คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6029/2531
ประมวลกฎหมายอาญา ม. 83, 289 (4)
จำเลยทั้งสองกับพวกใช้รถยนต์เป็นพาหนะไปที่บ้านผู้ตายโดยจำเลยที่ 2 แสร้ง ทำเป็นพ่อค้าเร่ขายจักรเย็บผ้า จำเลยที่ 1กวักมือเรียกผู้ตายให้ออกจากบ้านแล้วยิงผู้ตาย ในขณะที่จำเลยที่ 2ถือปืนคุ้มกันแล้วจำเลยทั้งสองขึ้นรถหลบหนีไปด้วยกัน ดังนี้เป็นการแบ่งหน้าที่กันทำโดยมีการเตรียมอาวุธ ยานพาหนะและวางแผนไว้ก่อนแล้ว การกระทำของจำเลยทั้งสองจึงเป็นความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสองตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 289, 83 ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยทั้งสองมีความผิดตามฟ้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยทั้งสองเป็นคนร้ายยิงผู้ตายและวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า "การที่จำเลยทั้งสองกับพวกใช้รถปิกอัพเป็นยานพาหนะ เมื่อมาถึงบ้านผู้ตายจำเลยที่ 1 ได้ลงจากรถเข้าไปกวักมือให้ผู้ตายออกมาจากบ้านแล้วใช้อาวุธปืนยิงถึง 2 นัด ส่วนจำเลยที่ 2 ใช้อุบายบอกว่ามาขายจักรรุ่นเก่า เมื่อจำเลยที่ 1 ใช้อาวุธปืนยิงผู้ตาย จำเลยที่ 2 ก็ถืออาวุธปืนคุ้มกัน แล้วจำเลยทั้งสองได้ขึ้นรถหลบหนีไปด้วยกันซึ่งเป็นการแบ่งหน้าที่กันทำโดยมีการเตรียมอาวุธ ยานพาหนะ และวางแผนไว้ก่อนแล้ว การกระทำของจำเลยทั้งสองจึงเป็นความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาลงโทษจำเลยทั้งสองต้องกันมานั้นชอบแล้วศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย"
พิพากษายืน
หมายเลขคดีดำศาลฎีกา nan
แหล่งที่มา เนติบัณฑิตยสภา
ชื่อคู่ความ โจทก์ - อัยการ บุรีรัมย์ โจทก์ - โจทก์ร่วม โจทก์ - นาย สมบูรณ์ คัน ชั่ง ทอง จำเลย - จ่าสิบตำรวจ วิจิตร จันทรา กับพวก
ชื่อองค์คณะ ประชา บุญวนิช บุญส่ง วรรณกลาง นิเวศน์ คำผอง
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ตัดสิน nan