้งสองต้องนำมาวางศาลพร้อมฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 229 ประกอบมาตรา 247 ที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาเพราะเหตุจำเลยทั้งสองไม่ดำเนินการตามบทบัญญัติดังกล่าว ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย ให้รับฎีกาของจำเลยทั้งสอง ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการต่อไป

เนื้อหาฉบับเต็ม

nan

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา nan

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ชื่อคู่ความ โจทก์ - ธนาคาร กรุงเทพ จำกัด (มหาชน จำเลย - ห้างหุ้นส่วนจำกัด มุกดาหารอุตสาหกรรม กับพวก ผู้ยื่นคำร้อง - นาย ไพฑูรย์ เจียมเจริญกุล ทนายจำเลยทั้งสอง

ชื่อองค์คณะ วีระศักดิ์ รุ่งรัตน์ ศุภชัย ภู่งาม วิบูลย์ มีอาสา

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ตัดสิน nan

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th
ติดต่อเราทาง LINE