คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6501/2539
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ม. 86, 88, 142
ข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ซึ่งเป็นข้อยกเว้นให้ศาลยกขึ้นวินิจฉัยชี้ขาดตัดสินคดีได้โดยไม่ต้องมีคู่ความฝ่ายใดกล่าวอ้างตาม ป.วิ.พ. มาตรา 142 (5) ดังกล่าวนั้น จะต้องเป็นข้อกฎหมายที่ได้มาจากข้อเท็จจริงในการดำเนินกระบวนพิจารณาโดยชอบ เช่นได้จากหลักฐานพยานซึ่งเกี่ยวกับข้อเท็จจริงที่คู่ความฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดในคดีจะต้องนำสืบ หรือได้จากเอกสารพยานที่มีกฎหมายบังคับให้คู่ความที่กล่าวอ้างต้องแสดงเป็นต้น ดังนั้น การที่โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากห้องแถวพิพาทซึ่งจำเลยเป็นผู้เช่าตามสัญญาเช่า และสัญญาครบกำหนดแล้ว จำเลยให้การยอมรับว่าได้ทำสัญญาเช่าจริง แต่ต่อสู้ว่าเป็นสัญญาต่างตอบแทน โจทก์จึงไม่จำเป็นต้องนำสืบถึงเอกสารสัญญาเช่า เพราะจำเลยมิได้โต้เถียงว่าสัญญาเช่านั้นไม่ชอบด้วยกฎหมายอย่างไร จึงไม่อาจรับฟังข้อเท็จจริงตามที่จำเลยกล่าวอ้างมาในฎีกาเพื่อวินิจฉัยเป็นข้อกฎหมายว่าโจทก์มีอำนาจฟ้องหรือไม่ตามมาตรา 142 (5) ได้
จำเลยมีสิทธิที่จะยื่นบัญชีระบุพยานเพิ่มเติมได้ ตาม ป.วิ.พ.มาตรา 88 วรรคสอง แต่ศาลชั้นต้นก็มีสิทธิที่จะพิเคราะห์ว่าการยื่นบัญชีระบุพยานของจำเลยเกี่ยวกับประเด็นหรือไม่ เป็นการประวิงคดีให้การดำเนินกระบวนพิจารณาเป็นไปอย่างชักช้าหรือไม่ ตามมาตรา 86
nan
หมายเลขคดีดำศาลฎีกา nan
แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ชื่อคู่ความ โจทก์ - นางวีรียา คุณานุกร จำเลย - นายมานิจ บักรี่
ชื่อองค์คณะ ธวัชชัย พิทักษ์พล จองทรัพย์ เที่ยงธรรม ไพฑูรย์ แสงจันทร์เทศ
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ตัดสิน ศาลแพ่ง - นายบรรจง โพธิ์ปลั่ง ศาลอุทธรณ์ - นายโชค จงสงวน