สารบัญ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7223/2539

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7223/2539

ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ม. 23 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ม. 198, 210

ศาลชั้นต้นได้อนุญาตให้ผู้ประกันประกันตัวจำเลยไปในระหว่างอุทธรณ์วันสุดท้ายที่จำเลยอาจยื่นอุทธรณ์ได้ผู้รับมอบอำนาจจากผู้ประกันได้มายื่นคำร้องต่อศาลเมื่อเวลา16.25นาฬิกาขอเลื่อนส่งตัวจำเลยและขอขยายระยะเวลาอุทธรณ์ออกไปเป็นเวลา7วันศาลชั้นต้นอนุญาตและจำเลยได้นำอุทธรณ์มายื่นภายในกำหนดเวลาที่ศาลชั้นต้นอนุญาตแต่ผู้ประกันจำเลยไม่มีสิทธิอุทธรณ์คดีนี้เพราะมิใช่คู่ความในคดีจึงไม่มีสิทธิร้องขอหรือมอบอำนาจให้ผู้อื่นร้องขอขยายระยะเวลาอุทธรณ์ดังนั้นคำสั่งของศาลชั้นต้นที่อนุญาตให้ขยายระยะเวลาอุทธรณ์จึงไม่ชอบไม่ทำให้จำเลยมีสิทธิยื่นอุทธรณ์เกินกำหนดหนึ่งเดือนนับแต่วันอ่านคำพิพากษาศาลชั้นต้นตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา198เมื่อฟ้องอุทธรณ์ของจำเลยมิได้ยื่นในกำหนดที่ศาลอุทธรณ์ไม่รับวินิจฉัยและพิพากษายกอุทธรณ์ของจำเลยจึงชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา210แล้ว

เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติทางหลวง พ.ศ. 2535มาตรา 61, 73

จำเลย ให้การรับสารภาพ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติทางหลวงพ.ศ. 2535 มาตรา 61, 73, ลงโทษจำคุก 3 เดือน จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงให้จำคุก 1 เดือน 15 วันให้เปลี่ยนโทษจำคุกเป็นโทษกักขังตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 23มีกำหนด 1 เดือน 15 วัน

จำเลย อุทธรณ์ ขอให้ รอการลงโทษ

ศาลอุทธรณ์ ภาค 2 พิพากษายก อุทธรณ์

จำเลย ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า มีปัญหาว่าศาลอุทธรณ์ภาค 2 ไม่รับวินิจฉัยอุทธรณ์ของจำเลยชอบหรือไม่ ข้อเท็จจริงได้ความว่าศาลชั้นต้นได้อนุญาตให้ผู้ประกันตัวจำเลยไปในระหว่างอุทธรณ์วันสุดท้ายที่จำเลยอาจยื่นอุทธรณ์ได้ผู้รับมอบอำนาจจากผู้ประกันได้มายื่นคำร้องต่อศาลเมื่อเวลา 16.25 นาฬิกา ขอเลื่อนส่งตัวจำเลยและขอขยายระยะเวลาอุทธรณ์ออกไปเป็นเวลา 7 วัน ศาลชั้นต้นอนุญาต และจำเลยได้นำอุทธรณ์มายื่นภายในกำหนดเวลาที่ศาลชั้นต้นอนุญาต เห็นว่า ผู้ประกันจำเลยไม่มีสิทธิอุทธรณ์คดีนี้เพราะมิใช่คู่ความในคดี จึงไม่มีสิทธิร้องขอหรือมอบอำนาจให้ผู้อื่นร้องขอขยายระยะเวลาอุทธรณ์ ดังนั้น คำสั่งของศาลชั้นต้นที่อนุญาตให้ขยายระยะเวลาอุทธรณ์จึงไม่ชอบ ไม่ทำให้จำเลยมีสิทธิยื่นอุทธรณ์เกินกำหนดหนึ่งเดือนนับแต่วันอ่านคำพิพากษาศาลชั้นต้นตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 198เมื่อฟ้องอุทธรณ์ของจำเลยมิได้ยื่นในกำหนด ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 2ไม่รับวินิจฉัยและพิพากษายกอุทธรณ์ของจำเลยจึงชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 210 แล้ว

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา nan

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ชื่อคู่ความ โจทก์ - พนักงานอัยการประจำศาลแขวงสมุทรปราการ จำเลย - นาย บุญเรือง คายเลิศ

ชื่อองค์คณะ สุประดิษฐ์ หุตะสิงห์ สุทธิ นิชโรจน์ สุชาติ ถาวรวงษ์

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ตัดสิน nan

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th
ติดต่อเราทาง LINE