สารบัญ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6257/2539

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6257/2539

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม. 296, 618 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ม. 249

แม้จำเลยกับโจทก์ซึ่งเป็นผู้ร่วมขนส่งด้วยกันจะต้องรับผิดร่วมกันในความสูญหายหรือบุบสลายต่อผู้ส่งหรือผู้รับตราส่งซึ่งเป็นผู้ว่าจ้างแต่ระหว่างโจทก์กับจำเลยจะมีความรับผิดต่อกันหรือไม่ต้องขึ้นอยู่กับว่าจำเลยมีส่วนก่อให้เกิดความเสียหายด้วยหรือไม่เมื่อโจทก์มิได้อุทธรณ์คัดค้านข้อเท็จจริงที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าสินค้าที่ขนส่งมิได้เกิดความเสียหายขึ้นในระหว่างการขนส่งทอดแรกของจำเลยแม้ศาลอุทธรณ์จะยกขึ้นวินิจฉัยให้ก็ถือไม่ได้ว่าเป็นข้อที่ได้ยกขึ้นว่ากันแล้วโดยชอบในศาลอุทธรณ์ต้องห้ามมิให้ฎีกาจำเลยจึงไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์

เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ร่วมกับจำเลยขนส่งสินค้า จำเลยขนส่งทอดแรกจากต้นทางกรุงเทพมหานคร ประเทศไทย ไปยังเมืองเกาซุง ไต้หวันด้วยเรือเลขะภูมิ จำเลยรับมอบสินค้าจากตัวแทนของโจทก์ในประเทศไทยครบถ้วนทั้ง 8 ตู้คอนเทนเนอร์ ในสภาพเรียบร้อยและจำเลยส่งมอบสินค้าดังกล่าวให้แก่โจทก์ที่ไต้หวันเมื่อวันที่23 กุมภาพันธ์ 2531 และโจทก์ขนส่งต่อทอดที่ 2 ไปยังปลายทางด้วยเรือเคปชาร์ลส์ เมื่อเรือเดินทางถึงประเทศสหรัฐอเมริกาปรากฎว่าปลาทูน่าบรรจุกระป๋องได้รับความเสียหายเนื่องจากถูกน้ำทะเล กระป๋องขึ้นสนิมและบุบเป็นจำนวนมาก ความเสียหายดังกล่าวเกิดขึ้นระหว่างการขนส่งโดยเรือเลขะภูมิของจำเลยโจทก์ได้ชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้ซื้อหรือผู้รับตราส่งทั้งสี่รายแล้ว และโจทก์มีสิทธิไล่เบี้ยเรียกค่าเสียหายดังกล่าวขอให้บังคับจำเลยชำระเงิน 5,012,071.62 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ7.5 ต่อปี ของต้นเงิน 4,887,539.80 บาท นับถัดจากวันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์

