คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5552/2539
พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2465 ม. 65 วรรคแรก
การที่จำเลยแบ่งเฮโรอีนที่บรรจุอยู่ในหลอดพลาสติกบรรจุลงในหลอดกาแฟแล้วเอาเทียนไขลนปิดหัวท้ายเป็นการผลิตเฮโรอีนตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษพ.ศ.2522มาตรา65วรรคหนึ่งแล้วไม่จำต้องเป็นการผลิตเพื่อจำหน่ายอันเป็นความผิดตามมาตรา65วรรคสอง
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกับพวกซึ่งหลบหนีร่วมกันผลิตเพื่อจำหน่ายซึ่งเฮโรอีนโดยร่วมกันแบ่งเฮโรอีนจากหลอดพลาสติกใส (หลอดบิ๊ก)5 หลอด น้ำหนัก 3.198 กรัม บรรจุลงในหลอดกาแฟตัดสั้นปิดหัวท้ายยาว 1 นิ้ว โดยแบ่งเป็นหลอด ๆ ได้ 3 หลอด น้ำหนัก 0.046 กรัมเพื่อนำออกจำหน่ายและจำเลยกับพวกร่วมกันมีเฮโรอีนจำนวน 8 หลอดน้ำหนัก 3.241 กรัม ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522มาตรา 4, 7, 8, 15, 65, 66, 102 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 91ริบของกลาง คืนธนบัตรของกลางแก่เจ้าของ
จำเลยให้การปฎิเสธ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติ ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 4, 7, 8,15 วรรคหนึ่ง, 65 วรรคหนึ่ง, 67, 102 การกระทำเป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษฐานผลิตเฮโรอีนอันเป็นบทหนักที่สุดจำคุกตลอดชีวิต คำให้การของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาคดีมีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้หนึ่งในสาม คงจำคุก 33 ปี 4 เดือนของกลางริบ ส่วนธนบัตรของกลางคืนเจ้าของ
จำเลย อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ ภาค 3 พิพากษายืน
จำเลย ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า "ข้อเท็จจริงฟังเป็นยุติว่า ในวันเกิดเหตุจำเลยได้นำเฮโรอีนจากเฮโรอีนที่บรรจุอยู่ในหลอดพลาสติกฝาแดงบรรจุลงในหลอดกาแฟแล้วเอาเทียนไขลนปิดหัวท้าย โดยเจ้าพนักงานตำรวจยึดได้เฮโรอีนบรรจุในหลอดพลาสติกฝาแดง 4หลอด น้ำหนัก 3,180 กรัม ที่ตัวจำเลย และหลอดพลาสติกฝาแดงอยู่ในกระท่อมอีก 1 หลอด มีเฮโรอีนติดอยู่น้ำหนัก 0.015 กรัมกับเฮโรอีนในหลอดกาแฟปิดผนึกหัวท้ายอีก 3 หลอด และยังมีหลอดกาแฟ50 หลอด ใบมีดโกน เทียนไข และไม้ขีดไฟ 1 กลัก มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยว่าจำเลยผลิตเฮโรอีนหรือไม่โดยจำเลยฎีกาว่าการผลิตจะต้องเป็นการผลิตโดยสกัดเฮโรอีนมาจากพืชและมีส่วนผสมของสารเคมีต่าง ๆ เพื่อประกอบเป็นเฮโรอีนและไม่มีผู้ใดเห็นว่า จำเลยบรรจุเฮโรอีนใส่หลอดกาแฟแล้วนำไปขายหรือรับเงินจากใครอันเป็นการผลิตซึ่งการผลิตนั้นจะต้องผลิตเพื่อจำหน่ายด้วยแต่จำเลยกระทำเพื่อแบ่งเฮโรอีนจากจำนวนมากเป็นจำนวนน้อยใส่หลอดกาแฟลนปิดหัวท้ายเพื่อสะดวกในการเสพนั้นเองจึงฟังไม่ได้ว่าจำเลยกระทำผิดฐานเป็นผู้ผลิตเห็นว่าพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 4 บัญญัติว่า "ผลิต"หมายความว่า เพาะ ปลูก ทำ ผสม ปรุง แปรสภาพ เปลี่ยนรูปสังเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์ และให้หมายความรวมตลอดถึงการแบ่งบรรจุหรือรวมบรรจุด้วย และมาตรา 65 วรรคหนึ่ง บัญญัติว่าผู้ใดผลิต นำเข้าหรือส่งออกซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท 1ต้องระวางโทษจำคุกตลอดชีวิต วรรคสองบัญญัติว่า ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคหนึ่งเป็นการกระทำเพื่อจำหน่าย ต้องระวางโทษประหารชีวิตดังนั้นการที่จำเลยได้แบ่งเฮโรอีนบรรจุใส่ลงในหลอดกาแฟนั้นเป็นการผลิตเฮโรอีนตามความหมายของพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษพ.ศ. 2522 มาตรา 4 อันเป็นความผิดตามมาตรา 65 วรรคหนึ่งโดยหาจำต้องเป็นการผลิตเพื่อจำหน่ายซึ่งเป็นความผิดตามมาตรา 65 วรรคสอง ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษามานั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น"
พิพากษายืน
หมายเลขคดีดำศาลฎีกา nan
แหล่งที่มา สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ชื่อคู่ความ โจทก์ - พนักงานอัยการจังหวัดสงขลา จำเลย - นาย อุหมาด หละหมานหรือหละหมัน
ชื่อองค์คณะ ทวิช กำเนิดเพ็ชร์ ทองเลื่อน พูลพิพัฒน์ ชลอ ทองแย้ม
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ตัดสิน nan