สารบัญ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5756/2531

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5756/2531

ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ม. 93, 104, 127

หนังสือแสดงการจดทะเบียนรถยนต์บรรทุก เป็นเอกสารราชการที่เจ้าพนักงานกรมการขนส่งทางบกทำขึ้นใช้เป็นต้นฉบับสำหรับผู้ขอจดทะเบียน แม้ผู้ร้องจะมิได้ขอให้ศาลหมายเรียกเอกสารมาจากกรมการขนส่งทางบกหรือมิได้นำเจ้าพนักงานมาสืบรับรอง ก็รับฟังสนับสนุนคำเบิกความของผู้ร้องให้มีน้ำหนักน่าเชื่อถือได้

เนื้อหาฉบับเต็ม

คดีนี้สืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงินตามเช็คพร้อมด้วยดอกเบี้ยแก่โจทก์ จำเลยไม่ชำระหนี้ตามคำพิพากษาโจทก์จึงบังคับคดีและนำยึดรถยนต์บรรทุก 6 ล้อ หมายเลขทะเบียน83-6864 กรุงเทพมหานคร ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า ผู้ร้องเป็นเจ้าของรถยนต์บรรทุกที่ถูกยึดขอให้ถอนการยึดทรัพย์ โจทก์คัดค้าน ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วมีคำสั่งให้ยกคำร้อง ผู้ร้องอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับว่า ให้เพิกถอนการยึด โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า "ข้อเท็จจริงฟังได้ในเบื้องต้นว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ทำการยึดรถยนต์บรรทุก 6 ล้อ หมายเลขทะเบียน83-6864 กรุงเทพมหานคร ในปัญหาที่ว่า รถยนต์ดังกล่าวเป็นของผู้ร้องหรือไม่ นายอรรถพร กระจ่างศิลป์ ผู้ร้องเบิกความว่ารถยนต์บรรทุกหมายเลขทะเบียน 83-6864 กรุงเทพมหานคร เดิมมีหมายเลขทะเบียน 80-0558 สมุทรสาคร (ที่ถูก 80-0588 สมุทรสาคร)และนางสาวสุมาลี ศีลานนท์ เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ตามเอกสารหมาย ร.1ผู้ร้องได้ซื้อรถยนต์คันดังกล่าวจากนางสาวสุมาลี ผู้ร้องได้ย้ายทะเบียนรถยนต์มาจดทะเบียนที่กรมการขนส่งทางบกตามเอกสารหมาย ร.2ปรากฏว่า เอกสารหมาย ร.1 มีชื่อนางสาวสุมาลีเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์รถยนต์หมายเลขทะเบียน 80-0588 สมุทรสงคราม ส่วนเอกสารหมาย ร.2ผู้ร้องเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์รถยนต์หมายเลขทะเบียน 83-6864กรุงเทพมหานคร ศาลฎีกาตรวจเอกสารหมาย ร.1 และ ร.2 แล้ว ปรากฏว่าเลขเครื่องยนต์ เลขตัวถังและอื่น ๆ ตรงกัน และเอกสารหมาย ร.2มีบันทึกของเจ้าหน้าที่ว่า ย้ายจากสมุทรสงคราม ทะเบียน ส.ส.80-0588เปลี่ยนจากรถเดิม 7,000 กิโลกรัม โอนทะเบียนจากนางสาวสุมาลีศีลานนท์ เมื่อ 3 มิถุนายน 2525 และเอกสารหมาย ร.2 ดังกล่าวเป็นเอกสารราชการที่เจ้าพนักงานกรมการขนส่งทางบกทำขึ้นใช้เป็นต้นฉบับสำหรับผู้ขอจดทะเบียน แม้ผู้ร้องจะมิได้ขอให้ศาลหมายเรียกมาหรือมิได้นำเจ้าพนักงานมาสืบรับรองก็รับฟังสนับสนุนคำเบิกความของผู้ร้องได้ คำเบิกความของผู้ร้องมีน้ำหนักน่าเชื่อถือ โจทก์อ้างว่ารถยนต์บรรทุกดังกล่าวเป็นของจำเลย แต่ไม่มีพยานหลักฐานมาแสดง จึงเป็นการกล่าวอ้างลอย ๆ พยานหลักฐานผู้ร้องมีน้ำหนักมากกว่าพยานหลักฐานโจทก์ ฟังได้ว่ารถยนต์บรรทุก หมายเลขทะเบียน83-6864 กรุงเทพมหานคร เป็นของผู้ร้อง ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษามานั้นศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย"

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา nan

แหล่งที่มา เนติบัณฑิตยสภา

ชื่อคู่ความ โจทก์ - นาง จิระพันธ์ กมล ศิลป์ ผู้ร้อง - นาย อรรถ พร กระจ่าง ศิลป์ จำเลย - นาย พงษ์ เทพ กระจ่าง ศิลป์

ชื่อองค์คณะ บุญส่ง วรรณกลาง ประชา บุญวนิช เธียร ยูงทอง

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ตัดสิน nan

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th
ติดต่อเราทาง LINE