จำเลยให้การว่า จำเลยมิได้ขนส่งปลาทูน่าบรรจุกระป๋องร่วมกับโจทก์ แต่ผู้ที่รับจ้างขนส่งปลาทูน่าบรรจุกระป๋องทอดแรกจากท่าเรือกรุงเทพมหานครถึงเมืองเกาซุง ไต้หวัน คือบริษัทเรจินัลคอนเทนเนอร์ไลน์ (พีทีอี) จำกัด โดยใช้เรือเลขะภูมิขนส่งสินค้าถึงเมืองเกาซุงในสภาพเรียบร้อย มิได้ถูกน้ำทะเลระหว่างการเดินทางและตัวแทนของโจทก์ที่ไต้หวันได้ตรวจสอบตู้คอนเทนเนอร์จนเป็นที่พอใจแล้วว่ามีสภาพเดียวกับที่ฝากส่ง และยอมรับมอบสินค้าโดยมิได้อิดเอื้อนหน้าที่และความรับผิดชอบของผู้ขนส่งทอดแรกจึงสิ้นสุดลง ความเสียหายของสินค้าเกิดจากตู้คอนเทนเนอร์สภาพไม่ดี อากาศในตู้คอนเทนเนอร์เปลี่ยนระหว่างการขนส่ง การบรรจุปลาทูน่าบรรจุกระป๋องเข้ากล่องกับเข้าตู้คอนเทนเนอร์ไม่แน่นอันเป็นความผิดของโจทก์ และความเสียหายเกิดขึ้นภายหลังการขนส่งทอดแรกสิ้นสุดลง ผู้ขนส่งทอดแรกมิต้องรับผิดขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า "พิเคราะห์แล้วโจทก์ฎีกาข้อแรกว่า เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยเป็นผู้ร่วมขนส่ง จำเลยมีฐานะเป็นลูกหนี้ร่วมกันกับโจทก์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 618 โจทก์จึงมีสิทธิไล่เบี้ยจากจำเลยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 296 และมาตรา 297 เห็นว่า แม้จำเลยจะต้องรับผิดร่วมกันกับโจทก์ในความสูญหายหรือบุบสลายต่อผู้ส่งหรือผู้รับตราส่งซึ่งเป็นผู้ว่าจ้างตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 616 และมาตรา 618แต่ระหว่างโจทก์กับจำเลยซึ่งเป็นผู้ร่วมขนส่งด้วยกันจะมีความรับผิดต่อกันหรือไม่ ก็ต้องขึ้นอยู่กับว่าจำเลยมีส่วนก่อให้เกิดความเสียหายด้วยหรือไม่ ปรากฎข้อเท็จจริงตามที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าสินค้าที่ขนส่งมิได้เกิดความเสียหายขึ้นในระหว่างการขนส่งทอดแรกของจำเลย จำเลยไม่ต้องรับผิด ซึ่งข้อนี้โจทก์มิได้อุทธรณ์คัดค้าน ข้อเท็จจริงจึงฟังได้ตามที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยดังกล่าว เมื่อจำเลยมิได้มีส่วนก่อให้เกิดความเสียหายแก่สินค้าที่จำเลยร่วมทำการขนส่งกับโจทก์ จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์ความรับผิดของลูกหนี้ร่วมตามมาตรา 296 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ที่บัญญัติให้ต่างคนต่างต้องรับผิดเป็นส่วนเท่า ๆ กัน เว้นแต่จะได้กำหนดไว้เป็นอย่างอื่นดังที่โจทก์ฎีกานั้นจะบังคับแก่กรณีนี้ได้ต่อเมื่อลูกหนี้ร่วมแต่ละคนมีส่วนก่อให้เกิดความเสียหายขึ้นในการร่วมกันขนส่งเท่านั้น ฎีกาโจทก์ข้อนี้ฟังไม่ขึ้น ส่วนที่โจทก์ฎีกาอีกข้อหนึ่งว่าความเสียหายเกิดขึ้นในระหว่างการขนส่งทอดแรกโดยจำเลยนั้นเมื่อปรากฎว่าโจทก์มิได้ยกข้อนี้ขึ้นโต้แย้งในชั้นอุทธรณ์ แม้ศาลอุทธรณ์จะยกขึ้นวินิจฉัยให้ ก็ถือไม่ได้ว่าเป็นข้อที่ได้ยกข้อนี้ขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลอุทธรณ์ต้องห้ามมิให้ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 249 วรรคแรก ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้ เมื่อวินิจฉัยดังกล่าวแล้วก็ไม่จำต้องวินิจฉัยฎีกาของโจทก์ข้อที่ว่าค่าเสียหายที่โจทก์มีสิทธิไล่เบี้ยเอาแก่จำเลยมีจำนวนเท่าใดต่อไป เพราะไม่ทำให้ผลคดีเปลี่ยนแปลง"

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา nan

แหล่งที่มา สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ชื่อคู่ความ โจทก์ - บริษัท มิตซุย โอ.เอส.เค โลน์ส จำกัด จำเลย - บริษัท อาร์.ซี.แอล.จำกัด

ชื่อองค์คณะ สถิตย์ ไพเราะ ปรีชา เฉลิมวณิชย์ อำนวย สุขพรหม

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ตัดสิน nan

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th
ติดต่อเราทาง LINE