สารบัญ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6134/2533

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6134/2533

ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ม. 155, 156

ศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้องขออุทธรณ์อย่างคนอนาถา ด้วยเหตุคดีฟังไม่ได้ว่าจำเลยเป็นคนยากจนไม่มีทรัพย์สินพอจะเสียค่าธรรมเนียมและคดีจำเลยไม่มีเหตุผลอันสมควรที่จะอุทธรณ์ จำเลยมิได้อุทธรณ์คำสั่งภายในกำหนด 7 วัน จำเลยย่อมหมดสิทธิที่จะอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 156 วรรคท้ายข้อที่ศาลชั้นต้นชี้ขาดว่าคดีของจำเลยไม่มีเหตุผลอันสมควรที่จะอุทธรณ์จึงเป็นอันยุติ ดังนั้นแม้ศาลจะอนุญาตให้จำเลยนำพยานหลักฐานมาแสดงเพิ่มเติม และฟังได้ว่าจำเลยเป็นคนยากจนไม่มีทรัพย์สินพอจะเสียค่าธรรมเนียม ศาลก็จะอนุญาตให้จำเลยดำเนินคดีอย่างคนอนาถาไม่ได้เพราะการที่จะอนุญาตให้จำเลยดำเนินคดีอย่างคนอนาถาในชั้นอุทธรณ์ได้นั้น คดีของจำเลยจะต้องมีเหตุผลอันสมควรที่จะอุทธรณ์ด้วย การที่จำเลยยื่นคำร้องขอให้พิจารณาคำขอใหม่เพื่ออนุญาตให้จำเลยนำพยานหลักฐานมาแสดงเพิ่มเติมว่าจำเลยเป็นคนยากจน แล้วศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้อง และจำเลยยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้น จะถือว่าเป็นการอุทธรณ์คำสั่งในประเด็นที่ศาลชั้นต้นชี้ขาดว่าคดีของจำเลยไม่มีเหตุผลอันสมควรที่จะอุทธรณ์อยู่ในตัวหาได้ไม่.

เนื้อหาฉบับเต็ม

คดีสืบเนื่องจากศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยแพ้คดี จำเลยยื่นคำร้องขออุทธรณ์อย่างคนอนาถา ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วเห็นว่าคดีรับฟังไม่ได้ว่าจำเลยเป็นคนยากจนไม่มีทรัพย์สินพอจะเสียค่าธรรมเนียม และคดีของจำเลยไม่มีเหตุสมควรที่จะอุทธรณ์ มีคำสั่งให้ยกคำร้อง ถ้าจำเลยประสงค์จะดำเนินคดีต่อไป ให้นำเงินค่าธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์มาวางศาลภายใน 7 วัน นับแต่วันมีคำสั่ง

จำเลยยื่นคำร้องขอให้พิจารณาคำขอใหม่ เพื่อให้ศาลอนุญาตให้จำเลยนำพยานหลักฐานมาแสดงว่าจำเลยเป็นคนยากจน

ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำร้อง

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งให้ยกอุทธรณ์คำสั่งของจำเลย หากจำเลยประสงค์จะดำเนินในชั้นอุทธรณ์ต่อไป ก็ให้นำค่าธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์มาชำระต่อศาลชั้นต้นภายในกำหนด 15 วัน นับแต่วันทราบคำสั่ง

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีนี้ศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้องขออุทธรณ์อย่างคนอนาถาด้วยเหตุคดีฟังไม่ได้ว่า จำเลยเป็นคนยากจน ไม่มีทรัพย์สินพอจะเสียค่าธรรมเนียมประการหนึ่ง และคดีจำเลยไม่มีเหตุผลอันสมควรที่จะอุทธรณ์อีกประการหนึ่งจำเลยมิได้อุทธรณ์คำสั่งภายในกำหนด 7 วัน นับแต่วันที่มีคำสั่ง จำเลยย่อมหมดสิทธิที่จะอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 156 วรรคท้ายข้อที่ศาลชั้นต้นชี้ขาดว่าคดีของจำเลยไม่มีเหตุผลอันสมควรที่จะอุทธรณ์จึงเป็นอันยุติดังนั้น แม้ศาลจะอนุญาตให้จำเลยนำพยานหลักฐานมาแสดงเพิ่มเติมและฟังได้ว่าจำเลยเป็นคนยากจนไม่มีทรัพย์สินพอจะเสียค่าธรรมเนียมก็ตาม ศาลก็จะอนุญาตให้จำเลยดำเนินคดีอย่างคนอนาถาไม่ได้ เพราะการที่จะอนุญาตให้จำเลยดำเนินคดีอย่างคนอนาถาในชั้นอุทธรณ์ได้นั้น คดีของจำเลยจะต้องมีเหตุผลอันสมควรที่จะอุทธรณ์ด้วย ตามนัยแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 155 วรรคหนึ่ง การที่จำเลยยื่นคำร้องขอให้พิจารณาคำขอใหม่ เพื่ออนุญาตให้จำเลยนำพยานหลักฐานมาแสดงเพิ่มเติมว่าจำเลยเป็นคนยากจน แล้วศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้องและจำเลยยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นที่ไม่อนุญาตให้มีการพิจารณาคำขอใหม่นั้น จะถือว่าเป็นการอุทธรณ์คำสั่งในประเด็นที่ศาลชั้นต้นชี้ขาดว่าคดีของจำเลยไม่มีเหตุผลอันสมควรที่จะอุทธรณ์อยู่ในตัวหาได้ไม่ ฎีกาคำสั่งของจำเลยที่ขอให้พิจารณาคำขอใหม่ฟังไม่ขึ้น

พิพากษาให้ยกฎีกาคำสั่งของจำเลย หากจำเลยประสงค์จะดำเนินคดีในชั้นอุทธรณ์ต่อไป ก็ให้นำค่าธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์มาวางต่อศาลชั้นต้นภายในกำหนด 15 วัน นับแต่วันทราบคำพิพากษานี้.

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา nan

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ชื่อคู่ความ โจทก์ - กองทัพอากาศ จำเลย - บริษัท ไทย อา มา เม้นส์ จำกัด

ชื่อองค์คณะ สวิน อักขรายุธ ประคนธ์ พันธุ์วิชาติกุล ชาติศักดิ์ ธรรมศักดิ์

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ตัดสิน nan

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th
ติดต่อเราทาง LINE