สารบัญ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 634/2518

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 634/2518

พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.2497 ม. 3

เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่าโจทก์ร่วมได้เรียกร้องเอาดอกเบี้ยจากเงินที่โจทก์ร่วมนำมาให้จำเลยยืมไปลงทุนค้าพลอยโดยคิดดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่บัญญัติไว้ในกฎหมาย อันเป็นความผิดอาญาตามพระราชบัญญัติห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราพ.ศ.2475 และจำเลยได้ออกเช็คให้โจทก์ร่วมเพื่อชำระเงินดอกเบี้ยดังกล่าว โจทก์ร่วมย่อมไม่มีสิทธิที่จะเรียกร้องบังคับให้ใช้เงินจำนวนตามเช็คนั้นซึ่งมีมูลหนี้โดยผิดกฎหมายได้จำเลยจึงไม่มีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.2497 แม้ขณะที่ออกเช็คนั้น จำเลยจะไม่มีเงินอยู่ในบัญชีพอที่จะจ่ายเงินจำนวนตามเช็คนั้น (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 1291/2505)

เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยออกเช็คธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด สองฉบับ คือฉบับหมายเลข ข.3107646 และฉบับหมายเลข ข.3107660 สั่งจ่ายเงินให้แก่นายเต็ก แซ่ตั้ง เพื่อชำระหนี้ค่าซื้อพลอย ต่อมานายเต็ก แซ่ตั้ง นำเช็ค 2 ฉบับนี้ไปขึ้นเงินที่ธนาคารนั้น ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินอ้างว่า โปรดติดต่อผู้สั่งจ่ายและเงินในบัญชีไม่พอจ่าย ตามลำดับ ทั้งนี้ จำเลยออกเช็คทั้งสองฉบับนี้ โดยเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็คนั้น และออกเช็คโดยขณะที่ออกไม่มีเงินอยู่ในบัญชีอันจะพึงให้ใช้เงินได้ เหตุเกิดที่ตำบลตลาดน้อย อำเภอสัมพันธวงศ์และตำบลมักกะสัน อำเภอพญาไท กรุงเทพมหานคร เกี่ยวพันกัน ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3

จำเลยให้การปฏิเสธ

นายเต็ก แซ่ตั้ง ผู้เสียหายร้องขอเข้าเป็นโจทก์ร่วม ศาลอนุญาต

ศาลชั้นต้นฟังว่า เช็คฉบับแรกมิใช่ออกเพื่อชำระค่าพลอย แต่ออกค้ำประกันจำนวนเงินที่ผู้เสียหายลงทุนให้นายธาราบุตรผู้เสียหาย และจำเลยเข้าหุ้นกันค้าพลอย จึงไม่เป็นความผิดตามฟ้องส่วนเช็คฉบับสอง ออกชำระค่าดอกเบี้ยในเงินทุนตามเช็คฉบับแรก แต่ขณะออกมีเงินในบัญชีไม่พอจ่ายจึงมีความผิดพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3 จำคุกมีกำหนด 3 เดือน

โจทก์ร่วมและจำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงตามที่ศาลอุทธรณ์ได้วินิจฉัยมาแล้วจากพยานหลักฐานในสำนวนว่า โจทก์ร่วมนำเงินมาลงทุนให้จำเลยค้าพลอยกับนายธาราโจทก์ร่วมคิดดอกเบี้ยจากเงินจำนวนนี้ร้อยละ 2.50 บาทต่อเดือน เช็คฉบับที่สองนี้เป็นเช็คค่าดอกเบี้ยดังกล่าวซึ่งจำเลยจ่ายให้โจทก์ร่วม ศาลฎีกาเห็นว่าเงินที่โจทก์ร่วมนำมาลงทุนให้จำเลยค้าพลอยโดยมิได้แบ่งส่วนกำไรแต่คิดเป็นดอกเบี้ยในลักษณะเดียวกับการให้ยืมเงินไปโดยคิดดอกเบี้ยนั่นเอง การที่โจทก์ร่วมคิดดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนดไว้เช่นนี้ ย่อมเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา พ.ศ. 2475 มาตรา 3 โจทก์ร่วมใช้สิทธิเอาเช็ครายพิพาทไปยื่นต่อธนาคารเพื่อให้จ่ายเงินตามเช็ค ซึ่งมีมูลหนี้โดยผิดกฎหมาย เพื่อให้ได้เงินตามเช็ค เป็นการกระทำผิดอาญาแล้ว โจทก์ร่วมย่อมไม่มีสิทธิจะทำได้ และไม่มีสิทธิที่จะเรียกร้องบังคับให้ใช้เงินจำนวนตามเช็คนั้นได้ จำเลยจึงไม่มีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค

พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้ยกฟ้องโจทก์เกี่ยวกับเช็คฉบับหมายเลข ข.3107660 เสียด้วย นอกจากที่แก้นี้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา nan

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ชื่อคู่ความ โจทก์ - พนักงานอัยการกรมอัยการ จำเลย - นายณรงค์ เวทยา จำเลย - โจทก์ร่วม จำเลย - นายเต็ก แซ่ตั้ง

ชื่อองค์คณะ ธวัช สิทธิชัย กฤษณ์ โสภิตกุล ยงยุทธ เลอลภ

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ตัดสิน nan

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th
ติดต่อเราทาง LINE