สารบัญ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6051/2540

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6051/2540

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม. 1452, 1496 เดิม, 1495

เมื่อการสมรสระหว่างโจทก์และ ส. ผู้ตายเป็นการสมรสที่ชอบด้วยกฎหมายของรัฐเนววาดา ประเทศสหรัฐอเมริกาและชอบด้วยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1459 วรรคหนึ่งแล้ว ต่อมาจำเลยได้จดทะเบียนสมรสกับ ส. สามีโจทก์ตามกฎหมายไทยอีก จึงเป็นการจดทะเบียนในขณะที่ ส.มีคู่สมรสอยู่ก่อนแล้ว เป็นการฝ่าฝืนบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1452 ตกเป็นโมฆะตามมาตรา 1496 ซึ่งใช้บังคับอยู่ในขณะที่จำเลยจดทะเบียนสมรสกับ ส.

เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2514 โจทก์จดทะเบียนสมรสโดยชอบด้วยกฎหมายกับนายสากล วนสินธุ์ ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาต่อมาเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2532 จำเลยได้จดทะเบียนสมรสกับนายสากล วนสินธุ์ สามีโจทก์ ในขณะที่โจทก์เป็นคู่สมรสโดยชอบด้วยกฎหมายอยู่ก่อนแล้วการสมรสระหว่างจำเลยกับนายสากลเป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมายและเป็นโมฆะ ขอให้โจทก์ว่าการสมรสระหว่างจำเลยกับนายสากล วนสิทธุ์ เป็นโมฆะ

จำเลยให้การว่า จำเลยกับนายสากล วนสินธุ์ จดทะเบียนสมรสกันโดยถูกต้องตามกฎหมาย ส่วนโจทก์มิใช่คู่สมรสของนายสากล จนสินธุ์ตามกฎหมาย จึงไม่มีอำนาจฟ้อง ขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษากลับว่า การสมรสระหว่างจำเลยกับนายสากล วนสินธุ์ เป็นโมฆะ

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาแผนกคดีเยาวชนและครอบครัววินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังยุติได้ในเบื้องต้นว่า เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2532 จำเลยได้จดทะเบียนสมรสกับนายสากล วนสินธุ์ ผู้ตาย ที่สำนักทะเบียนเขตพระโขนง กรุงเทพมหานคร ปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยมีว่า โจทก์เป็นภริยาโดยชอบด้วยกฎหมายของนายสากลตามกฎหมายของรัฐเนวาดา ประเทศสหรัฐอเมริกาหรือไม่ โจทก์อ้างตนเองเบิกความว่าเมื่อวันที่ 5 กันยายน 2514 โจทก์ได้จดทะเบียนสมรสกับนายสากลที่เมืองคลาร์ด รัฐเนววาดา ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งได้มีการรับรองโดยเจ้าหน้าที่ของเมืองคลาร์ค รัฐเนวาดา ประเทศสหรัฐอเมริกาเจ้าหน้าที่สถานกงสุลใหญ่ในรัฐแคลิฟอร์เนียเป็นผู้รับรองสำเนาถูกต้อง ต่อมาได้มีการแปลเป็นภาษาไทยโดยศูนย์ภาษาและการแปลอาเซียนและเจ้าหน้าที่ฝ่ายนิติกรกระทรวงการต่างประเทศได้รับรองว่ามีการแปลถูกต้อง นอกจากนี้โจทก์ยังมีนายไพโรจน์ รัศมีวิเชียรทองซึ่งเป็นพยานรู้เห็นเหตุการณ์ในการที่โจทก์และนายสากลเข้าร่วมพิธีสมรส และเป็นพยานที่ระบุในใบสำคัญการสมรสว่าเป็นพยานด้วยเบิกความสนับสนุนว่าโจทก์และผู้ตายได้ทำการสมรสกันจริง ทั้งโจทก์มีใบสำคัญการสมรสเอกสารหมาย จ.1 (หรือ จ.12) จ.2 และคำแปลเอกสารหมาย จ.3 (หรือ จ.13) ประกอบซึ่งเอกสารดังกล่าวดังกล่าวเจ้าหน้าที่สถานกงสุลใหญ่ในรัฐแคลิฟอร์เนียรับรอง เชื่อได้ว่าใบสำคัญการสมรสเป็นเอกสารแท้จริงและถูกต้องทั้งข้อความในใบสำคัญการสมรสเอกสารหมาย จ.1 ระบุว่าเป็นการสมรสที่ชอบด้วยกฎหมาย เมื่อจำเลยมิได้นำสืบหักบ้างให้เห็นเป็นอย่างอื่น จึงฟังว่าการสมรสระหว่างโจทก์และนายสากลผู้ตายเป็นการสมรสที่ชอบด้วยกฎหมายของรัฐเนวาดาประเทศสหรัฐอเมริกา และชอบด้วยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1459 วรรคหนึ่ง แล้ว ดังนั้นในขณะที่จำเลยจดทะเบียนสมรสกับนายสากลตามกฎหมายไทยจึงเป็นการจดทะเบียนในขณะที่นายสากลมีคู่สมรสอยู่ก่อนแล้วเป็นการฝ่าฝืนบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1452 ตกเป็นโมฆะ ตามมาตรา 1496ซึ่งใช้บังคับอยู่ในขณะนั้น

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา nan

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ชื่อคู่ความ โจทก์ - นาง จรรยา วน สิน ธุ์ หรือ คล้าย สี แก้ว จำเลย - นาง บุปผา วน สิน ธุ์หรือเกิดศิริ

ชื่อองค์คณะ สมปอง เสนเนียม จารุณี ตันตยาคม กอบเกียรติ รัตนพาณิช

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ตัดสิน nan

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th
ติดต่อเราทาง LINE