คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 537/2523
ประมวลกฎหมายอาญา ม. 143
เรียกทรัพย์ว่าจะนำไปให้ผู้พิพากษาตัดสินยกฟ้องแม้ผู้เรียกไม่ตั้งใจจะเอาทรัพย์ที่เรียกไปให้เจ้าพนักงานนั้นเลย ก็เป็นการกระทำที่ครบองค์ความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 143 แล้ว
จำเลยเรียกทรัพย์จาก อ. และ ป. โดยอ้างว่าจะนำไปให้ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลเพื่อจูงใจให้ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลช่วยเหลือบุตรของ อ. และ ป.ที่ถูกฟ้องคดีอาญา ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 143 จำคุก 3 ปี จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า "ปัญหาสุดท้ายที่จำเลยฎีกาว่าแม้จะฟังว่าจำเลยเรียกร้องเงินจากนายอั้น นางเป้ ที่สุดก็ไม่มีการตอบแทนหรือจูงใจเจ้าพนักงาน เพราะเป็นแต่เพียงอุบายของจำเลยเท่านั้น จำเลยรับเงินแล้วไม่นำไปให้ การกระทำของจำเลยน่าจะเป็นความผิดฐานฉ้อโกง ซึ่งโจทก์มิได้ฟ้อง ไม่เป็นความผิดตามมาตรา 143 ตามฟ้องของโจทก์แต่อย่างใดนั้นเห็นว่าเมื่อข้อเท็จจริงฟังว่าจำเลยเรียกเงินจากนายอั้น นางเป้ เพื่อจะนำไปให้ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลพิพากษายกฟ้องปล่อยนายหลี บุตรของนายอั้นนางเป้ การกระทำของจำเลยดังกล่าว แม้เป็นแต่เพียงอุบายของจำเลยที่เรียกเอาทรัพย์สินของนายอั้น นางเป้ ไว้เป็นของจำเลยเสียเอง โดยไม่ได้ตั้งใจจะเอาไปให้เจ้าพนักงานคนใดเลยดังที่จำเลยฎีกานั้น ก็เป็นการกระทำที่ครบองค์ความผิดเกี่ยวกับการปกครองตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 143แล้ว"
พิพากษายืน
หมายเลขคดีดำศาลฎีกา nan
แหล่งที่มา เนติบัณฑิตยสภา
ชื่อคู่ความ โจทก์ - อัยการพิจิตร จำเลย - นายชัยรัตน์ หรือเปีย วิลาสินี
ชื่อองค์คณะ วิทูร เทพพิทักษ์ ไพบูลย์ ไวกาสี สุนทร วรรณแสง
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ตัดสิน nan